ปรับวิธีคิด พิชิตการลงทุน หุ้นปีเสือ

สวัสดีปีใหม่ครับทุกคน ปีนี้พอร์ตของเราจะเป็นเสือชีตาห์วิ่งปราดเปรียว หรือจะเป็นเสือหมอบไม่ไปไหน

ไม่ได้ขึ้นอยู่กับแค่เศรษฐกิจ สภาพตลาด หรือตัวธุรกิจเท่านั้น แต่สิ่งที่สำคัญไปกว่านั้นคือ วิธีคิดของเราตั้งแต่ต้นปีว่าเป็นอย่างไรมากกว่า

หลายครั้งที่เราพลาดหรือขาดทุนไม่ใช่ว่าเราไม่เก่ง หรือไม่เข้าใจธุรกิจ แต่อาจเป็นเพราะวิธีคิดของเรานั้นผิดไป ฤกษ์งามยามดีต้นปี วิตามินหุ้นชวนคุยให้ทุกคนลองปรับมุมคิดให้เฉียบคมขึ้นแบบนี้ครับ

1️. หุ้นที่ขึ้นแรงทุกตัว ไม่จำเป็นต้องมีเรา

เคยสังเกตมั้ยครับว่า เราชอบซื้อหุ้นที่ขึ้นแรง หุ้นทีมีข่าว หุ้นที่มีคนเชียร์ เราจะรู้สึกตื่นเต้นและอยากจะเข้าไปมีส่วนร่วมกับกำไรนั้น แต่ตัวไหนที่เราไล่ซื้อมักจะติดดอย ตัวไหนที่ไม่ได้ซื้อจะวิ่งไปไกลและเราก็จะบ่นเสียดาย เรียกได้ว่า หุ้นทุกตัวที่ขึ้นแรงๆ เราอยากมีไปซะหมด แต่ผลตอบแทนมักจะไม่ดี

ในความเป็นจริง เราไม่จำเป็นต้องเหนื่อยไล่ตามขนาดนั้นทุกวันก็ได้ เพราะเรามักจะช้ากว่าคนอื่นหลายก้าวเสมอ แค่เราเลือกตัวที่เข้าใจมากพอ ตัวที่ราคาอยู่ในโซนน่าลงทุน ไม่ไล่ราคา แล้วซื้อแค่ไม่กี่ตัวแต่มีน้ำหนักที่มากพอ แบบนี้กลับทำให้ผลตอบแทนดีกว่ามาก

2️. สนามหญ้าบ้านคนอื่นเขียวกว่าเราเสมอ เพราะปลูกหญ้าไม่เหมือนกัน

เคยสังเกตมั้ยครับว่า เรามักชอบเปรียบเทียบผลตอบแทนของเรากับคนอื่น ทั้งเพื่อนสนิท ทั้งญาติพี่น้อง หรือแม้แต่คนใน Facebook ใน Line ที่เราไม่เคยเจอหน้ากันด้วยซ้ำ บางครั้งเราทำกำไรได้ 20% แต่คนอื่นได้ 40% 50% หรือเป็นเด้ง เราก็จะรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ รู้สีกว่าเราไม่เก่ง

ในความเป็นจริง มันไม่จำเป็นเลยที่เราจะต้องไปเปรียบเทียบกับใครด้วย 2 เหตุผล คือ เป้าหมายของแต่ละคนไม่เหมือนกัน และความสม่ำเสมอในการทำกำไรสำคัญกว่าผลตอบแทนหวือหวาในระยะสั้น ถ้าเราทำผลตอบแทนได้ 20% ติดต่อกัน 10 ปี สุดท้ายแล้ว ผลลัพธ์จะดีกว่าคนที่ได้กำไรปีนี้เป็นเด้ง ปีหน้าขาดทุน

3️. อย่าโลภเกินความรู้

เคยสังเกตมั้ยครับว่า เวลาเราทำงานประจำ เราทำธุรกิจส่วนตัว เรามีความรู้ความชำนาญในเรื่องที่เราทำเป็นอย่างดี เราฝึกฝนมาอย่างดี สุดท้ายเราก็ได้ผลกำไรจากความเก่งของเรา

แต่ในการลงทุน บางคนไม่ขยัน ไม่ขวนขวายหาความรู้เหมือนงานประจำ แต่เรากลับหวังผลที่เป็นเลิศจากการซื้อขายหุ้นด้วยการไม่มีความรู้ที่เพียงพอ บางครั้งโชคดีกำไร บางครั้งโชคไม่ดีขาดทุน ในระยะยาวแล้ว ตลาดก็จะมอบเงินที่เหมาะสมให้เราเท่ากับความรู้ที่เรามี

4️. หุ้นจะขึ้นแรงต้องมีเจ้ามือ หรือรู้ inside ก่อนคนอื่น จริงไหม

หลายคนมีความคิดแบบนี้ว่า หุ้นจะขึ้น เจ้ามือต้องลาก ไม่งั้นไม่ไป หรือต้องมีคนที่รู้ inside รู้ข้อมูลภายในก็จะมาซื้อหุ้นก่อนเรา ยังไงเราก็ไม่ทันเกมส์ของคนเหล่านี้ ทำให้เราขาดทุนเรื่อยมา ยิ่งลงทุนยิ่งท้อ ยิ่งโทษว่าเจ้าไม่ดี แบบนั้นแบบนี้

ในความเป็นจริง ก็คงจะมีคนรู้ข้อมูลก่อนอยู่บ้าง หรือมี market maker มีคนที่ซื้อหุ้นจำนวนมาก ที่เวลาขยับตัวทีก็จะมีผลต่อราคาหุ้น แต่ถ้าเรามัวแต่คิดแบบนี้เราก็จะไปต่อไม่ได้

เราต้องคิดใหม่ว่า เราสามารถศึกษาพฤติกรรมเขาเหล่านั้นได้มั้ย มีสัญญาณอะไรให้จับได้มั้ย หรือเราอาจจะไม่ต้องสนใจมากก็ได้ ขอแค่เราเลือกหุ้นที่พื้นฐานดี ธุรกิจดี กำไรจะเติบโตต่อเนื่อง เราจะซื้อทีหลัง market maker ก็ไม่เป็นไร สุดท้ายหุ้นขึ้นเหมือนกัน เขาลงทุนเยอะกำไรเยอะ เรารู้ช้า ลงทุนน้อยกว่า ก็กำไรน้อยกว่า ก็ดูยุติธรรมดี

5️. อย่าหวั่นไหวกับความผันผวนระยะสั้น ให้ยึดมั่นกับคุณค่าระยะยาว

เคยสังเกตมั้ยครับว่า ปีนึงตลาดหุ้นจะลงแรงๆ วันละหลายสิบจุด อยู่ซัก 3-4 ครั้ง หุ้นเราที่คิดว่าดี ก็ลงมากับเค้าด้วย และเรามักจะกลัวที่เห็นกำไรลดลง หรือบางครั้งก็ขาดทุนไปเลย ทำให้เรามักจะขายหุ้นออกไปเสมอ แต่สุดท้ายอีกไม่กี่วันต่อมา พอสถานการณ์คลี่คลาย หุ้นตัวที่เราขายไปก็กลับมาที่เดิม เป็นแบบนี้เรื่อยมา

คือ เรามักจะกลัว กังวล ทำใจไม่ได้ ซึ่งไม่แปลก เป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์ แต่ถ้าเราเข้าใจหุ้นที่เราถืออย่างถ่องแท้ พิจารณาให้รอบคอบว่าที่ราคามันลงมา มันสมควรลงมั้ย ธุรกิจเปลี่ยนมั้ย หรือแค่ลงมาตามตลาดเท่านั้น

เพราะถ้าเป็นแบบนั้น เราก็ไม่ต้องทำอะไร ถ้ามูลค่าหุ้นยัง under value หรือเราอาจจะซื้อเพิ่มด้วยซ้ำ เพราะสุดท้ายหุ้นก็น่าจะกลับมาที่เดิมหรือขึ้นสูงกว่าเดิมได้นั่นเอง เราต้องกล้าที่จะถือหุ้นผ่านความผันผวนนั้นให้ได้

วิธีการที่จะช่วยได้คือ ทำการบ้านตอนกลางคืน ตอนตลาดปิด ตอนที่เรามีสติ เพื่อเอาไว้รับมือเวลาตาดแพนิค และเราอาจจะขาดสติได้ ให้วาง scenario ให้ครบถ้วน และตัดสินใจตามแผนที่วางไว้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น

ผมเชื่อว่า อย่างน้อย เราปรับวิธีคิดให้ได้ 5 ข้อนี้ก่อน แล้วจิตใจของเราก็จะแข็งแกร่งขึ้น mindset ของเราจะไปอยู่ในทิศทางที่ถูกต้อง และไม่ว่าจะเป็นเสือแบบไหนที่เข้ามาในปีนี้ เราก็พร้อมที่จะรับมือได้ทั้งหมด

ขอให้ทุกคนโชคดีกับการลงทุนหุ้นปีเสือครับ

บทความนี้เผยแพร่ครั้งแรกทาง Stock Vitamins - วิตามินหุ้น