รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

เป้า $6 ของก๊าซธรรมชาติจะยังเป็นไปได้อยู่หรือไม่

เผยแพร่ 23/09/2564 16:57
อัพเดท 02/09/2563 13:05

ฤดูหนาวปีนี้คงจะสามารถดึงดูดนักลงทุนให้เข้าสู่ตลาดก๊าซธรรมชาติได้มากเป็นพิเศษ เพราะในปีนี้เราได้เห็นราคาก๊าซธรรมชาติล่วงหน้าทะยานขึ้นสร้างจุดสูงสุดในรอบเจ็ดปี ในขณะเดียวกัน ราคาก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ก็ได้สร้างสถิติจุดสูงสุดใหม่เป็นประวัติกาล Natural Gas Daily

โดยปกติแล้ว ราคาก๊าซธรรมชาติจะเริ่มปรับขึ้นในช่วงฤดูหนาวเป็นต้นไป แต่ในปีนี้อาจจะพิเศษมากกว่าเดิม เพราะตั้งแต่ได้ก้าวเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิเมื่อวันพุธที่ผ่านมา เราก็ได้เห็นราคาก๊าซธรรมชาติที่สามารถยืนเหนือ $5 ต่อ mmBtu ได้เรียบร้อยแล้ว ผู้เชี่ยวชาญด้านสภาพภูมิอากาศได้เตือนว่าฤดูหนาวของปี 2021 อาจจะเป็นฤดูที่หนาวที่สุดในรอบหลายปี ยิ่งมีโอกาสทำให้ราคาก๊าซธรรมชาติเข้าสู่โหมดขาขึ้นได้ตั้งแต่เดือนหน้าเป็นต้นไป เพราะจากความต้องการก๊าซธรรมชาติที่มีมากขึ้น

ถึงกระนั้นก็ตาม สภาพอากาศอบอุ่นในตอนนี้ก็ยังเป็นสิ่งที่สามารถสัมผัสได้อยู่ และอากาศอุ่นๆ เช่นนี้มีโอกาสที่จะกินระยะเวลาไปอีกหนึ่งหรือสองสัปดาห์ข้างหน้า และอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ความต้องการก๊าซธรรมชาติในบางพื้นที่ลดลง เป็นอุปสรรคต่อการทะยานขึ้นสู่เป้าหมาย $6 

แดน เมเยอร์ ที่ปรึกษาเกี่ยวกับตลาดก๊าซธรรมชาติของบริษัท Gelber & Associates คาดว่ามีปัจจัยทางด้านสภาพภูมิอากาศในระยะสั้นที่อาจทำให้การวิเคราะห์เป้าหมาย $6 ของราคาก๊าซธรรมชาติคาดเคลื่อน รวมถึงความเชื่อที่ว่าจะได้เห็นก๊าซธรรมชาติที่ $6 ก่อนเริ่มต้นฤดูใบไม้ผลิ

ก๊าซธรรมชาติที่พลาดเป้า $6 ไปแล้วในช่วงฤดูร้อน

ราคาซื้อขายก๊าซธรรมชาติล่วงหน้าที่ท่าเรือเฮนรี่บนตลาด NYMEX เมื่อสัปดาห์ที่แล้วสามารถสร้างจุดสูงสุดได้เพียง $5.65 เท่านั้น แม้ว่าตลอดทั้งปี 2021 ราคาก๊าซธรรมชาติจะวิ่งขึ้นมาแล้วมากถึง 88% สูงที่สุดเมื่อเทียบกับสินค้าโภคภัณฑ์ทุกประเภท ถือเป็นเรื่องน่าเสียดายมากที่ราคาก๊าซธรรมชาติไม่สามารถวิ่งขึ้นถึงเป้าหมาย $6 ของใครหลายๆ คนได้

แดน เมเยอร์ วิเคราะห์ถึงสถานการณ์ก๊าซธรรมชาติในปัจจุบันว่า

“สภาพอากาศที่อุ่นขึ้นในสัปดาห์หน้าจะเป็นปัจจัยทำให้ปริมาณก๊าซธรรมชาติคงคลังในสัปดาห์ถัดไปปรับตัวเพิ่มขึ้น และมีความเป็นไปได้ว่าอากาศอุ่นจะคงอยู่ไปอีกระยะสั้นๆ การเพิ่มปริมาณก๊าซธรรมชาติเข้าไปในคลังภายในสี่สัปดาห์ข้างหน้าจะช่วยลดการขาดดุลระหว่างก๊าซธรรมชาติคงคลังเฉลี่ยห้าปีกับก๊าซธรรมชาติคงคลังทั้งหมดในปี 2021”

ในขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์จากโกลด์แมน แซคส์วิเคราะห์ว่ามีโอกาสที่ปริมาณก๊าซธรรมชาติและน้ำมันดิบสำรองจะเพิ่มขึ้น อุตสาหกรรมในเอเชียและยุโรปที่ใช้พลังงานในแต่ละวันมากถึง 1.35 ล้านบาร์เรลต่อวันมีโอกาสทำให้ราคาน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติปรับตัวขึ้นได้Storage Changes Weeklyที่มา: Gelber & Associates

ในเวลา 21.30 น. ตามเวลาประเทศไทยวันนี้จะมีการรายงานปริมาณก๊าซธรรมชาติคงคลังจากสำนักบริหารสารสนเทศพลังงานของสหรัฐอเมริกา (EIA) ปริมาณน้ำมันดิบสำรองประจำสัปดาห์ที่ 17 กันยายนคาดว่าจะเพิ่มขึ้นมา 75 bcf เทียบกับตัวเลขของสัปดาห์ก่อนหน้านั้นที่ 83 bcf และค่าเฉลี่ยห้าปีล่าสุด (2016-2020) ที่ 74 bcf

หากการคาดการณ์ถูกต้อง ปริมาณก๊าซธรรมชาติที่ถูกเพิ่มเข้ามาในคลังสำรองรอบนี้จะทำให้ปริมาณก๊าซธรรมชาติสำรองทั้งหมดมีปริมาณ 3.081 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต (tcf) ซึ่งก็ยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในรอบห้าปีที่ 6.0% และต่ำกว่าปริมาณการนำเข้าก๊าซธรรมชาติสำรองในสัปดาห์เดียวกันของปีที่แล้ว 16.1% 

ข้อมูลจาก Refinitiv ระบุว่าปริมาณการผลิตก๊าซธรรมชาติเฉลี่ยของสัปดาห์ที่แล้วมีตัวเลขอยู่ที่ 91,000 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน (bcfd) ซึ่งต่ำกว่าช่วงเวลาเดียวกันในปี 2019 ที่เคยมีตัวเลขอยู่ที่ 93,000 bcfd แต่ถือว่าสูงกว่า 88,400 bcfd ในปี 2020 ในช่วงโควิด และสูงกว่าค่าเฉลี่ยในรอบห้าปี (2016-2020) ซึ่งมีตัวเลขอยู่ที่ 82,300 bcfd

นอกจากนี้ Refinitiv ยังได้เปิดเผยข้อมูลคาดการณ์ปริมาณก๊าซธรรมชาติคงคลัง พวกเขาเชื่อว่าค่าเฉลี่ยของการนำเข้าก๊าซธรรมชาติในสัปดาห์นี้ถึงวันที่ 24 กันยายนจะมีตัวเลขอยู่ที่ 64-90 bcf และคาดว่าจะไม่น้อยกว่า 62 bcf

กำลังการผลิตก๊าซธรรมชาติทั้งหมดยังไม่กลับมา

ข้อมูลจากเว็บไซต์ naturalgasintel.com ระบุว่าสัปดาห์หน้าอุณหภูมิใน 48 รัฐของสหรัฐอเมริกาจะมีความร้อนซึ่งทำให้อุ่นมากขึ้น ภาพรวมของอุณหภูมิใน 15 วันแรกจะต่ำกว่าปริมาณความต้องการความร้อนของก๊าซธรรมชาติ เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยในรอบห้าปี เท่ากับว่าอุณหภูมิในเดือนตุลาคมจะอุ่นขึ้น ในมุมมองของตลาดก๊าซธรรมชาติ นี่ถือเป็นความเสี่ยงที่จะทำให้ความต้องการก๊าซธรรมชาติลดลง

นอกจากนี้ naturalgasintel.com ได้เตือนว่ายังเร็วเกินไปที่จะตัดสินว่าสภาพอากาศจะเป็นตัวควบคุมราคาก๊าซธรรมชาติทั้งหมด เพราะการผลิตน้ำมันและก๊าซธรรมชาติที่ได้รับผลกระทบจากพายุไอดาและนิโคลัสในอ่าวเม็กซิโกยังไม่สามารถฟื้นคืนกลับมาได้อย่างเต็มตัว สำนักความปลอดภัยและการบังคับใช้ทางสิ่งแวดล้อม (BSEE) มีรายงานเมื่อวานนี้ว่าการผลิตก๊าซธรรมชาติประมาณ 24.3% ในอ่าวเม็กซิโกยังไม่กลับมา แม้ว่าพายุจะผ่านไปแล้ว

ความคิดเห็นล่าสุด

🤟🤟
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย