Investment Ideas: • ภาพรวมการลงทุน - เราคาดว่า SET วันนี้ จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,660-1,690 จุด คาด SET เคลื่อนไหวในกรอบ Sideway ถึง Sideway up หลังสหรัฐฯ รายงานตัวเลขเงินเฟ้อเดือน ธ.ค. 64 ตามคาด ขณะที่ตลาดหุ้นตอบรับมุมมองเชิงบวก ต่อถ้อยแถลงของประธานเฟดที่มีมุมมอง เชิงบวกต่อภาพรวมเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง รวมไปถึงการปรับเพิ่มขึ้นของราคาน้ํามันดิบยังคงเป็น แรงหนุนหุ้นในกลุ่มพลังงาน เราให้น้ําหนักเก็งกําไร เลือก PTT (BK:PTT) PTTEP TOP และ SPRC เป็นหุ้น เด่น รวมไปถึงการปรับลดลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร จะเป็นบวกต่อหุ้นในกลุ่ม Growth Stock รวมไปถึงหุ้นในกลุ่ม Dividend Play ทําให้หุ้นในกลุ่ม Tech และกลุ่มผู้ผลิต ไฟฟ้าที่ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลสูง น่าสนใจในการลงทุน ในช่วง 2 สัปดาห์จากนี้ SET จะไม่มีแรงกดดัน โดยเรายังคงต้องติดตามการประชุมของคณะกรรมการกําหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่มีกําหนดการประชุมวันที่ 25-26 ม.ค. โดยเราให้ น้ําหนักต่อการที่เฟดจะปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยในปี 2565 ไม่น้อยกว่า 3 ครั้ง ซึ่งจะกระทบ Valuation ของทุกสินทรัพย์ จากอัตราคิดลด (Discount Rates) ที่ปรับเพิ่ม ตามทิศทางของ อัตราดอกเบี้ยที่ปรับเพิ่ม เงินเฟ้อสหรัฐฯ เดือน ธ.ค. ตามคาด เรายังมีมุมมองเป็นบวกต่อตลาด จนถึงวันประชุม FOMC (25-26 ม.ค.)
- กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ รายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อ จากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ในเดือน ธ.ค. เพิ่มขึ้น 0.59% MoM และเพิ่มขึ้น 7.09%YoY สูงสุดตั้งแต่ มิ.ย.2525 และสอดคล้องกับ Market Consensus คาด และเป็นการปรับเพิ่มจากเดือน พ.ย. ที่เพิ่มขึ้น 0.86MoM และเพิ่มขึ้น 6.8%YoY ด้านดัชนี CPI พื้นฐาน (ไม่นับรวมหมวดอาหารและ พลังงาน) ในเดือน ธ.ค. เพิ่มขึ้น 0.66MoM และเพิ่มขึ้น 5.5%YoY สูงกว่าที่ Market Consensus คาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.56MoM และเพิ่มขึ้น 5.4%YoY และเพิ่มขึ้นจากเดือน พ.ย. ที่เพิ่มขึ้น 0.5%MoM และเพิ่มขึ้น 4.99%YoY ผลจากรายงานอัตราเงินเฟ้อดังกล่าว ทําให้อัตราผลตอบแทน พันธบัตรสหรัฐฯ ปรับลดลง ล่าสุด Bond Yield 10 ปี ปรับลดลงมาอยู่ที่ 1.75% และสร้างความ เชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นต่อถ้อยแถลงของประธานเฟด ที่จะสามารถควบคุมเงินเฟ้อ รวมทั้งภาพรวม เศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ยังคงแข็งแกร่ง
• ราคาน้ํามันดิบยังได้รับแรงหนุนจากปัญหาอุปทานที่คลี่คลาย แนะเก็งกําไร เลือก PTT PTTEP TOP และ SPRC - ราคาน้ำมันดิบยังตอบรับเชิงบวกจากการรายงานปริมาณสํารองน้ํามันดิบสหรัฐฯ โดยสํานักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณสํารองน้ํามันดิบ สหรัฐฯ ลดลง 4.6 ล้านบาร์เรล ในสัปดาห์ผ่านมา มากกว่าที่ Market Consensus ที่คาดว่าจะลดลง เพียง 1.6 ล้านบาร์เรล สอดคล้องกับรายงานปริมาณสํารองน้ํามันดิบสหรัฐฯ ของสถาบันปิโตรเลียม อเมริกา (API) ที่ระบุปริมาณสํารองน้ํามันดิบสหรัฐฯ ลดลง 1.1 ล้านบาร์เรล ในสัปดาห์ที่ผ่านมา นอกจากนี้รายงานของ EIA ยังระบุปริมาณสํารองน้ํามันดิบ ที่เมืองคูชิง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่ง มอบสัญญาน้ํามันดิบล่วงหน้าของสหรัฐฯ ลดลง 2.5 ล้านบาร์เรล ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ด้านปริมาณ สํารองน้ํามันสําเร็จรูป ทั้งปริมาณสํารองน้ํามันดิบเบนซินเพิ่มขึ้น 8 ล้านบาร์เรล (คาดเพิ่มขึ้น 3 ล้าน บาร์เรล) และปริมาณสํารองน้ํามันกลั่น (ฮีตติ้งออยล์และน้ํามันดีเซล) เพิ่มขึ้น 2.5 ล้านบาร์เรล (คาดเพิ่มขึ้น 2 ล้านบาร์เรล) เรายังคงมุมมองเดิมต่อราคาน้ํามันดิบ เชื่อจะยังสามารถทรงตัวใน ระดับสูงในช่วงที่เหลือของเดือน ม.ค. จาก Seasonal Demand และแรงกดดันด้านอุปทานที่ลดลงระยะสั้น แนะเก็งกําไรหุ้นในกลุ่ม OIL Play เลือก PTT PTTEP TOP และ SPRC
• มุมมองทางเทคนิค – หุ้นแนะนําปัจจัยทางเทคนิค เราเลือก SONIC PSH และ BEM
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Asia Wealth Securities