รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 ของบริษัทสตรีมมิ่งภาพยนตร์ชื่อดังเน็ตฟลิกซ์ (NASDAQ:NFLX) ที่เกิดขึ้นไปเมื่อช่วงต้นสัปดาห์สร้างความสับสนให้กับนักลงทุนอยู่พอสมควร แม้ว่าตัวเลขผลประกอบการจะสามารถเอาชนะตัวเลขคาดการณ์ไปได้ แต่ตัวเลขคาดการณ์ทิศทางการเติบโตในอนาคตค่อนข้างจืดชืด ส่งสัญญาณว่าการเติบโตแบบชะลอตัวที่มีมาตั้งแต่ต้นปี 2021 อาจจะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคต
การรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ของบริษัทเน็ตฟลิกซ์ได้ข้อสรุปว่าพวกเขามียอดลูกค้าใหม่เข้ามาใช้บริการเพิ่ม 1.54 ล้านคน เทียบกับตัวเลขคาดการณ์ 1.12 ล้านคนและตัวเลขที่เน็ตฟลิกซ์ประเมินเอง 1 ล้านคน แม้ว่ายอดผู้ใช้งานจะเพิ่มขึ้น แต่เทียบอะไรไม่ได้เลยกับยอดผู้ใช้งานที่สมัครใหม่ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2020 ซึ่งมีจำนวนเกือบถึง 26 ล้านคน
ที่น่าสนใจก็คือเมื่อพูดถึงตัวเลขคาดการณ์ยอดผู้สมัครสมาชิกใหม่ในไตรมาสที่ 3 เน็ตฟลิกซ์คาดว่าจะมียอดผู้ใช้งานเพิ่มขึ้น 3.5 ล้านคน ซึ่งตัวเลขนี้ก็ยังถือว่าน้อยกว่าตัวเลขที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ซึ่งมีถึง 5.86 ล้านคน เมื่อตัวเลขผลประกอบการโดยรวมถือว่าค่อนข้างน่าผิดหวัง จึงไม่แปลกใจเลยที่เราจะได้เห็นหุ้นเน็ตฟลิกซ์ปรับตัวลดลงมากกว่า 3% ในวันพุธที่ผ่านมา มีราคาปิดล่าสุดอยู่ที่ $511.77 ปรับตัวลดลงเมื่อวานนี้อีก 0.36% และหากนับตั้งแต่ต้นปีมาจนถึงปัจจุบัน จะพบว่าปีนี้หุ้นเน็ตฟลิกซ์ทำขาลงไปแล้ว 13%
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ชั้นนำของวงการกลับมองว่าขาลงในตอนนี้คือโอกาสที่ดีในการเข้าไปถือครองหุ้นเน็ตฟลิกซ์ บางคนมองว่าธุรกิจของสตรีมมิ่งยักษ์ใหญ่ยังไปไม่ถึงจุดจบ เพียงแต่ว่าพวกเขาต้องปรับตัวเท่านั้น Dong Anmuth นักวิเคราะห์จากเจพี มอร์แกน ได้ปรับเป้าหมายราคาหุ้นเน็ตฟลิกซ์ขึ้นจาก $600 เป็น $625 โดยให้เหตุผลว่า
“อาจจะฟังดูแปลกที่เราปรับตัวเลขคาดการณ์การเติบโตของเน็ตฟลิกซ์ในช่วงครึ่งปีหลังลง แต่เมื่อเข้าสู่เข้าสู่ปี 2022 แล้ว เรามั่นใจว่าหุ้นเน็ตฟลิกซ์จะเป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยในการถือครอง แม้ว่าการต่อสู้ภายในประเทศเน็ตฟลิกซ์จะมีคู่แข่งมากมายที่เข้ามากินส่วนแบ่งทางการตลาดมากขึ้นเรื่อยๆ แต่เราเชื่อว่าด้วยลูกค้าที่เน็ตฟลิกซ์มีอยู่ทั่วโลก ยักษ์ตัวนี้ยังมีโอกาสกลับมาได้ และจะไม่ล้มลงง่ายๆ อย่างแน่นอน”
พื้นที่ใหม่ๆ สำหรับการเติบโต
