ท่ามกลางตลาดหุ้นที่กำลังโดนเทขายอย่างหนักหน่วง ! สัญญาณ VIX Index หรือดัชนีวัดความกลัวของนักลงทุน อาจกำลังพยายามบอกเราว่า "จุดที่เลวร้ายที่สุด กำลังจะผ่านไปแล้ว"
1️. อย่างที่รู้กันว่าเราเพิ่งผ่านอาทิตย์ที่เลวร้ายที่สุดในรอบ 2 ปีสำหรับตลาดหุ้นสหรัฐมาอย่างหมาดๆ
ในอาทิตย์ที่ผ่านมาดัชนี S&P500 และ Nasdaq ต่างปรับตัวลดลงมา -5% และ 6% ตามลำดับ (เป็นการเทขายหนักที่สุดนับตั้งแต่มีนาคมปี 2020) และทั้ง 2 ดัชนีต่างก็ปรับตัวลดลงมา -11% และ -15% จากจุดสูงสุดตามลำดับแล้วนับตั้งแต่ช่วงต้นปีนี้
ถึงแม้ช่วงนี้เราจะหาข่าวดีกันแทบไม่ได้ และทาง Goldman Sachs ก็เพิ่งออกรายงานล่าสุดมาว่า FED อาจต้องขึ้นดอกเบี้ยทุกครั้งที่มีการประชุมในปีนี้ หรือปรับขึ้นจากรายงานครั้งก่อนที่มองว่า FED อาจต้องขึ้นดอกเบี้ย 4 ครั้งในปีนี้อีกด้วย...
#อย่างไรก็ตาม สัญญาณจาก VIX Index หรือดัชนีวัดความกลัวของตลาดอาจกำลังพยายามส่งสัญญาณบอกเหล่านักลงทุนว่า "จุดที่เลวร้ายที่สุด กำลังจะผ่านไปแล้ว"
2. VIX Index คืออะไร ?
S&P500 Volatility Index (VIX) เป็นดัชนีหลักที่นักลงทุนใช้จับตามองเพื่อทำนายอนาคตของตลาด เพราะมันเป็นตลาดที่นักลงทุนขาใหญ่และนักลงทุนสถาบันเท่านั้นที่เข้ามาซื้อขายในตลาดนี้กัน (มันไม่ใช่ตลาดที่จะมีรายย่อยเข้าไปเล่น) ทำให้สัญญาณที่ตลาดนี้บ่งบอกออกมาคือความคิดโดยรวมของนักลงทุนรายใหญ่
ดัชนี VIX Index คือตลาดที่นักลงทุนใช้ซื้อขายความผันผวนของตลาด ไม่ว่าจะเพื่อเป็นการเก็งกำไรหรือเพื่อทำการประกันความเสี่ยง (Hedging) ของแต่ละนักลงทุน ยิ่งระดับราคา VIX Index ถูกซื้อขึ้นไปสูง ก็เท่ากับว่านักลงทุนมองว่าตลาดจะมีความผันผวนสูง
และในยามที่ VIX Index พุ่งขึ้นสูงมันก็จะหมายความว่านักลงทุนเริ่มไม่มั่นใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นในตลาด หรือนักลงทุนมองว่าจะมีความผันผวนสูง ทำให้ VIX Index จึงเป็นที่รู้กันในอีกชื่อว่า "ดัชนีวัดความกลัวของตลาด"
3. โดย กฏเหล็ก ที่เทรดเดอร์ Options จะจับตามองอยู่เสมอก็คือ "ส่วนมากตลาดและ VIX จะปรับตัวสวนทางกัน"
1) หากตลาดเป็นขาลง ดัชนีความผันผวนควรปรับตัวขึ้น
2) หากตลาดเป็นขาขึ้น ดัชนีความผันผวนควรปรับตัวลง
นั้นคือสภาพที่ตลาดไม่น่ากังวลนักเพราะไม่มีอะไรแปลกปลอม และตลาดที่เป็นเทรนด์ขึ้นอย่างต่อเนื่องควรทำให้ความผันผวนของตลาดน้อยลงหากมาจากการขึ้นด้วยความมั่นใจของนักลงทุน แต่เมื่อไหร่ที่ตลาดเป็นขาขึ้นและ VIX Index ปรับตัวขึ้นด้วย จึงเป็นสถานการณ์ไม่ปกติและกำลังแสดงว่าตลาดไม่ได้ขึ้นมาด้วยความมั่นใจของนักลงทุน
4️. สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในตลาดตอนนี้คือ VIX Index กำลังพุ่งสูงมากเกินไป สูงเกินจนทำให้ Curve กลับตัวเป็น Inverted แล้ว
