ขาขึ้นของเบท บาธ แอนด์ บียอนด์ ตอนนี้เชื่อถือได้แค่ไหน?

หุ้นของศูนย์รวมเรื่องตกแต่งบ้านครบวงจรเบท บาธ แอนด์ บียอนด์ (NASDAQ:BBBY) กำลังสร้างขาขึ้นได้อย่างน่าสนใจหลังจากที่บริษัทได้ประกาศข่าวดีออกไป ขาขึ้นเมื่อวานนี้มีอยู่ช่วงหนึ่งที่ราคาสามารถปรับตัวขึ้นได้มากถึง 54% จากกระแสที่ถูกพูดถึงอย่างมากในห้อง StockTwits ล่าสุดราคาปิดของหุ้น “บีบีแอนด์บี” มีราคาซื้อขายล่าสุดอยู่ที่ $19.30 ปรับตัวขึ้นตลอดทั้งวันพุธที่ 3 พฤศจิกายนได้ 15.22%

ช่วงนี้ดูเหมือนว่ากำลังมีแต่เรื่องดีๆ ทยอยเข้ามาหาบีบีแอนด์บีอย่างไม่ขาดสาย ไม่ว่าจะเป็นความสามารถในการจัดการยอดขายที่เหมือนจะมีแนวโน้มลดลงได้สำเร็จ การพัฒนาระบบที่ช่วยบริหารจัดการสินค้า การบุกตลาดดิจิทัล และการเป็นพันธมิตรกับร้านขายของชำขนาดใหญ่อย่างโครเกอร์ (NYSE:KR) ที่จะเริ่มนำผลิตภัณฑ์ของบีบีแอนด์บีมาวางขายตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป

นอกจากนี้ บีบีแอนด์บียังกล่าวอีกด้วยว่าสามารถดำเนินการซื้อหุ้นคืนได้ก่อนกำหนดการเดิม พวกเขาประเมินว่าจะสามารถซื้อหุ้นมูลค่ารวม $1,000 ล้านเหรียญได้ภายในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นช่วงจบปีงบประมาณของบริษัทพอดี การที่สามารถจบแผนซื้อหุ้นคืนได้ในตั้งแต่ไตรมาสที่ 1 ของปีหน้าถือว่าเร็วกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ก่อนว่าอาจจะต้องใช้เวลาถึงสองปี นอกจาก $1,000 ล้านเหรียญนั้นแล้ว พวกเขายังมีหุ้นอีก $400 ล้านเหรียญสหรัฐรออยู่ 

เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา มาร์ก ตริตัน CEO ของ บีบีแอนด์บีกล่าวว่า

“เรายังคงมีความกล้าที่จะเปลี่ยนแปลง และกล้าที่จะใช้กลยุทธ์ที่ประสบความสำเร็จซึ่งจะเสริมสร้างการเพิ่มมูลค่าในระยะสั้นและระยะยาว การประกาศในวันนี้เน้นย้ำถึงความเชื่อมั่นอย่างต่อเนื่องในการกลับมาของเรา และความสามารถในการสร้างกระแสเงินสดที่ไปพร้อมๆ กับการพัฒนา การรักษางบดุลที่แข็งแกร่ง และการลงทุนเพื่อการเติบโตระยะยาว ทั้งหมดนี้จะมีส่วนผลักดันกับการคืนทุนจำนวนมากให้กับผู้ถือหุ้น”

นอกจากการผลักดันการขายออนไลน์ บีบีแอนด์บีจะเริ่มวางขายสินค้าที่เกี่ยวกับเด็กและการตกแต่งบ้านในโครเกอร์ ยิ่งไปกว่านั้น จะมีสินค้าทดลองขายที่น่าสนใจบางตัวไปโผล่อยู่บนชั้นวางของของโครเกอร์ด้วย การเติบโตครั้งนี้ทำให้บริษัมทต้องจ้างนาย Anu Gupta มาเป็นหัวหน้าฝ่ายดูแลด้านการเติบโตของบริษัท และ Rafah Masood มาเป็นหัวหน้าฝ่ายดูแลจัดการลูกค้า ซึ่งทั้งสองตำแหน่งนี้เป็นตำแหน่งที่เกิดขึ้นมาใหม่

