ขาขึ้นของก๊าซธรรมชาติก่อนหน้านี้ดุดันราวกับสัตว์ป่า ที่หิวกระหายจะคว้า $7 mmBtu ให้ได้ก่อนสิ้นปีนี้ แต่จู่ๆ ขาขึ้นนั้นก็สงบลงภายในระยะเวลาไม่ถึงสองสัปดาห์เท่านั้น ในขณะที่ผมกำลังเขียนบทความนี้อยู่ ราคาส่งมอบก๊าซธรรมชาติล่วงหน้าบนตลาด NYMEX ณ ท่าเรือเฮนรี่ปรับตัวขึ้นได้เพียง 1.8% ตลอดทั้งสัปดาห์นี้เท่านั้น แรงส่งขาขึ้น 9.3% ที่เคยทำได้ในสัปดาห์ของวันที่ 24 กันยายนไม่รู้ว่าหายไปไหนหมด 
ถึงแม้ว่าตลอดทั้งปี 2021 ราคาก๊าซธรรมชาติจะสามารถปรับตัวขึ้นมาได้ถึง 124% แต่เมื่อเจอกับสภาพอากาศร้อน การอัดฉีดก๊าซธรรมชาติเข้าคลังรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ มากขึ้น และฝีไม้ลายมือทางการฑูตของผู้นำรัสเซีย ก็สามารถทำให้ขาขึ้นรอบนี้สงบลงได้ภายกรอบ $5.40 - $5.70
แดน เมเยอร์ นักวิเคราะห์จาก Gelber & Associates ให้ความเห็นถึงสาเหตุที่ขาขึ้นอ่อนกำลังลงว่าเป็นเพราะอากาศที่ยังอยู่ในระดับอุ่นของสหรัฐฯ ทำให้ความต้องการก๊าซธรรมชาติทั่วทั้งประเทศยังไม่สูงมากนัก ประกอบกับการที่สัปดาห์ที่แล้วราคาก๊าซธรรมชาติไม่สามารถขึ้นถึงเป้าของนักวิเคราะห์ได้ จึงทำให้นักลงทุนบางส่วนตัดสินใจออกจากตลาดเพื่อทำกำไรไปก่อน
ที่มา: Gelber & Associates
สัปดาห์นี้แดน เมเยอร์ วิเคราะห์ว่าสำนักบริหารสารสนเทศพลังงานของสหรัฐอเมริกา (EIA) จะประกาศตัวเลขคาดการณ์ปริมาณก๊าซธรรมชาติ ที่จะถูกส่งเข้ามาเก็บภายในคลังของสัปดาห์ก่อนว่าจะมีปริมาณ 98 bcf ตัวเลขนี้มีความหมายว่าแดนเชื่อว่าการกักเก็บก๊าซธรรมชาติในสัปดาห์นี้จะยังคงมีระดับที่สูง และกดดันราคาก๊าซธรรมชาติให้ปรับตัวลดลง
ในขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์จาก investing.com ประเมินว่าตัวเลขก๊าซธรรมชาติคงคลังที่จะออกมาสู่สาธารณะชนในเวลา 21:30 น. ตามเวลาประเทศไทยจะมีตัวเลขอยู่ที่ 94 bcf เกือบจะเป็นสองเท่าของตัวเลขในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว (5o bcf) และมากกว่าตัวเลขค่าเฉลี่ยในรอบห้าปี (2016-2020) ที่ 79 bcf
ข้อมูลจาก EIA ยังเปิดเผยอีกด้วยว่าปริมาณก๊าซธรรมชาติคงคลังเมื่อสัปดาห์ก่อน (1 ตุลาคม) มีตัวเลขอยู่ที่ 118 bcf มากกว่าตัวเลขที่คาดการณ์ไว้ 105 bcf กลายเป็นว่านี่คือสถิติสี่สัปดาห์ติดต่อกันแล้วที่ปริมาณก๊าซธรรมชาติคงคลังสูงเกินกว่าระดับปกติ หากตัวเลขในคืนนี้ออกมาเป็น 94 bcf จริง จะเท่ากับว่าปริมาณก๊าซธรรมชาติคงคลังรวมทั้งหมดของสหรัฐฯ จะมีปริมาณอยู่ที่ 3.382 tcf ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในรอบห้าปี 4.5% และต่ำกว่าสัปดาห์ที่แล้ว 12.6%
ในความเห็นของแดน เมเยอร์ เขาคิดว่าความต้องการพลังงานความร้อนที่มีระดับต่ำในตอนนี้จะยังคงอยู่ไปอีกสองสัปดาห์ข้างหน้า และจะยิ่งถูกกดดันจากตัวเลขก๊าซธรรมชาติคงคลังที่เพิ่มขึ้นตลอดทั้งเดือนตุลาคม หากเป็นเช่นนั้นจะทำให้ปริมาณก๊าซธรรมชาติคงคลังของปี 2021 สูงกว่าปี 2020 และสูงกว่าค่าเฉลี่ยในรอบห้าปี
