หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีถูกทุบ กับสาเหตุบางประการที่เกิดขึ้น

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงกราวสัปดาห์นี้ เกิดจากนักลงทุนแสวงหาผลกำไรและมีความคาดหวังอย่างสูงในการเก็งกำไร โดย Nasdaq Composite ลดลงเกือบ 1% ในการซื้อขายช่วงแรกของวันอังคาร ซึ่งขยายผลขาดทุนห้าวันเป็น 2.1% แต่ Nasdaq ได้อธิบายว่าเป็นความเสี่ยงเล็กน้อยที่เกิดขึ้นในตลาด
หุ้นของ Tesla (NASDAQ:TSLA) ได้ลดลงมากถึง 5% ในเซสชั่นวันนี้ และเป็นข่าวสารที่ทุกคนติดตามมากที่สุดข่าวหนึ่งใน Yahoo Finance และในช่วงเที่ยง ET Virgin Galactic หายไป 6% ในขณะที่ Apple (NASDAQ:AAPL) ลดลงประมาณ 2% Yahoo Finance โดย Mr.Market จะวิเคราะห์อย่างรวดเร็วว่าปัจจัยใดที่มีผลต่อการประเมินราคาหุ้นเทคโนโลยีที่มีมูลค่ามหาศาล
สิ่งที่ดูเหมือนเป็นปัจจัยสำคัญคือ สมาชิกเฟดทำให้นักลงทุนเติบโต Loretta Mester ประธานธนาคารกลางของ Cleveland ได้จุดประกายความกังวลเกี่ยวกับการประเมินมูลค่าหุ้นและอัตราเงินเฟ้อในการสัมภาษณ์พิเศษกับ Brian Cheung ซึ่งเผยแพร่ใน Yahoo Finance Live
"สิ่งที่ฉันอ่านคือมีแน่นอนในแง่ของราคาตราสารทุนที่สูงขึ้น – มันสูง มีแรงกดดันในการประเมินมูลค่าที่สูงขึ้นที่นั่น" เมสเตอร์กล่าว
เมสเตอร์ดูเหมือนจะเปิดกว้างที่จะปล่อยให้อัตราเงินเฟ้อดำเนินไปอย่างร้อนแรง - สิ่งที่นักลงทุนด้านเทคโนโลยีอาจไม่อยากได้ยิน ส่งผลให้เฟดมีศักยภาพในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2565 เพื่อต่อสู้กับเงินเฟ้อ ซึ่งมักจะไม่ใช่ปัจจัยเบื้องหลังที่ดีสำหรับนักลงทุนในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีที่ชอบลงทุนควบคู่ไปกับอัตราดอกเบี้ยต่ำ
เป้าหมายของเฟดเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อคือ อัตราที่สูงขึ้น 2%
“ การเห็นอัตราเงินเฟ้อขยับขึ้นเป็นสองและสูงกว่า 2 [เปอร์เซ็นต์] ไม่ใช่ปัญหา” เมสเตอร์กล่าวในการให้สัมภาษณ์
โกลด์แมนวิเคราะห์ถึงเรื่องของการเก็บภาษีในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีว่าอาจเกิดขึ้นจริง สัปดาห์นี้ไม่ได้เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับนักลงทุนด้านเทคโนโลยี เนื่องจาก Goldman Sachs ทราบเกี่ยวกับผลกำไรของอุตสาหกรรมเทคโนโลยี และมีการพูดถึงเรื่องนี้อย่างกว้างขวาง
"หากแผนภาษีนิติบุคคลของ Biden มีผลบังคับใช้อย่างสมบูรณ์ FAAMG [Facebook, Apple, Amazon, Microsoft และ Google] ปี 2565 โดยประมาณรายได้จะลดลงประมาณ 9% เมื่อเทียบกับความคาดหวังที่เป็นฉันทามติ" David Kostin หัวหน้านักยุทธศาสตร์ด้านหุ้นของสหรัฐกล่าว
