SET: คาด SET Index เปิดตลาดในเกณฑ์ดี สอดคล้องกับตลาดหุ้นเอเชียที่ส่วน ใหญ่เปิดมาในแดนบวกเช้าวันนี้ รับความกังวลในตลาดที่ลดลงสะท้อนผ่าน Bond yield สหรัฐฯที่ปรับตัวลง อย่างไรก็ดี เราประเมินว่าการปรับลงของ Yield ดังกล่าวจะเป็นเพียงแค่เหตุการณ์ในระยะสั้นเท่านั้น (รายละเอียด ด้านล่าง) ด้วยเหตุนี้ ในเชิงกลยุทธ์ ยังคงแนะนําเพียงถือครองหุ้นในส่วนที่เหลือ ต่อไป โดยที่ยังไม่แนะนําให้เพิ่มน้ําหนักการลงทุนใหม่ จากการที่คาดการณ์ EPS ในตลาดยังคงทรงตัวเท่าเดิม ECB: ผลการประชุม ECB เมื่อคืนนี้ไม่ได้มีอะไร Surprise ตลาดมากนัก โดย ECB ระดับการผ่อนคลายนโยบายการเงินไว้ตามเดิม แต่เรามองว่าโทนที่ออกมา โดยรวมถือว่า Dovish ดีกว่าที่เราคาดไว้ โดยเฉพาะจุดสาคัญใน Statement ที่ ECB ยังคงประโยคที่ว่าการซื้อสินทรัพย์จะกระทําในอัตรา “Higher pace" เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดือนแรกๆของปีนี้ ซึ่งในช่วงนั้น การเข้าชื่อสินทรัพย์ของ ECB เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 1.4 หมื่นล้านยูโรต่อสัปดาห์ เทียบกับ 1.9 หมื่นล้านยูโรใน ปัจจุบัน (รูปที่ 1) ทั้งนี้ ถ้อยคําใน Statement ได้รับการตอกย่าจาก นาง Christine Lagarde ประธาน ECB ในช่วงการแถลงข่าว ว่าการเข้มงวด นโยบายการเงินที่เร็วเกินไปอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจได้เช่นกัน ในส่วนของประมาณการตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมานั้น ถือว่า ECB ได้มีการปรับขึ้น ทั้งในส่วนของ GDP และ Inflation แต่ในส่วนของเงินเฟ้อปีนีที่ถูกปรับเพิ่มนั้น ยัง อยู่เพียงแค่ระดับ 1.99% ไม่เกินกว่า 2% (รูปที่ 2) จึงมองว่าเป็นสิ่งที่ตลาดยอมรับ ได้ กล่าวโดยสรุป มองผลการประชุมดังกล่าวเป็นบวกต่อสภาพคล่อง โดยรวม และเป็นบวกต่อตลาดหุ้นยุโรปเป็นสําคัญ CPI: สหรัฐฯรายงานตัวเลขเงินเฟ้อประจําเดือนพ.ค.ปรากฏว่าออกมาสูงกว่าที่ ตลาดคาดการณ์ไว้เล็กน้อย โดย Headline CPI ขยายตัวที่ 5.0% YoY และ 0.69 MoM ส่วน Core CPI ขยายตัวอยู่ที่ 3.8% YoY และ 0.7% MoM ทั้งนี้ หากดูใน รายละเอียดจะพบว่า การปรับขึ้น 1 ใน 3 ของตัวเลข MoM นั้นเกิดขึ้นจากราคา สินค้าในหมวดรถมือ 2 ที่เพิ่มขึ้นถึง 7.3% MoM ซึ่งอาจเป็นการสะท้อนถึงปริมาณ การสัญจรที่เพิ่มขึ้นตามการเปิดเมือง Reaction: หลังรายงานตัวเลขเงินเฟ้อออกมา Bond yield สหรัฐฯปรับตัวเต่งขึ้น ก่อนในช่วงแรก ก่อนร่วงลงหลังจากนั้นมาจนถึงเช้าวันนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรุ่น อายุยาวกว่า 5 ปีขึ้นไป (รูปที่ 3) ส่งผลให้ความชัน Yield curve ล่าสุดอดตัว ลงสู่ระดับต่ําสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.ที่ผ่านมา (รูปที่ 4) ซึ่งกลายมาเป็นปัจจัย สนับสนุนท่าให้หุ้นกลุ่ม Growth ปรับตัว Outperform กลุ่ม Cyclical ได้ในส่วน ของเมื่อคืนนี้ Breakeven: อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่น่าสนใจเมื่อคืนนี้ก็คือว่า การปรับตัวลงของ Bond yield นั้น ไม่ได้สอดคล้องกับระดับ Breakeven หรือ Inflation expectation ในตลาดที่ปรับตัวสูงขึ้นหลังรายงานออกมาด้วยซ้ํา (รูปที่ 5) และเป็นเหตุผลท่าให้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรแท้จริง (Real bond yield) ของสหรัฐฯเมื่อคืน นี้ อดลงมาสู่ระดับต่าสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.ด้วยเช่นกัน (รูปที่ 6) ซึ่งปัจจัย ดังกล่าวเลยเป็นผลทําให้ราคาหุ้นและราคาทองคําในช่วงของเมื่อคืนนี้ปรับสูงขึ้นได้
• Implication: จากการที่ระดับคาดการณ์เงินเฟ้อเมื่อคืนนี้ไม่ได้ปรับตัวลดลง จึงประเมินว่าการปรับลงมาของ Bond yield โดยเฉพาะรุ่นระยะยาวนั้น น่าจะเกิดจากการปรับพอร์ต/ Duration ของนักลงทุนสถาบันมากกว่า หากเสร็จสิ้นกระบวนการดังกล่าว ประเมินว่า Bond yield สหรัฐฯมีโอกาสที่จะเริ่มไต่ระดับขึ้นมาได้อีกครั้ง ซึ่งนั่นหมายความว่า ระดับ Real bond yield ในตลาดน่าจะเริ่มติดลบน้อยลง และท่าให้ราคาสินทรัพย์อย่างหุ่น และทองคําหยุดการปรับขึ้นได้ ในเชิงกลยุทธ์ แนะนํานักลงทุนที่ยังคงถือสินทรัพย์ เหล่านี้ในระดับสูงสามารถใช้จังหวะนี้ในการลดพอร์ตการลงทุนมาก่อนได้ ส่วนหุ้นไทยที่ น่า “Buy on weakness" ในระยะสั้นคือหุ้นกลุ่มประกันที่ถูกเทขายมาก่อนหน้านี้ อย่าง BLA จากการที่เราคาดว่า Bond yield มีโอกาสที่จะพลิกกลับมาปรับตัวขึ้น อีกครั้งดาม Inflation expectation ได้
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Trinity Securities