🏃 คว้าข้อเสนอ Black Friday ก่อนใคร รับส่วนลดสูงสุด 55% สำหรับ InvestingPro ตอนนี้!รับส่วนลด

SET Index น่าจะอยู่ในกรอบ 1618 -1640 Top Pick เลือก BLA, CPALLและ KBANK

เผยแพร่ 11/11/2564 10:19
อัพเดท 09/07/2566 17:32
IXIC
-
SETI
-
CPALL
-
KBANK
-

เงินเฟ้อสหรัฐเดือน ต.ค. ที่สูงกว่าคาดสร้างความกังวลทิศทางอัตราดอกเบี้ยที่ อาจปรับขึ้นได้เร็วกว่ากำหนด อย่างไรก็ตามเรายังมองว่ากรณีดังกล่าวอาจถูก ยกขึ้นมาเป็นเหตุในการ Take Profit ในระยะสั้นหลังตลาดทำ All time high มาหลายวัน ส่วนในบ้านเราการประชุม กนง.ผลออกมาตามคาดคือ คงอัตรา ดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.5% ขณะที่ให้ภาพเศรษฐกิจว่า ได้ผ่านจุดต่ำสุดในงวด 3Q64 และจะเริ่มกลับมาฟื้นตัว ส่วนเงินเฟ้อที่คาดหมายใน 1 ปีข้างหน้ายังอยู่ ในกรอบที่ต่ำวก่า 2% จึงเชื่อว่ายังไม่สร้างแรงกดดันให้ต้องเร่งปรับขึ้นอัตรา ดอกเบี้ย ส่วนการเมืองจากนี้ไปต้องจับตาในฐานะปัจจัยที่สร้างแรงกดดัน หลัง ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยคำร้องที่เกี่ยวเนื่องกับการชุมนุมในช่วงที่ผ่านมา

SETIndex ยังอยู่ภายใต้แรงกดดันทำให้ปรับตัวขึ้นได้ยาก กรอบการ เคลื่อนไหวอยู่ช่วง 1618 – 1640 จุด พอร์ตจำลองวันนี้ไม่ได้มีการปรับเปลี่ยน Top Pick เลือก BLA, CPALL (BK:CPALL) และ KBANK (BK:KBANK)

อัตราเงินเฟ้อสหรัฐร้อนแรง ผลัก Bond Yield เพิ่มขึ้น

อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐเดือน ต.ค. 2564 ยังขยายตัวสูง กล่าวคือ อัตราเงินเฟ้อทั่วไป ขยายตัว 6.2%yoy (ตลาดคาด 5.8%yoy) สอดคล้องกับอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน หรือ อัตราเงินเฟ้อที่ไม่นับราคาพลังงานและอาหารสดขยายตัว 4.6%yoy (ตลาดคาด 4.3%yoy)

อัตราเงินเฟ้อที่สูงกว่าคาดสร้างความกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) มีโอกาสปรับ ขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่ากกำหนดเดิม (การประชุมเดือน ก.ย. 2564 Fed ส่งสัญญาณ ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วง 2H65) โดยความกังวลการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยส่งผลต่อ ตลาดการเงินโลกดังนี้

Bond Yield ขยับขึ้น และ Dollar Index แข็งค่า:

- Bond Yield สหรัฐขยับขึ้นเกือบทุกช่วงอายุ เช่น Yield 1 ปีปรับขึ้น 0.03%, Yield 5 ปีปรับขึ้น 0.15%, Yield 10 ปีปรับขึ้น 0.1% เป็น ต้น เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยในอนาคตมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเร็วกว่าคาด

- Dollar Index แข็งค่าพลิกกลับมาแข็งค่าแรง 0.95% เพราะ Bond Yield ที่ขยับขึ้นช่วยดึงดูด Fund Flow กลับไปยังสหรัฐ และ Dollar Index ยังได้แรงเสริมจากมุมมองเศรษฐกิจสหรัฐที่ขยายตัวอย่าง มั่นคง เนื่องจากการที่ Fed จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ ย่อมหมายถึง เศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวอย่างมั่นคงและแข็งแกร่ง

สินทรัพย์เสี่ยงปรับลดลง:

  • ตลาดหุ้นโลกปรับฐาน โดยดัชนี Dow Jonesลดลง 0.66%, S&P 500 ลดลง 0.82%, NASDAQ ลดลง 1.66% เพราะเมื่ออัตราดอกเบี้ยมี แนวโน้มกลับมาเป็นขาขึ้น จะกระทบต่อการประเมินมูลค่า (Valuation) ของตลาดหุ้น โดยส่งผลให้ Valuation จะมีแนวโน้มตึง ตัวมากขึ้น ประกอบกับตลาดหุ้นโลกปรับเพิ่มขึ้นแรงจนทำจุดสูงสุด ใหม่ (All Time High) หลายครั้งในช่วงที่ผ่านมา จึงมีโอกาสปรับฐาน ได้ง่ายขึ้นตามไปด้วย

  • ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับลง เช่นถ่านหิน และน้ำมันดิบ เนื่องจาก เผชิญแรงกดดันจาก Dollar Index ที่พลิกกลับมาแข็งค่า และราคา น้ำมันยังถูกกดดันจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของ สหรัฐ (EIA) รายงานสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 1ล้านบาร์เรลสวน ทางกับที่สถาบัน API รายงานมาก่อนหน้าว่าสต็อกน้ำมันดิบลดลง 2.5 ล้านบาร์เรล