ฝ่ายบริหารของ Biden กำลังพยายามที่จะเพิ่มอัตราภาษีนิติบุคคลเป็น 28% จาก 21% ในยุคของทรัมป์ นอกจากนี้เขายังพร้อมที่จะเพิ่มภาษีกำไรจากการลงทุนให้กับชาวอเมริกันที่ร่ำรวยที่สุดเป็น 43.4% รวมถึงภาษีส่วนเกินเพื่อช่วยในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ภาษีกำไรจากการลงทุนในปัจจุบันอยู่ที่อัตราสูงสุดที่ 23.8% ซึ่งเริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2013 Kostin กล่าวเพิ่มเติมว่าหุ้น FAAMG ยังมีความเสี่ยงที่จะมีการเพิ่มภาษีกำไรจากการลงทุน
"หากอัตราภาษีกำไรจากเงินทุนถูกกำหนดให้สูงขึ้นในปี 2565 นักลงทุนที่อยู่ในอัตราที่สูงขึ้นอาจเลือกที่จะรับรู้กำไรจากเงินทุนจำนวนมากในปี 2564 ด้วยอัตราภาษีปัจจุบันที่ต่ำกว่าหุ้น FAAMG ได้แข็งค่าขึ้น 5 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วงที่ผ่านมา 5 ปีคิดเป็น 29% ของมูลค่าตลาดที่เพิ่มขึ้นของ S&P 500 ในช่วงเวลานั้น” Kostin กล่าว
ณ จุดนี้อาจเป็นการตัดสินใจที่ชาญฉลาดในการเริ่มลงทุนในหุ้น หากคุณเป็นมือใหม่ ลองใช้แพลตฟอร์ม เทรด ดู ก็น่าสนใจมิใช่น้อย

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีพังติดชาร์ต
ความอ่อนแอของหุ้นเทคโนโลยีห้าช่วงที่ผ่านมาได้กระตุ้นให้เกิดการวิเคราะห์ทางเทคนิคและรายละเอียดต่างๆ บนชาร์ตหรือกระดานหุ้น ผู้สังเกตการณ์ของ Wall Street กล่าว กล่าวอีกนัยหนึ่คือ หุ้นวัวกระทิงอย่างหุ้นเทคโนโลยีกำลังสูญเสียการต่อสู้และความเชื่อมั่น และอาจจะกลายเป็นกุ้นหมีได้ ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่าอะไรที่จะเป็นปัจจัยให้หุ้นเทคโนโลยีกลับมาเป็นกระทิงเต็มที่เหมือนเดิม
"แม้ว่า Nasdaq (และ ETF เทคโนโลยี XLK ในวงกว้าง) จะไม่ได้รับผลกระทบหนักเท่าหุ้นชิปเมื่อวานนี้ แต่พวกเขาก็ยังคงเห็นความอ่อนแออยู่พอสมควร Nasdaq ปิด RIGHT บนค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 100 วันของตัวเอง เส้นดังกล่าวเป็นระดับแนวรับที่ดียิ่งขึ้นสำหรับ Nasdaq …เด้งออกมาอีกสี่ครั้งนับตั้งแต่เดือนกันยายนของปีที่แล้วดังนั้น หากมันหลุดต่ำกว่าเส้นดังกล่าวในลักษณะที่มีนัยสำคัญใด ๆ ... ดูเหมือนว่ามันจะขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ซื้อขายอยู่ตอนนี้… มันจะชูธงสีเหลืองขนาดใหญ่บนดัชนี” Matt Maley หัวหน้านักยุทธศาสตร์การตลาดของ Miller Tabak กล่าว
Maley ชี้ให้เห็นว่า ETF ของ VanEck Vectors Semiconductor ที่มีการติดตามอย่างกว้างขวางลดลงต่ำกว่าค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 100 วันในวันจันทร์ซึ่งเป็นการพัฒนาเชิงลบต่อนักลงทุนในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี