Forward P/E Ratio หุ้น Tesla ร่วงลงมาต่ำกว่า 60 เท่าแล้ว ! ราคาหุ้น Tesla Inc (NASDAQ:TSLA)ระดับ 900 เหรียญ นี้ ยังแพงไปหรือไม่ ? และคืนพรุ่งนี้อาจเป็น โอกาสสุดท้าย ที่เราจะได้เห็นราคาในระดับนี้กันแล้ว
ถึงแม้ว่าในช่วงที่ FED กำลังจะมีกำหนดประชุม FOMC ในคืนวันพรุ่งนี้ (หรือเช้าตรู่วันพฤหัสเวลาไทย) จะเป็นช่วงเวลาที่น่าวิตกกังวลสำหรับนักลงทุนหลายท่าน ว่า FED จะมีการขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าที่กำหนดไหม ? จะมีการใช้นโยบาย Quantitative Tightening (QT) หรือนโยบายดึงสภาพคล่องออกจากระบบหรือไม่ ?
ส่วนตัวแล้วในฐานะนักลงทุนระยะยาวในหุ้น Tesla ทางแอดมินรู้สึกว่านี่ถือเป็น #โอกาสอันงดงาม ที่ทาง FED กำลังประทานลงมาให้กับพวกเราอย่างแท้จริง
เพราะในเวลาเพียงแค่ 3 อาทิตย์ราคาหุ้น Tesla ได้ร่วงลงมาจากระดับ 1,200 เหรียญลงมาเหลือเพียง 900 เหรียญ หรือ -25% ภายในเวลาอันสั้น ก่อนที่ทาง Tesla กำลังจะมีการประกาศงบไตรมาสที่ 4 ของปีที่แล้วออกมาหลังการประชุม FED (หรือเช้าตรู่วันพฤหัสเวลาไทย)
นี่อาจจะเป็น โอกาสสุดท้าย แล้วที่เราจะได้เห็นราคาหุ้น Tesla ในเลข 3 หลัก
เพราะถึงแม้การขึ้นดอกเบี้ยของ FED จะมีผลกระทบต่อ Valuation ของ Tesla ในเชิง Discounted Cash Flow แต่ต้องบอกเลยว่าการขึ้นดอกเบี้ยของ FED จะไม่ได้มีผลกระทบต่อการประกอบธุรกิจของ Tesla แต่อย่างใด
การประกาศขึ้นดอกเบี้ยหรือการถอนสภาพคล่องออกของ FED
1️. ไม่ได้ทำให้รถ Tesla ขายได้ลดน้อยลงไป เพราะความต้องการตอนนี้ก็รอคิวไปเกิน 6 เดือนแล้ว และก็คงไม่มีอะไรมาหยุดยั้งการ Transition ของโลกเราไปสู่ EV ที่ทาง Tesla กำลังเป็นผู้นำอยู่อย่างแท้จริง
2️. ไม่ได้ทำให้ Tesla ผลิตรถได้ช้าลง และในความเป็นจริงแล้วปีนี้ Tesla กำลังจะผลิตรถได้เพิ่มขึ้นอีก x2 เท่า จากโรงงานใหม่ใน Berlin และ Texas ที่กำลังจะเปิดในปีนี้
3️. ไม่ได้ทำให้ Tesla ขาดสภาพคล่องทางการเงิน หรือมีปัญหาเรื่องภาระหนี้ที่เพิ่มขึ้นแต่อย่างใด เพราะทาง Tesla ได้ทำการจ่ายผ่อนภาระหนี้ออกไปเยอะมากแล้ว และทุกวันนี้ก็มีกระแสเงินสดเป็นกำไรมหาศาล
4️. ปัญหาเรื่องเงินเฟ้อก็ไม่ได้มีผลกระทบต่อ Tesla ด้วย มิหนำซ้ำยังทำให้ Margin ของ Tesla เพิ่มสูงขึ้นจากการขึ้นราคารถยนต์ได้อีกด้วย อย่างที่เราเห็นกันมาตลอดทั้งปีว่า Tesla ปรับราคารถยนต์ขึ้นตลอด แต่คิวการจองก็ยังยาว และ Margin ก็ค่อยๆเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ
ทำให้การที่การประชุม FED จะไม่ได้มีผลกระทบต่อปัจจัยพื้นฐานของบริษัท Tesla เลย แต่กลับทำให้ราคาหุ้นถูกลง -25% ได้ นั้นจึง #ถือว่าเป็นโอกาส ที่ FED ประทานมาให้นักลงทุนจริงๆ
การร่วงลงของราคาหุ้น Tesla ในขณะที่กำไรที่บริษัททำได้กลับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆนั้น ทำให้ Forward P/E Ratio หุ้น Tesla ร่วงลงมาต่ำกว่า 60 เท่าแล้ว
ตอนนี้หากเราดูการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ในตลาดถึงกำไรของหุ้น Tesla ในปี 2023 เราจะเห็นได้ว่านักวิเคราะห์มองเทียบกำไรของบริษัท Tesla จะอยู่ที่ 1.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ หากเรานำ Market Cap ของ Tesla ที่ 9 แสนล้านเหรียญ (ที่ราคาหุ้น 900 เหรียญ) เราจะเห็นได้ว่า P/E Ratio นั้นจะอยู่ที่เพียง 60 เท่า เท่านั้น !
