อินเตอร์เน็ตก่อให้เกิดการต่อยอดในโลกปัจจุบันมากมาย ใครจะเคยคิดว่าวันหนึ่งเราจะสามารถถือโน๊ตบุ๊คตัวเดียวไปทำงานที่ไหนก็ได้ การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ก็ได้พิสูจน์แล้วว่ายุคนี้เราสามารถทำงานจากที่บ้านโดยไม่จำเป็นต้องไปที่ออฟฟิศได้จริงๆ แต่พัฒนาการของอินเตอร์เน็ตไม่มีเรื่องไหนน่าสนใจไปมากกว่าการถือกำเนิดขึ้นของบิทคอยน์อีกแล้ว
จากความเชื่อที่ว่ารัฐบาลไม่สมควรกุมอำนาจทางการเงินไว้ นำมาสู่การก่อกบฎทางการเงินที่สร้างสรรค์มากที่สุดในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ ทุกวันนี้เรามีสกุลเงินดิจิทัลมากกว่า 10,000 สกุลเงินแล้ว และเราก็มีประวัติศาสตร์ของบิทคอยน์ที่เคยเริ่มต้นที่ 5 เซนต์ในปี 2010 กลายเป็นเหรียญที่มีมูลค่าสูงสุดถึง $65,500
แม้ว่าปัจจุบันราคาบิทคอยน์จะมีราคาซื้อขายเหลืออยู่เพียง $30,000 โดยประมาณ แต่การเติบโตในเชิงมูลค่าจากปี 2010 มาจนถึง 2021 ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าบิทคอยน์กำลังเป็นที่ยอมรับในสังคมมากขึ้นเรื่อยๆ และล่าสุดเราก็มีผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับการลงทุนในบิทคอยน์ใหม่นั่นก็คือการลงทุนผ่านกองทุนรวมดัชนีที่นิยมเรียกกันสั้นว่า “ETF”
ภาพรวมราคาบิทคอยน์ในปัจจุบัน
ในวันที่ 14 เมษายนปี 2021 ราคาซื้อขายบิทคอยน์ล่วงหน้าสามารถขึ้นไปสร้างจุดสูงสุดตลอดกาลที่ $66,450 ได้ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่แพลตฟอร์มตัวกลางแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัล “คอยน์เบส” COIN) ถูกลิสต์ขึ้นดัชนี NASDAQ พอดี
แต่นับตั้งแต่นั้น ราคาบิทคอยน์ก็เข้าสู่แนวโน้มขาลงมาโดยตลอด ผ่านข่าวร้ายมากมายเช่นการถูกปฏิเสธจากอีลอน มักส์ การถูกกล่าวหาว่าเป็นภัยกับวิกฤตโลกร้อน แต่ปัจจัยที่กำลังคุกคามบิทคอยน์อย่างหนักที่สุดในตอนนี้คือความพยายามไล่แบนคริปโตฯ ของรัฐบาลจีนเพื่อเปิดทางให้กับดิจิทัลหยวน
ที่มา: CQG
กราฟรูปนี้แสดงให้เห็นถึงสถานการณ์ล่าสุดของตลาดซื้อขายบิทคอยน์ล่วงหน้า ในวันที่ 19 พฤษภาคมกราฟบิทคอยน์ล่วงหน้าได้ปรับตัวลดลงสู่จุดต่ำสุดที่ $30,275 หลังจากนั้นราคาซื้อขายบิทคอยน์ล่วงหน้าที่จะส่งมอบในเดือนกรกฎาคมก็พยายามปรับตัวขึ้นมาทีละเล็กละน้อยเป็น $30,915 ในวันที่ 8 มิถุนายนและ $31,715 ในวันที่ 21 มิถุนายน ล่าสุดราคาซื้อขายบิทคอยน์ล่วงหน้าในวันที่ 21 มิถุนายนมีราคาซื้อขายอยู่ที่ $32,500 โดยที่แนวโน้มในภาพกว้างยังเป็นเทรนด์ลง
พักตัวเพื่อขึ้นต่อหรือลงต่อ?
