Investment Ideas:
ภาพรวมการลงทุน - เราคาดว่า SET วันนี้ จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,625-1,645 จุด เราคาดว่าตลาดจะ ยังคงผันผวนในกรอบ Sideway จากความกังวลต่อการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงิน โดยสัปดาห์นี้จะมี การประชุมธนาคารกลาง ECB และ BOJ รวมไปถึงสัปดาห์หน้าจะมีการประชุม FOMC (วันที่ 2-3 พ.ย.) ซึ่งคาดว่าจะมีความชัดเจนเกี่ยวกับการทํา QE tapering ของเฟด รวมไปถึงความกังวลต่อการที่เฟดจะ ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาด ตลาดยังขาดปัจจัยบวกใหม่สนับสนุนการลงทุน ขณะที่คําแนะนํา การลงทุนเรายังคงเลือกหุ้นในกลุ่มที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวอย่างหุ้นในกลุ่ม Oil Play (เราเลือก PTTEP) หุ้นที่ได้ประโยชน์จากภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศที่กลับมาฟื้นตัวในช่วงที่เหลือของปี 2564 ถึงปี 2565 เราเลือก AAV ERW SHR BEM WHA CPALL (BK:CPALL) BJC และ CRC หุ้นที่ได้ประโยชน์จากการผ่อนปรน มาตรการ LTV รวมไปถึงหุ้นกลุ่มธุรกิจผลิตไฟฟ้า เราเลือก EGCO GPSC BCPG และ BPP หลังอัตราผลตอบแทนจากพันธบัตรเริ่มปรับลดลง ติดตามการประกาศผลประกอบการของ Real Sector ที่สําคัญได้แก่ SCGP HMPRO DELTA SCC PTTEP และ STANLY สหรัฐฯ เชื่อเงินเฟ้อจะคลี่คลาย 2H65 - รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ยังเชื่อมั่นว่าสหรัฐฯ จะสามารถควบคุมเงินเฟ้อ ได้ รวมไปถึงคาดหมายจะเห็นอัตราเงินเฟ้อ กลับสู่ระดับปกติภายใน 2H65 ขณะที่กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ รายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ในเดือน ก.ย. 64 ปรับตัวขึ้น 0.46MoM และเพิ่มขึ้น 5.4%YoY สูงกว่าที่ Market Consensus คาดไว้ที่ 0.39% MoM และ เพิ่มขึ้น 5.3%YoY อย่างไรก็ตามยังคงต้องติดตามการประชุม FOMC (วันที่ 2-3 พ.ย.) ซึ่งคาดว่าจะมีความ ชัดเจนเกี่ยวกับการทํา QE tapering ของเฟด รวมไปถึงความกังวลต่อการที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็ว กว่าที่คาด โดยข้อมูล Dot Pot (ที่มา: CME Group) สะท้อนความเป็นไปได้เพิ่มขึ้น จากการที่เฟดจะเริ่ม ทยอยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงกลางปี 2565 เร็วกว่ามุมมองเดิมของเราที่คาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตรา ดอกเบี้ยในช่วง 4Q65
ราคาน้ํามันดิบผันผวน เราปรับน้ําหนักเป็นเพียงเก็งกําไร - ราคาน้ํามันดิบยังคงทรงตัวในระดับสูงต่อเนื่อง โดยล่าสุดราคาน้ํามันดิบ WTI ยังทรงตัวอยู่ที่ระดับ 83.8 เหรียญต่อบาร์เรล ราคาน้ํามันดิบยังคงได้รับแรง หนุนจากความต้องการใช้น้ํามันดิบที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในช่วง 4Q64 ที่คาดว่าความต้องการใช้น้ํามันดิบจะสูง ถึงใกล้เคียง 100 ล้านบาร์เรลต่อวัน ทั้งความต้องการใช้น้ํามันดิบที่เพิ่มขึ้นโดยตรง และความต้องการใช้ที่ เพิ่มขึ้น เพื่อทดแทนภาวะขาดแคลนก๊าซฯ รวมไปถึง Seasonal Demand อีกทั้งท่าทีของกลุ่ม OPEC ยังคง จํากัดการผลิตน้ํามันดิบ โดยเฉพาะซาอุดิอาระเบีย ผู้นําของกลุ่ม OPEC เรามองเป็นบวกต่อ Oil Play โดยเฉพาะ PTTEP ที่ได้ประโยชน์ทางตรงจากราคาน้ํามันดิบที่ปรับเพิ่ม และมี Upside มากพอสําหรับการ ลงทุน อย่างไรก็ตาม การลงทุนหุ้นในกลุ่มที่เกี่ยวกับน้ํามัน ต้องเริ่มมีความระมัดระวัง โดยรายงานจาก เบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะน้ํามันของสหรัฐฯ รายงานจํานวนแท่นขุดเจาะน้ํามันของสหรัฐฯ ลดลง 2 แท่น สู่ระดับ 443 แท่นในสัปดาห์ที่ผ่านมา ลดลงครั้งแรกในรอบ 7 สัปดาห์ ซึ่งบ่งชี้ถึงแนวโน้มการ ผลิตน้ํามันที่ลดลงรวมไปถึงสถิติทางด้านเศรษฐกิจที่ชะลอตัว โดยเฉพาะจีนส่งสัญญาณเศรษฐกิจชะลอตัว อีกทั้งเรามองการฟื้นตัวของราคาน้ํามันดิบในรอบนี้ ส่วนหนึ่งเป็นผลจากอุปทานที่จํากัด แม้ระยะสั้นจะมี ปัจจัยบวกหนุน แต่หากสถานการณ์อุปทานเริ่มคลี่คลาย จะทําให้ราคาน้ํามันดิบปรับลดลงรวดเร็ว ทําให้เรา ปรับน้ําหนักการลงทุนหุ้นในกลุ่ม Oil play เป็นเพียง เก็งกําไร ติดตามรายงานปริมาณสํารองน้ํามันดิบประจํา สัปดาห์ของสหรัฐฯ จากสํานักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) ที่จะมีการรายงานวันพรุ่งนี้ (27 ต.ค.) เวลา 21.30 น. ตามเวลาไทย รวมไปถึงการประชุมของ OPEC+ วันที่ 4 พ.ย. เพื่อกําหนดนโยบายการผลิต น้ํามันสําหรับ เดือน ธ.ค. บทวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานวันนี้ - Earnings Preview: SC Earnings Preview: SC (เก็งกําไร,ราคาเป้าหมาย 3.62 บาท) คาดผลประกอบการ 3Q64 ดีต่อเนื่อง QoQ - คาดกําไร 3Q64 ที่ 541 ล้านบาท เพิ่มขึ้น QoQ หนุนจากอัตรากําไรขั้นต้นจากการโอนที่ดีขึ้น ยอด Presales 3Q64 ชะลอตัวลง QoQ หลัง COVID-19 กระทบการเยี่ยมชมโครงการในช่วงต้นไตรมาส คาดผลประกอบการ 4Q64 ดีต่อเนื่อง และเป็นจุดสูงสุดของปี 64 ปรับกําไรสุทธิปี 64-65 เพิ่ม 10-15% หลังกําลังซื้อโครงการระดับบนยังดีต่อเนื่อง แนะนํา “เก็งกําไร” ราคาเป้าหมายปี 65 ที่ 3.62 บาท มุมมองทางเทคนิค - เราคาดว่า SET Index วันนี้จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,625-1,645 จุด หุ้นแนะนําปัจจัย ทางเทคนิค - TACC ROJNA และ BDMS
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Asia Wealth Securities