สำหรับนักลงทุนฝั่งขาลงถ้าคิดผิดคงต้องรีบกลับลำแล้ว หลังจากที่ราคาก๊าซธรรมชาติสามารถพาตัวเองขึ้นมาแตะ $4.5 ได้ ตอนนี้ความเป็นไปได้ที่เราจะได้เห็นราคาก๊าซธรรมชาติที่ $5 ยิ่งมีสูงขึ้่นเรื่อยๆ ยังไม่เพียงแค่นั้น ถ้าปีนี้ฤดูหนาวของสหรัฐอเมริกามาเร็วกว่าปกติ เราอาจจะได้เห็นก๊าซธรรมชาติปรับตัวขึ้นจากจุดนี้มากถึงสองเท่า
จอห์น คิลดัฟฟ์ นักวิเคราะห์จากกองทุนเฮจฟันด์ Again Capital ได้แสดงความเห็นของเขาว่าขาขึ้นของก๊าซธรรมชาติที่เริ่มต้นมาตั้งแต่เดือนมกราคมยังจะไม่ถึงจุดสิ้นสูดในเร็ววันนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่ามกลางช่วงเวลาที่พายุเฮอริเคนไอดาเข้าถล่มโรงผลิตน้ำมันและก๊าซธรรมชาติประมาณ 85% ในอ่าวเม็กซิโก แม้ว่าเมื่อพายุเคลื่อนตัวเข้าสู่ชายฝั่งแล้ว ความรุนแรงของพายุระดับสี่ลูกนี้จะลดลง แต่กว่าโรงขุดน้ำมันหรือก๊าซธรรมชาติจะกลับมาใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพก็อาจจะไม่ทันความต้องการที่รออยู่
สถานการณ์ล่าสุดในเมืองนิวออร์ลีนส์เมื่อวานนี้พี่พายุเข้าไปถล่มโดยตรงค่อนข้างเลวร้ายอยู่พอสมควร ชาวเมืองน้อยคนมากที่ยังมีไฟฟ้าใช้ สำนักข่าวรายงานว่าสถานการณ์เช่นนี้อาจดำเนินต่อไปตลอดทั้งสัปดาห์จนกว่าไฟฟ้าและโรงกลั่นน้ำมันในอ่าวเม็กซิโกจะกลับมาใช้งานได้ตามปกติ นักวิเคราะห์จาก Rsytad Energy ประเมินว่าการเข้ามาของพายุที่ทำให้กระบวนการผลิตก๊าซธรรมชาติหายไปคิดเป็น 2.1 พันล้านลูกบาศก์ฟุต
นอกจากนี้ Rystad ยังได้ให้ข้อมูลกับ naturalgasintel.com อีกว่าการขนส่งก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ก็ได้รับผลกระทบด้วย เรือที่ปกติจะขนส่งก๊าซ LNG จากท่าใน LOOP โดยตรงตอนนี้ต้องดำเนินการด้วยความยากลำบาก อย่างไรก็ตามปริมาณการส่งออกก๊าซ LNG คาดว่าจะยังคงแข็งแกร่ง ในปี 2021 คาดว่าจะยังรักษาค่าเฉลี่ยที่ 9.8 Bcf/d เอาไว้ได้ แม้ว่าจะมีการขนส่งก๊าซบางส่วนต้องหยุดชะงัก
เมื่อสถานการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น จอห์น คิลดัฟฟ์จึงวิเคราะห์ว่าไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่จะทำให้ช่วงนี้ราคาก๊าซธรรมชาติปรับตัวลดลง
“เพราะท่าเรือที่ LOOP ในนิวออร์ลีนส์ รัฐหลุยส์เซียนานั้นคิดเป็น 45% ของการใช้พลังงานของชาวอเมริกันทั้งประเทศ ยิ่งการผลิตฯ ในอ่าวเม็กซิโกต้องหยุดไปนานเท่าไหร่ สถานการณ์ก็จะยิ่งเลวร้ายลงเรื่อยๆ นั่นจึงทำให้ก๊าซธรรมชาติที่ระดับราคา $5 เป็นไปได้ แต่ถ้าคิดจะเข้ามาลงทุนกับก๊าซธรรมชาติในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนหรือธันวาคม ก็อาจจะต้องมองเป้าหมายที่สูงขึ้นมากกว่าจากระดับราคาตรงนี้สองเท่าตัว”