ตั้งแต่บิทคอยน์ถล่มลงมาจาก $60,000 จนเหลือมูลค่าอยู่เพียง $30,000 โดยประมาณ ตลาดสกุลเงินดิจิทัลก็ดูเหมือนจะเงียบเหงาลงมาก นับตั้งแต่ช่วงปลายเดือนพฤษภาคมมาจนถึงปัจจุบัน ราคาบิทคอยน์ก็ไซด์เวย์อยู่ในกรอบราคาระหว่าง $42,500 - $30,000 ถ้าขนาดบิทคอยน์ยังนิ่งสนิทขนาดนี้ สกุลเงินดิจิทัลตัวอื่นๆ ก็ไม่ต้องพูดถึง
นอกจากเวลาแล้ว คงไม่มีใครรู้ว่าสุดท้ายแล้วฉากจบของขาขึ้นบิทคอยน์ในรอบนี้จะเป็นเช่นไร ตอนนี้คนที่เหลืออยู่ในตลาดคริปโตฯ นั่นมีอยู่เพียงสองกลุ่ม หนึ่งคือกองเชียร์และอีกกลุ่มคือกองแช่ง สำหรับฝั่งกองเชียร์ พวกเขาก็ต้องลุ้นให้บิทคอยน์ปรับตัวกลับขึ้นไปอีกครั้ง ในขณะที่กองแช่งก็รอวันที่จะได้เห็นบิทคอยน์ร่วงลงไปจนไม่เหลือค่าแม้แต่เพ็นนีเดียว แต่ไม่ว่าใครจะมีความคิดอย่างไร สิ่งหนึ่งที่ทั้งสองฝั่งต้องยอมรับตามความเป็นจริงคือตอนนี้มีการยอมรับบิทคอยน์อย่างแพร่หลายแล้ว จนในที่สุดเราก็มีกองทุน ETF สำหรับบิทคอยน์
BITQ: ตัวเลือกการลงทุนบิทคอยน์ใหม่ในแบบ ETF
BTIQ เป็นตัวย่อของกองทุน ETF ที่มีชื่อว่า Bitwise Crypto Industry Innovators (NYSE:BITQ) กองทุนนี้อ้างอิงราคาบริษัทที่ลงทุนอยู่ในโลกคริปโตฯ เป็นหลัก ปัจจุบัน BITQ ถือหุ้นของบริษัทที่ลงทุนในคริปโตฯ 31 บริษัทซึ่งถือได้ว่าเป็นแนวหน้าของวงการทั้งนั้น อย่างเช่น ไมโครสตราเตจี้ (NASDAQ:MSTR) คอยน์เบส และมาราธอน ดิจิทัล โฮลดิ้ง(NASDAQ:MARA)
BTIQ มีสินทรัพย์ที่อยู่ภายใต้การจัดการ $51,264 ล้านเหรียญสหรัฐ มีปริมาณการซื้อขายหุ้นโดยเฉลี่ยวันละ 115,851 หุ้น มีค่าธรรมเนียมในการจัดการอยู่ที่ 0.85% ที่สำคัญ กองทุนนี้เป็นกองทุนที่พึ่งเปิดได้ไม่นาน พึ่งอนุญาตให้มีการซื้อขายผ่านกองทุนในวันที่ 12 พฤษภาคมที่ผ่านมานี้เอง
ถึงแม้ว่า BTIQ จะไม่ได้อ้างอิงราคากับพฤติกรรมบิทคอยน์โดยตรง แต่เพราะ BTIQ ไปอ้างอิงกับบริษัทที่ลงทุนในคริปโตฯ ดังนั้นลักษณะการวิ่งของราคาจึงไม่ได้แตกต่างกันมากนัก 
ที่มา: Barchart
เราขอยกตัวอย่างให้เห็นกันชัดๆ โดยจะเปรียบเทียบการวิ่งของกราฟบิทคอยน์ล่วงหน้าที่จะส่งมอบในเดือนมิถุนายนในระหว่างวันที่ 12 พฤษภาคมถึงวันที่ 19 พฤษภาคม วันที่ 12 พฤษภาคมราคาบิทคอยน์ล่วงหน้าได้ขึ้นไปสร้างจุดสูงสุดที่ $58,340 ก่อนที่จะปรับตัวลงมาจนถึงจุดต่ำสุดที่ $30,275 คิดเป็นขาลงทั้งหมด 48.1%
ในช่วงเวลาเดียวกัน กราฟ BTIQ ได้ขึ้นไปสร้างจุดสูงสุดที่ $25.13 ก่อนที่จะปรับตัวลดลงมาสร้างจุดต่ำสุดที่ $19.56 คิดเป็นการปรับตัวลดลงมา 22.2% ดังนั้นสำหรับนักลงทุนที่ต้องการจะหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากการลงทุนในบิทคอยน์โดยตรง การลงทุนใน BTIQ จึงถือเป็นทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจมาก
อนาคตของวงการคริปโตฯ และ ETF สำหรับคริปโตฯ ยังต้องผ่านอุปสรรคมากมาย
จริงอยู่ที่ว่าการที่ผลิตภัณฑ์เพื่อการลงทุนหลายตัวมีการยอมรับสกุลเงินดิจิทัลมากขึ้น แต่ยิ่งสกุลเงินดิจิทัลได้รับการยอมรับมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งต้องเผิชญความท้าทายทางด้านกฏหมายมากขึ้นเท่านั้น แม้แต่ BITQ ก็ไม่มีข้อยกเว้น
อย่างไรก็ดี วงการสกุลเงินดิจิทัลยังถือว่าพอมีโชคอยู่บ้างเพราะผู้ที่ดำรงตำแหน่งหัวหน้า กลต. ของสหรัฐฯ ปัจจุบันคือนาย แกรี่ เก็นเลอร์ อดีตเคยทำงานอยู่ในหน่วยงานกำกับการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของสหรัฐฯ (CFTC) ในสมัยประธานาธิบดีบารัก โอบามา ซึ่งเขาเป็นคนที่ค่อนข้างเปิดรับเทคโนโลยีอยู่พอสมควร
ถึงแม้ว่าสกุลเงินอย่างบิทคอยน์และอีเธอเรียมจะได้รับการยอมรับ แต่สำหรับสกุลเงินอื่นๆ นั้นยังมีความท้าทายอีกมากมายต้องเผชิญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโอกาสที่จะถูกแทรงแซงหรือปั่นราคาจากคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง นั่นเป็นหนึ่งในเหตุผลที่นอกจากบิทคอยน์และอีเธอเรียมแล้ว สกุลเงินอื่นๆ ยังได้รับการยอมรับจากแวดวงการเงินน้อยมาก นอกจากเป็นของเก็งกำไรสนุกๆ ในหมู่นักลงทุนรายย่อย แต่การที่บิทคอยน์มีกองทุน ETF รองรับแล้ว ถือเป็นก้าวสำคัญของวงการคริปโตเคอเรนซี่