แน่นอนว่าการที่ตลาดโดนเทขาย VIX Index ก็ย่อมจะปรับตัวสูงขึ้นไปตามๆกัน ล่าสุด VIX Index ได้ดีดขึ้นไปแตะระดับ 28.9 จุดแล้ว หรือสูงที่สุดในรอบเกือบ 1 ปีเลยทีเดียว (มีครั้งเดียวที่ VIX ปรับตัวสูงขึ้นกว่านี้ในปีที่ผ่านมาคือช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน ในช่วงที่โอมิครอนเพิ่งเริ่มระบาด)
แต่การปรับตัวสูงขึ้นของ VIX ในครั้งนี้แตกต่างจากครั้งอื่นคือ VIX Index ไม่ได้ปรับตัวขึ้นทั้ง Curve หรือความผันผวนของตลาดกำลังเพิ่มขึ้นในเดือนปัจจุบันเท่านั้น แต่ไม่ได้เพิ่มสูงมากขึ้นในเดือนถัดๆไปในอนาคต
โดยทาง VIX Index นั้นมีการเทรดแต่ละสัญญาสำหรับแต่ละเดือนในอนาคต และตอนนี้ VIX ของเดือนมกราคม (ที่หมดอายุในเดือนกุมภาพันธ์) กำลังเทรดอยู่สูงกว่าสัญญาเดือนกุมภาพันธ์เสียอีก หรืออยู่ในรูปแบบ Backwardation (ราคาในปัจจุบันอยู่สูงกว่าในอนาคต)
ซึ่งเป็นสภาพตลาดที่ไม่เหมือนสภาพปกติ โดยปกติแล้วราคาในอนาคตของ VIX จะอยู่ในรูปแบบ Contango (ราคาในปัจจุบันอยู่ต่ำกว่าในอนาคต) เพราะนักลงทุนจะกังวลและไม่แน่ใจกับความเคลื่อนไหวของราคาในเดือนไกลๆมากกว่าเดือนใกล้ๆอยู่เสมอ ทำให้การที่ราคาเดือนใกล้กลับพุ่งสูงกว่ากำลังส่งสัญญาณว่านักลงทุนกำลังกังวลกับสภาพตลาดเดือนนี้มากกว่าในอนาคต
ซึ่งก็คงเป็นเรื่องจริง เพราะการประชุม FED ในสัปดาห์นี้คงเป็นนัดการประชุมที่สำคัญที่สุดแห่งปีเลยก็ว่าได้
5️. จากสถิติในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ทุกครั้งที่ดัชนี VIX กลับตัวเป็น Inverted หรือกลับตัวเป็น Backwardation ตลาดหุ้นจะเด้งกลับอย่างรุนแรง 1 อาทิตย์เสมอ
โดยในปี 2020 ที่ผ่านมาดัชนี VIX ได้กลับตัวเป็น Inverted เพียงแค่ 4 ครั้ง และทั้ง 4 ครั้งที่เกิดขึ้นตลาดก็เด้งกลับอย่างรุนแรงภายในเวลาไม่กี่วัน (กราฟแนบในคอมเม้นท์)
อาจเป็นเพราะทุกครั้งที่ VIX กลับตัวเป็น Inverted มันจะหมายความว่านักลงทุนกำลังกังวลมากเกินไป และใส่เงินเข้าไปซื้อประกันมากเกินไปแล้ว และเมื่อสิ่งที่เกิดขึ้นจริงไม่ได้น่ากลัวเท่าที่คาดตลาดก็กลับตัวแรงอยู่เสมอ
6️. ทางเพจเชื่อว่าเรายังคงต้องจับตาดูผลการประชุม FED อย่างใกล้ชิดในคืนวันพุธนี้
เพราะถึงแม้สัญญาณ VIX จะบ่งบอกว่านักลงทุนจะกังวลและกลัวมากเกินไป แต่หากทาง FED มีการปรับขึ้นดอกเบี้ยมากกว่า 0.25% จริงๆ ตลาดก็คงจะโดนเทขายอย่างต่อเนื่องแน่
เพราะฉะนั้นเรามีนัดฟังผล FED พร้อมกันในคืนวันพุธเวลาตี 2 (เช้าวันพฤหัสที่ 27) เวลาไทยนะครับ
ติดตามข่าวสารการลงทุนที่น่าสนใจไปกับ Facebook fanpage ทันโลกกับTraderKP
บทความนี้เผยแพร่ครั้งแรกที่ Facebook fanpage ทันโลกกับTraderKP