ต้องยอมรับว่าในช่วงครึ่งปีแรกนั้น ภาพยนตร์ที่เน็ตฟลิกซ์เอามาสตรีมนั้นไม่ได้รับความสนใจมากเท่าไหร่ ประกอบกับชาวอเมริกันที่เริ่มกลับมาใช้ชีวิตตามปกติแล้ว การที่ยอดผู้ชมจะลดลงก็ถือเป็นเรื่องธรรมดา แต่ในช่วงครึ่งปีหลังนี้เน็ตฟลิกซ์กำลังจะมีซีรีส์ฟอร์มยักษ์ที่รอคิวเข้าฉายแล้วอย่าง “Money Heist” ซีซันใหม่ และ “The Witcher” ซีซันสอง
อีกหนึ่งปัจจัยสนับสนุนที่ทำให้เชื่อได้ว่าเน็ตฟลิกซ์นั้นจะไม่ล้มลงง่ายๆ คือการที่บริษัทกำลังพัฒนาตัวเองให้เข้าสู่วงการเกม เพื่อดึงลูกค้าจากฝั่งเกมเมอร์เข้ามามากขึ้น คาดการณ์กันว่าภายในอีก 12 เดือนข้างหน้า เราอาจจะได้เห็นเกมที่สามารถเล่นได้ด้วยระบบสตรีมมิ่งของเน็ตฟลิกซ์ โดยที่เกมแรกที่ออกมาจะเป็นเกมสำหรับโทรศัพท์มือถือ และคาดว่าจะไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ เพิ่มเติมหากเป็นสมาชิกเน็ตฟลิกซ์อยู่แล้ว
Greg Peters ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสินค้า (CPO) ของเน็ตฟลิกซ์ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับแผนการทำเกมครั้งนี้ว่า
“การพัฒนาเกมของเราจะยังคงเป็นเกมสำหรับเล่นภายในครอบครัวโดยที่อาจจะมีการตกลงขอสัญญาเกมจากบริษัทข้างนอกเข้ามาร่วมด้วย สิ่งที่จะเกิดขึ้นนั้นจะเหมือนกับการที่เราสตรีมภาพยนตร์อยู่ในตอนนี้ ที่ทุกคนสามารถดูหนังที่ไหนก็ได้ เกมก็เช่นกัน หัวใจหลักของเน็ตฟลิกซ์ยังคงเป็นการสมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับสิทธิ์ในการเข้าถึงคอนเทนต์เหมือนเดิม”
มอร์แกน สแตนลีย์ ธนาคารเพื่อการลงทุนชื่อดังยังคงเชื่อมั่นว่าหุ้นเน็ตฟลิกซ์จะสามารถขึ้นถึงราคาเป้าหมายที่ $650 อย่างที่เคยคาดการณ์ไว้ในไตรมาสที่ 2 ได้ พร้อมทั้งให้เหตุผลว่า
“ในแง่ของการลงทุนจริงอยู่ว่ายอดผู้สมัครสมาชิกที่ชะลอตัวลงจะส่งผลถึงการเติบโตของบริษัทด้วย แม้ว่าการพาตัวเองเข้าสู่วงการเกมจะเป็นอะไรที่อยู่ในขั้นแรก แต่ก็ถือว่าเป็นความพยายามที่น่าลุ้นสำหรับเน็ตฟลิกซ์ เพราะในตอนนี้วงการเกมยังไม่มีค่ายไหนที่ประสบความสำเร็จหรือทำระบบสตรีมมิ่งจากเกมที่สามารถรวมเกมเมอร์จากทุกแพลตฟอร์มได้มาก่อน”
เมื่อพูดถึงการเติบโตของเน็ตฟลิกซ์ นักวิเคราะห์ 33 จาก 43 คนของ investing.com ยังเชื่อว่าหุ้นเน็ตฟลิกซ์จะสามารถปรับตัวขึ้นได้อีก 20% จากระดับราคาในปัจจุบัน
โดยสรุปแล้ว
หลังจากหุ้นเน็ตฟลิกซ์สามารถสร้างขาขึ้นได้อย่างโดดเด่นในปีที่แล้ว แต่สำหรับปีนี้ต้องยอมรับว่าความร้อนแรงนั้นกำลังชะลอตัวลงเรื่อยๆ แต่ถึงอย่างนั้นนักวิเคราะห์ในวอลล์ สตรีทยังเชื่อว่าหุ้นเน็ตฟลิกซ์จะสามารถกลับมาเติบโตได้อีกครั้ง ในวันที่พวกเขาสามารถเปิดตัวเกมและแพลตฟอร์มแรกภายใต้แบรนด์เน็ตฟลิกซ์