ดอลลาร์ทะยานจากตัวเลขจ้างงาน แต่จะยั่งยืนหรือไม่?

ดอลลาร์สหรัฐ ซื้อขายสูงขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อเทียบกับทุกสกุลเงินหลักในวันพฤหัสบดี โดย เงินเยน ปิดเหนือ 110 เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนเมษายน ซึ่งเป็นสัญญาณว่านักลงทุนกำลังเตรียมพร้อมสำหรับรายงานที่แข็งแกร่ง จำนวนงานในเดือนที่แล้วแย่มาก โดยบริษัทในสหรัฐฯ เพิ่มคนงานใหม่เพียง 266,000 คน นักเศรษฐศาสตร์กำลังมองหาการเติบโตของงานเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวในเดือนพฤษภาคม แต่ปัญหาคือตัวชี้วัดอื่น ๆ ของสหรัฐฯ สนับสนุนรายงานที่อ่อนกว่า

แม้ว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์จะลดลงต่ำกว่า 400,000 รายเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดการระบาดใหญ่ และ ADP รายงานว่ามีการจ้างงานภาคเอกชนเพิ่มขึ้นอย่างมาก การเรียกร้องสวัสดิการว่างงานอย่างต่อเนื่องยังคงเพิ่มขึ้น และการเร่งในกิจกรรมภาคบริการไม่ได้มาพร้อมกับการเติบโตของงานที่แข็งแกร่งขึ้น แต่ดัชนีภาคการบริการจากสถาบันไอเอสเอ็ม (ISM) นอกการผลิตลดลงเหลือ 55.3 จาก 58.8 ในขณะที่ Challenger รายงานการเลิกจ้างเพิ่มขึ้น  ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคลดลง ตามรายงานของทั้ง Conference Board และ มหาลัยมิชิแกน

ข้อโต้แย้งที่สนับสนุนการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่แข็งแกร่งขึ้น

1. การเปลี่ยนแปลงการจ้างงาน ADP เพิ่มขึ้น 978,000 เพิ่มขึ้นจาก 654,000

2. จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานเฉลี่ย 4 สัปดาห์ลดลงเหลือ 428,000 จาก 562,000

ข้อโต้แย้งที่สนับสนุนการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่อ่อนแอลง ได้แก่

1. องค์ประกอบการจ้างงานของ ISM Services ลดลง

2. องค์ประกอบการจ้างงานของ ISM Manufacturing ลดลง

3. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของมหาวิทยาลัยมิชิแกนลดลง

4. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของ Conference Board ลดลง

5. รายงานผู้ท้าชิงเพิ่มขึ้นในการลดตำแหน่งงานในเดือนพฤษภาคม

6. การเรียกร้องสวัสดิการต่อเนื่องเพิ่มขึ้นเป็น 3.77 ล้านจาก 3.68 ล้าน

กระนั้น เงินดอลลาร์กลับเพิกเฉยต่อข้อมูลที่น่าผิดหวังเหล่านี้ เทรดเดอร์กลุ่มย่อยจำนวนมากกำลังมองหาความแตกต่างที่จะสามารถชดเชยตัวเลขเหล่านี้ได้ในเดือนพฤษภาคม ด้วยจำนวนงานมากกว่า 1 ล้านตำแหน่ง ดัชนีนอกภาคการผลิตของ ISM แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งเป็นสัญญาณว่ากิจกรรมภาคบริการแข็งแกร่งมาก การฟื้นตัวยังคงได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ที่ถูกสะสมไว้ และอยู่ที่เวลาเท่านั้นว่าข้อมูลเหล่านี้จะสะท้อนให้เห็นความเปลี่ยนแปลงเมื่อใด ขณะเดียวกันบางธุรกิจกำลังดิ้นรนในการหาคนงานเพราะการเติบโตของค่าจ้างนั้นต่ำกว่าที่คาด แต่ในที่สุดธุรกิจที่ต้องการพนักงานเพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นจะต้องจ่ายเงินมากขึ้น เกือบครึ่งหนึ่งของรัฐในสหรัฐฯ กำลังวางแผนที่จะตัดสวัสดิการการว่างงานของรัฐบาลกลางออกทันทีในสัปดาห์หน้า ซึ่งน่าจะดึงคนงานกลับเข้าทำงานในระบบ

ด้วยจำนวนการคาดการณ์อย่างไม่เป็นทางการถึง 1 ล้าน รายงาน NFP ที่แข็งแกร่งมากจึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับดอลลาร์สหรัฐและหุ้น เพื่อหลีกเลี่ยงการกลับตัวอีกครั้ง หุ้นมีการควบรวมกิจการ และการเติบโตของตำแหน่งงานที่ต่ำกว่ามาตรฐานสองเดือนติดต่อกัน อาจมากเกินกว่าที่ตลาดจะรับมือได้ เนื่องจากจะทำให้เกิดข้อสงสัยในการฟื้นตัวโดยรวม นักเศรษฐศาสตร์กำลังมองหาการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่เพิ่มขึ้น 650,000 และอัตราการว่างงานลดลงจาก 6.1% เป็น 5.9% อย่างไรก็ตาม การเติบโตของค่าจ้างคาดว่าจะชะลอตัวจาก 0.7% เป็น 0.2%

เพื่อให้เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น ทุกองค์ประกอบของรายงานต้องออกมาดี เพราะนอกจากอัตราการว่างงานแล้ว การคาดการณ์ยังต่ำอีกด้วย โดยอาจมีการแก้ไขตัวเลขของเดือนเมษายนที่พุ่งสูงขึ้นอย่างมาก ซึ่งจะช่วยการเพิ่มขึ้นของดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม หากส่วนใดส่วนหนึ่งของรายงานขาดหายไปและไม่ถูกชดเชยด้วยการแก้ไขที่สูงขึ้น ตลาดอาจมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

ตัวเลขตลาดแรงงานของแคนาดาก็อยู่ในความสนใจด้วยเช่นกัน ด้วยคำสั่งล็อกดาวน์ในแคนาดาส่วนใหญ่ จึงไม่คาดว่าจะมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ นักเศรษฐศาสตร์เรียกร้องให้ตกงานอีกหนึ่งเดือน หากข้อมูลของสหรัฐฯ ดีขึ้นและแคนาดาตกงาน การปรับขึ้นในวันนี้อาจเป็นจุดต่ำสุดสำหรับ ดอลลาร์แคนนาดา

ดอลลาร์ออสเตรเลีย และ ดอลลาร์นิวซีแลนด์ ลดลงมากที่สุดจากการที่นักลงทุนเลี่ยงความเสี่ยง ขณะที่ ยูโร และ สเตอร์ลิง ยังทรงตัว