ระดับ P/E Ratio ที่ 60 เท่านี้ ถือว่าเป็นระดับ Forward P/E ที่ต่ำที่สุดเท่าที่ Tesla เคยเห็นมานับตั้งแต่บริษัทสามารถพลิกกลับเป็นกำไรได้ติดๆกันในปีช่วงต้นปี 2020 เป็นต้นมา
(หรืออาจจะเรียกได้ว่าเป็นโอกาสในการเข้าซื้อตามตำรา VI ที่ดีที่สุดในรอบ 2 ปี !)
และในมุมมองส่วนตัวของแอด P/E ที่แท้จริง ที่ไม่ได้คาดการณ์โดยนักวิเคราะห์อาจจะต่ำกว่านี้ด้วยซ้ำ !
ในเช้าวันพฤหัสนี้ Tesla กำลังจะประกาศงบไตรมาสที่ 4 ของปีที่แล้วออกมา และนักลงทุน Tesla ที่แท้จริงก็จะรู้กันว่า Tesla ก็จะทำกำไรได้สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้อีกครั้ง !
ตลอด 8 ไตรมาสที่ผ่านมา ทางนักวิเคราะห์ได้คาดการณ์กำไรของ Tesla ได้ต่ำไปถึง 7 ครั้ง และสุดท้ายก็ทำให้พวกเขาต้องปรับตัวเลขกำไรในอนาคตให้สูงขึ้นตามไปโดยตลอด แต่ผ่านมา 2 ปีแล้วก็ยังคงคาดการณ์ต่ำไปอยู่ตลอกถึงแม้จะมีการปรับขึ้นแล้วก็ตาม
(ทำให้การประกาศงบในวันที่ 27 เช้านี้ ก็จะต่ำไปด้วยอีกครั้ง และทำให้พวกเขาปรับขึ้นกำไรในอนาคตอย่างต่อเนื่อง)
หากเรามาดูกำไรที่ Tesla อาจทำให้อย่างแท้จริงในปี 2023 ด้วยกำลังการผลิตที่โตขึ้นกว่าที่คาด +20% และด้วย Margin ที่สูงกว่าที่ตลาดคาด 10% (เลขกลมๆ) กำไรของ Tesla ในปี 2023 จริงๆแล้วอาจจะออกมาที่ 2.0 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐก็เป็นได้ !
และด้วยกำไร 2.0 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ เทียบกับ Market Cap ของ Tesla ที่ 9 แสนล้านเหรียญ (ที่ราคาหุ้น 900 เหรียญ) เราจะเห็นได้ว่า P/E Ratio นั้นจะอยู่ที่เพียง 45 เท่า เท่านั้น !
ด้วยการเติบโตของ Tesla ที่จะสูงกว่า +50% ไปตลอดอีก 3 ปี หรือ 5 ปี หรือ 10 ปีข้างหน้า P/E แค่เพียง 45 เท่านี้ยังไม่ถูกอีกหรือ ?
ราคาหุ้นบริษัทเทคยักษ์ใหญ่อย่าง Amazon, Apple (NASDAQ:AAPL) ต่างก็เคยเติบโตบน P/E ratio ที่สูงกว่า 45 เท่ามาโดยตลอด และอัตราการเติบโตของพวกเขาในอดีตก็ยังไม่สามารถเทียบได้กับอัตราการเติบโตของ Tesla ด้วยซ้ำ
ทำให้วิกฤตของตลาดที่เกิดขึ้นจาก FED ครั้งนี้ จึง #เปิดโอกาสให้นักลงทุนไทย ได้เข้าไปเป็นเจ้าของหุ้นบริษัทแห่งทศวรรษอย่าง Tesla ที่ราคาถูกได้ขนาดนี้
ติดตามข่าวสารการลงทุนที่น่าสนใจไปกับ Facebook fanpage ทันโลกกับTraderKP
บทความนี้เผยแพร่ครั้งแรกที่ Facebook fanpage ทันโลกกับTraderKP