ตลอดทั้งเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ราคาก๊าซธรรมชาติได้ขยับตัวขึ้นมาแล้วทั้งสิ้น 12% ถือเป็นขาขึ้นเจ็ดจากแปดเดือนล่าสุด ทำให้ปีนี้ก๊าซธรรมชาติกลายเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวขึ้นมากที่สุดตัวหนึ่ง ให้ผลตอบแทนแก่ผู้ถือครองไปแล้ว 50% เฉพาะเมื่อวานนี้วันเดียว ราคาซื้อขายก๊าซธรรมชาติล่วงหน้าบนตลาด NYMEX ทะยานขึ้นเกือบ 6% มีอยู่ชั่วขณะหนึ่งที่สัญญาซื้อขายก๊าซธรรมชาติล่วงหน้าที่จะส่งมอบในเดือนตุลาคมขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ $4.65 mmBtu
แดน เมเยอร์ นักวิเคราะห์ตลาดก๊าซธรรมชาติจาก Gelber & Associates ให้ความเห็นว่า
“ถึงแม้จะยังมีเวลาประมาณเกือบสองเดือนก่อนที่สัญญาซื้อขายก๊าซธรรมชาติล่วงหน้าที่จะส่งมอบในเดือนตุลาคมจะหมดอายุ แต่ในอดีตตั้งแต่ปี 2008 ที่เคยทำไว้สูงสุดอยู่ที่ $7.47/mmBtu ก็ไม่เคยมีครั้งไหนเลยที่ราคาสัญญาส่งมอบในเดือนตุลาคมเคยขึ้นยืนเหนือ $4 ได้อีกเลย ในระยะสั้นมีสองเรื่องที่จะทำให้ราคาก๊าซธรรมชาติปรับตัวขึ้นไปได้คือความกังวลเกี่ยวกับซัพพลายของก๊าซธรรมชาติในช่วงฤดูหนาวกับความเสียหายและระยะเวลาของพายุเฮอริเคนไอดา”ที่มา: Gelber & Associates
ความคิดเห็นของคิลดัฟฟ์และไมเยอร์มาในจังหวะที่ปริมาณก๊าซธรรมชาติที่จะถูกส่งเข้าคลังมีโอกาสน้อยกว่าสัปดาห์ก่อนหน้าพอดี นักวิเคราะห์จาก Investing.com ประเมินว่าปริมาณก๊าซธรรมชาติที่จะถูกส่งไปเก็บไว้ในคลังสำรองประจำสัปดาห์ของวันที่ 27 สิงหาคมจะมีตัวเลขอยู่ที่ 25 bcf ซึ่งถือว่าน้อยกว่าตัวเลขของสัปดาห์ 20 สิงหาคมที่ 29 bcf และน้อยกว่าค่าเฉลี่ยในรอบห้าปีที่ 53 bcf
“ระดับแรงลมที่มากขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่แล้ว ทำให้มีความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติมากครึ่งเพราะต้องการความอบอุ่น แต่เพราะเช่นนั้น เมื่อปริมาณก๊าซธรรมชาติคงคลังลดลงน้อยกว่าระดับค่าเฉลี่ย สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการก๊าซธรรมชาติ และในยามที่ต้นทางการผลิตน้ำมันและก๊าซธรรมชาติกำลังเจอกับภัยมรสุมเฮอริเคน ยิ่งทำให้ราคาก๊าซธรรมชาติมีแต่จะปรับตัวสูงขึ้น” นักวิเคราะห์จาก Gelber & Associates กล่าว