การเพิ่มขึ้นของดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เมื่อสัปดาห์ที่แล้วดูเหมือนว่าจะยิ่งทำให้นักลงทุนในตลาดเชื่อว่าขาขึ้นจะยังสามารถไปต่อได้ ดัชนีหลักของตลาดอย่างแนสแด็กปรับตัวขึ้นตลอดทั้งสัปดาห์ 1.9% สร้างสถิติขาขึ้น 4 สัปดาห์ติดต่อกัน เช่นเดียวกับเอสแอนด์พี 500 ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอีก 0.4% มีเพียงดาวโจนส์เท่านั้นที่ปรับตัวลดลง 0.8% ตลอดทั้งสัปดาห์เพราะนักลงทุนย้ายออกจากหุ้นกลุ่มเน้นคุณค่าหันไปถือหุ้นเทคโนโลยีแทน
สัปดาห์นี้ค่อนข้างถือได้ว่าเป็นช่วงกลางเดือนที่สำคัญพอสมควร สหรัฐฯ จะมีการประชุมของธนาคารซึ่งทุกฝ่ายต่างให้ความสำคัญเป็นอย่างมากว่าพวกเขาจะตัดสินใจอย่างไรหลังจากที่ได้เห็นเงินเฟ้อเร่งตัวขึ้นมาสองเดือนติดต่อกันแล้ว นอกจากนี้จะมีการรายงานตัวเลขยอดค้าปลีกของสหรัฐฯ แต่ไม่ว่าตลาดจะวิ่งไปในทิศทางไหน ในบทความนี้เราได้เลือกหุ้นสองตัวที่เชื่อว่าตัวหนึ่งจะเป็นที่สนใจของตลาดและอีกตัวหนึ่งจะถูกเทขายในสัปดาห์นี้ (ย้ำว่าเฉพาะสัปดาห์นี้!)
หุ้นควรถือ: Jabil
บริษัทผู้ให้บริการด้านการผลิตทั่วโลกจาบิล (NYSE:JBL) คือบริษัทที่เราอยากให้จับตาเป็นพิเศษในสัปดาห์นี้เนื่องจากจะมีการรายงานตัวเลขผลประกอบการแบบปีบัญชีของไตรมาสที่สามในวันที่ 17 มิถุนายนก่อนตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ เปิด บริษัทจาบิลมีโรงงานมากกว่า 100 แห่งใน 30 ประเทศ มีพนักงานมากกว่า 260,000 คน ที่สำคัญบริษัทแห่งนี้คือผู้ที่คอยส่งส่วนประกอบต่างๆ ให้กับบริษัทแอปเปิล (NASDAQ:AAPL) และทำให้เรามี iPhone ใช้กันในทุกวันนี้
หุ้นของจาบิลนับตั้งแต่ต้นปี 2021 มาจนถึงปัจจุบันสามารถปรับตัวขึ้นมาได้ 36% ทำผลงานขาขึ้นได้สูงกว่าเดิมถึง 2 เท่าภายในระยะเวลา 12 เดือน คิดเป็นการเติบโต 90% แบบปีต่อปี ล่าสุดหุ้นจาบิลมีราคาซื้อขายอยู่ที่ $57.89 สร้างจุดสูงสุดในรอบ 52 สัปดาห์เอาไว้ที่ $58.28 ซึ่งถือเป็นระดับราคาที่สูดที่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปี 2000 ปัจจุบันบริษัทจาบิลมีมูลค่าตลาดอยู่ที่ $8,600 ล้านเหรียญสหรัฐ
นักวิเคราะห์ประเมินว่าในไตรมาสนี้จาบิลจะสามารถทำกำไรได้ $6,950 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นแบบปีต่อปีเดือบ 10% และมีตัวเลขการปันผลกำไรต่อหุ้นเพิ่มขึ้น 181% จาก $0.37 ในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว เพิ่มขึ้นเป็น $1.04 สิ่งที่นักลงทุนต้องการจะเห็นจากการรายงานผลประกอบการครั้งนี้คือการรักษาคำพูด เพราะในการรายงานผลประกอบการครั้งก่อน จาบิลบอกว่าไตรมาสนี้พวกเขาจะมีกำไรเพิ่มขึ้น
จาบิลเป็นบริษัททำแทบจะทุกกระบวนการในการผลิตเทคโนโลยี ไล่มาตั้งแต่การออกแบบทางวิศวกรรม การผลิต EMS และเป็นผู้ให้บริการด้านซัพพลายเชน นอกจากนี้จาบิลยังเป็นผู้จัดหาบริการด้านเทคโนโลยีอื่นๆ มาด้วยเช่น พลาสติก โลหะ เครื่องมือต่างๆ ฯลฯ
หุ้นควรทิ้ง: Vertex Pharmaceuticals
ถึงแม้ว่าเทรนด์การดูแลสุขภาพจะมาแรงมาก แต่สำหรับสัปดาห์นี้นักลงทุนอาจจะต้องเลี่ยงหุ้นของบริษัทเกสัชภัณฑ์ ‘เวอร์เทค ฟาร์มาซูติคอล’ (NASDAQ:VRTX) ออกไปก่อน เพราะบริษัทได้ออกมาประกาศว่าจะยกเลิกโครงการพัฒนาหรือทดลองยาสำหรับโรคทางพันธุกรรมที่อาจจะไปสู่โรคในตับหรือว่าปอดได้ (AAT Deficiency (AATD))
ข่าวดีนี้ไม่ส่งผลดีกับบริษัทแน่นอนเนื่องจากเวอร์เทคไม่ใช่บริษัทเดียวที่กำลังพยายามพัฒนาโปรเจคนี้ แต่พวกเขายังมีคู่แข่งอย่างบริษัทแอร์โรว์เฮด ฟาร์มาซูติคอล (NASDAQ:ARWR) และทาเคดะ ฟาร์มาซูติคอล (NYSE:TAK) เมื่อเวอร์เทคตัดสินใจเลื่อนโครงการนี้ออกไป พวกเขาจะไม่สามารถทดลองยาในมนุษย์ได้อีกไปอย่างน้อยจนกว่าจะถึงปี 2022
นับตั้งแต่ต้นปี 2021 มาจนถึงปัจจุบัน หุ้นเวอร์เทคปรับตัวขึ้นมาเกือบ 18% ทำผลตอบแทนได้ต่ำกว่าดัชนีดาวโจนส์และเอสแอนด์พี 500 อย่างมีนัยสำคัญ ล่าสุดหุ้นเวอร์เทคมีราคาซื้อขายอยู่ที่ $193.02 ปรับตัวลดลงมาจากจุดสูงสุดตลอดกาลที่ $306.08 มากถึง 37% บริษัทมีมูลค่าตลาดอยู่ที่ $50,000 ล้านเหรียญสหรัฐ จากการวิเคราะห์ทางเทคนิค การที่ราคาหุ้นเวอร์เทคยังวิ่งอยู่ต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 50, 100 และ 200 วัน แสดงให้เห็นว่ามีโอกาสที่หุ้นตัวนี้จะถูกเทขายได้ในอนาคต
เมื่อนำทั้งปัจจัยพื้นฐานและการวิเคราะห์ทางเทคนิคมารวมกัน จะเห็นว่าไม่มีปัจจัยใดๆ เลยที่สนับสนุนว่าหุ้นเวอร์เทคจะมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้ในอนาคตอันใกล้ ยิ่งถึงขนาดตัวบริษัทเองออกมายอมรับตรงๆ ว่ามีความจำเป็นต้องเลื่อนหรือทิ้งโปรเจค ยิ่งทำให้เชื่อว่ายังไม่ถึงช่วงเวลาที่ควรลงทุนกับหุ้นตัวนี้อย่างแน่นอน