“ความต้องการก๊าซธรรมชาติที่เกิดจากสภาพอากาศของสัปดาห์นี้มีตัวเลขเกือบจะเท่ากันกับสัปดาห์ที่แล้ว ตัวเลขที่จะออกมาในคืนนี้คาดว่าบวกลบไม่เกิน 20 bcf จากตัวเลขของสัปดาห์ก่อน แม้แต่ความต้องการก๊าซธรรมขาติที่ไม่เกี่ยวข้องกับสภาพอากาศ (โดยเฉพาะในประเทศเม็กซิโกและการส่งออกก๊าซ LNG) ของสัปดาห์ที่แล้วยังปรับตัวลดลง 2 bcf” 
ที่มา: Gelber & Associates
นอกจากตลาดก๊าซธรรมชาติของสหรัฐอเมริกา นักลงทุนต้องไม่ลืมที่จะดูความเคลื่อนไหวของตลาดพลังงานในยุโรปด้วย ตลาดแห่งนี้มีความใหญ่ไม่แพ้กับสหรัฐอเมริกาเลย ล่าสุดราคาก๊าซธรรมชาติที่ยุโรปได้ปรับตัวลดลงมาจากจุดสูงสุดของเดือนตุลาคม 2021 แล้ว
สถานการณ์ดูเหมือนจะผ่อนคลายลงได้บ้างเมื่อประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ประกาศเพิ่มกำลังส่งออกก๊าซธรรมชาติไปยังยุโรปให้ได้มากที่สุด ส่งผลให้ราคาก๊าซธรรมชาติที่ปรับตัวขึ้นมากกว่า 350% ในปี 2021 และสามารถยืนเหนือ $31 ต่อ mmBtu ปรับตัวลดลงเมื่อวานนี้
วิกฤตพลังงานในยุโรปได้ทำให้รัสเซียกลายเป็นพระเอกขี่ม้าขาวเข้ามาช่วยในสายตาของนักลงทุน ถึงกระนั้นนักการเมืองของยุโรปบางคนก็ยังกล่าวหาว่ารัสเซียรู้อยู่แล้วว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้น จึงตั้งใจไม่ช่วยเหลือด้านพลังงานอย่างเต็มที่ตั้งแต่ตอนแรกเพื่อเก็บไว้เป็นแต้มต่อทางการเมือง อย่างไรก็ตามปูตินได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหานั้นในงานสัมมนาที่กรุงมอสโคว พร้อมกับให้เหตุผลว่าไม่มีเหตุผลอะไรที่รัสเซียจะไม่ให้ความช่วยเหลือลูกค้าของพวกเรา หากพวกเขาขอมา
อันที่จริงรัสเซียมีวิธีที่จะส่งพลังงานไปยังภูมิภาคยุโรปผ่านท่อส่งที่มีชื่อว่า Nord Stream 2 ซึ่งจะส่งพลังงานตรงจากรัสเซียไปยังเยอรมัน แต่ท่อส่งน้ำมันนี้ก็ยังไม่ได้รับการอนุมัติให้ใช้งานได้เพราะอเมริกาและชาติยุโรปบางประเทศค้านว่าอาจจะทำให้สหภาพยุโรปต้องพึ่งพารัสเซียมากจนเกินไป
และท่าทีของสหภาพยุโรปก็เป็นเช่นนั้นจริง พวกเขาให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ว่าสหภาพยุโรปไม่ได้ขอให้รัสเซียเพิ่มกำลังการผลิตและส่งมายังยุโรป แต่ EU มีมาตรการรองรับอยู่แล้วว่า 27 ชาติสมาชิกจะสามารถฝ่าวิกฤตครั้งนี้ไปได้อย่างไร ในแผนการดังกล่าวมีทั้งขอความร่วมมือชาติสมาชิกให้ดึงพลังงานสำรองออกมาใช้หรือการหาซื้อก๊าซธรรมชาติจากชาติพันธมิตรอื่นๆ
รายละเอียดของแผนรับมือวิกฤตพลังงานในยุโรปนั้น รัฐมนตรีของชาติสมาชิกจะประชุมพิเศษกันในวันที่ 26 ตุลาคมนี้ เชื่อว่าผลการประชุมจะส่งผลต่อราคาพลังงานทั้งในยุโรปและอเมริกาอย่างมีนัยสำคัญ