หน้าฉากที่เห็นอาจแตกต่างจากหลังฉากมากกว่าที่เรารู้

แม้จะฟังดูเหมือนว่าสิ่งที่กล่าวถึงไปจะเป็นข่าวดี แต่ในฐานะนักลงทุนเราต้องไม่ลืมว่าปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจนั้นเป็นเรื่องสำคัญ และบีบีแอนด์บีก็ยังมีเรื่องให้ต้องจัดการอีกมาก ยอดขายในไตรมาสล่าสุดที่นับถึงวันที่ 28 สิงหาคมลดลง 26% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันปีก่อน สะท้อนให้เห็นว่าการระบาดของโควิดและปัญหาซัพพลายเชนขาดแคลนยังเป็นอุปสรรคหลักของบริษัท ในขณะเดียวกันตัวเลขกำไรในปีนี้เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีที่แล้วพบว่าหายไป $150.8 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นการปรับตัวลดลง 17.3%

ความท้าทายอีกอย่างหนึ่งที่มาพร้อมกับการพัฒนาช่องทางออนไลน์คือบีบีแอนด์บีจะดึงดูดลูกค้าอย่างไร เพราะการสั่งซื้ออุปกรณ์ตกแต่งบ้านออนไลน์ ไม่ได้เหมือนกับการสั่งซื้อขนมจากร้านสะดวกซื้อ พวกเขาต้องลงทุนอย่างมากกับการสร้างเทคโนโลยีให้ลูกค้าสามารถจับต้องสินค้าได้เสมือนกับได้มาที่ร้านจริงๆ ไหนจะเรื่องการวัดขนาดของสินค้าว่าจะเข้ากับที่อยู่อาศัยของพวกเขาได้หรือไม่ 

ตัวเลขผลประกอบการในไตรมาสล่าสุด และความท้าทายที่บีบีแอนด์บีต้องเผชิญคือเหตุผลที่นักลงทุนในตลาดหุ้นวอลล์ สตรีทยังไม่แนะนำให้ลูกค้าของพวกเขาลงทุนกับหุ้นบีบีแอนด์บี นาย Anthony Chukumba นักวิเคราะห์จาก Loop Capital Markets ได้ปรับลดความเชื่อมั่นของหุ้นบีบแอนด์บีจาก “ถือเอาไว้ก่อน” เป็น “ขาย” พร้อมกับตั้งราคาเป้าหมายหุ้นลง 28% หรือ $14 ต่อหุ้น Loop ให้เหตุผลว่าการพาร์ทเนอร์กับโครเกอร์ยังไม่ใช่จุดเปลี่ยนของเกม

“การพัฒนาเหล่านี้ไม่ได้เปลี่ยนแปลงมุมมองของเราที่ว่า BBBY กำลังเสียส่วนแบ่งการตลาด ส่วนแบ่งทางความคิด และความเชื่อมโยงกับผู้บริโภค ยอดขายที่อ่อนแอในช่วงต้นไตรมาสที่ 3 ปี 2021 ถือเป็นหลักฐานที่ชัดเจน นอกจากนี้ เราตั้งคำถามว่าผู้บริโภคจะซื้อเครื่องปิ้งขนมปัง ช้อนส้อม หรือเครื่องดูดฝุ่น จากเว็บไซต์หรือร้านค้าจริงๆ มากกว่ากัน ซึ่งคำตอบก็ยังคงเป็นการออกไปดูด้วยตัวเองที่ร้าน”

Simeon Gutman นักวิเคราะห์จากมอร์แกน สแตนลีย์ก็ปรับราคาเป้าหมายหุ้นลงเป็น $12 เขาให้เหตุผลว่า

“การประกาศของบีบีแอนด์บี แม้จะมีมีความหมายที่ไม่เป็นพิษเป็นภัย แต่ก็ดูเหมือนจะความจงใจให้เกิดปฏิกิริยาอะไรสักอย่างกับหุ้นที่มีราคาและความคาดหวังต่ำ ความผันผวนของหุ้นที่รุนแรงเพื่อเรียกความสนใจน่าจะเป็นสิ่งที่บริษัทต้องการ แต่ก็ยังไม่ใช่ความแข็งแกร่งที่แท้จริงที่มาจากภายในบริษัท”

โดยสรุปแล้ว

เราไม่แนะนำให้ซื้อหุ้นบีบีแอนด์บีตามกระแสไฮป์ในตอนนี้ นักลงทุนระยะยาวควรให้ความสนใจกับปัจจัยพื้นฐาน ซึ่งตามความเห้นของเรา ยังไม่พบสัญญาณแห่งความยั่งยืนจากการปรับตัวขึ้นในครั้งนี้