กนง. คงอัตราดอกเบี้ยตามคาด แต่ Highlight อยู่ที่มุมมองการฟื้นตัวแต่ละ Sector

ผลการประชุม กนง. วานนี้มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.5% ตามที่ ตลาดและ ASPS คาด โดยในการประชุมครั้งนี้ กนง. ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยผ่านจุด ต่ำสุดแล้วใน 3Q64 แต่แนวโน้มการฟื้นตัวยังเปราะบาง ส่วนอัตราเงินเฟ้อปรับเพิ่มขึ้น จากราคาพลังงาน ซึ่งเป็นปัจจัยชั่วคราว จึงยังให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้โดย กนง. เน้นย้ำว่าแม้อัตราเงินเฟ้อในระยะสั้นจะเพิ่มขึ้น แต่ถ้าพิจารณาอัตราเงินเฟ้อคาดการณ์ จะพบว่ายังทรงตัวต่ำ ทั้งในระยะสั้น และระยะกลาง-ยาว

มุมมองต่ออัตราเงินเฟ้อของ กนง. สามารถประเมินได้ว่า กนง. จะมีแนวโน้มคงอัตรา ดอกเบี้ยนโยบายไว้ในระดับต่ำต่อไป โดย ASPS คาดว่า กนง. จะคงอัตราดอกเบี้ย นโยบายที่ 0.5% ไว้ตลอดปี 2564 และ 2565 ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยอยู่ที่จุดต่ำสุดแล้ว ในปัจจุบัน ซึ่งจะทำให้ Market Earning Yield Gap (ส่วนต่างผลตอบแทนตลาดหุ้นกับ พันธบัตร 1 ปี) ยังสูง ช่วยให้ตลาดหุ้นไทยยังน่าลงทุน โดยประเมินดัชนีเป้าหมาย ปลายปี 2564 ที่ระดับ 1,670 จุด และดัชนีเป้าหมายปลายปี 2565 ที่ระดับ 1,840 จุด

ขณะที่ในการประชุมครั้งนี้ กนง. ฝ่ายวิจัยคาดว่า Highlight คือมุมมองการฟื้นตัวของ แต่ภาคเศรษฐกิจเพิ่มเติม ด้วย โดยแบ่งเป็นภาคเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวเร็ว และฟื้นตัวช้า (ดัง รูป)จากรูปข้างต้น พบว่ามุมมองของ กนง. สอดคล้องกับ ASPS พอสมควร สะท้อนจาก หุ้นที่ ASPS แนะนำในช่วงที่ผ่านมาเน้นไปที่กลุ่มค้าปลีก, โรงแรม-ท่องเที่ยว เป็นหลัก ซึ่ง ASPS เชื่อว่าหุ้นในกลุ่มนี้น่าจะได้อานิสงส์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจต่อไป ส่วน กลุ่มที่มีแนวโน้มฟื้นตัวช้ากว่า เช่น ก่อสร้าง และอสังหาริมทรัพย์ คาดว่าจะเห็นการฟื้น ตัวที่ชัดเจนขึ้นในปี 2565 หรือกลุ่มอสังหาริมทรัพย์อาจเน้นไปที่การเก็งกำไรจากการ จ่ายเงินปันผล

การเมืองในประเทศยังเป็นประเด็นที่ต้องติดตาม

ประเด็นการเมืองในประเทศเริ่มร้อนขึ้นมาอีกครั้ง และมีโอกาสสร้างกดดัน SET Index ในระยะถัดไปหลังจากนายณัฐพร โตประยูร ยี่นคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 ว่าการกระทำของแกนนำม็อบ คณะราษฎร อาทิ นายอานนท์ นำภา, น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง ฯลฯ ชุมนุมปราศรัยวันที่ 10 ส.ค.63 ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต เป็นการล้มล้างการปกครองระบอบ ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรค หนึ่ง หรือไม่

ผลการวินิจฉัยของศาล : วานนี้คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเสียงส่วนใหญ่วินิจฉัยเห็น ว่า การกระทำและพฤติกรรมต่อเนื่องของผู้ถูกร้อง 1-3 มีเจตนาซ่อนเร้นเป็นการใช้ สิทธิเสรีภาพมุ่งล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรง เป็นประมุข

คำวินิจฉัยดังกล่าทำให้ต้องติดตาม สถาณการเมืองหลังจากนี้โดยเฉพาะการชุมนุม นอกสภาจะร้อนแรงขึ้นหรือไม่ กรณีหากร้อนแรงขึ้นและมีการชุมนุมในระยะถัดไป อาจจะฉุดรั้งการฟื้นตัวเศรษฐกิจไทยในอนาคต ที่สำคัญคือคาดกระทบความเชื่อมั่น การลงทุนของตลาดหุ้น และ Fund flow ชะลอการไหลเข้าและกดดันการรับขึ้นของ SET index รวมถึงเงินบาทอ่อนค่า ดังเช่น สถิติในอดีต การชุมนุมทุกกลุ่มการเมือง

บทความนี้จัดทำและเผยแพร่ครั้งแรกบนเว็บไซต์ ASIA Plus Securities

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย