ภาพรวมการลงทุนวันนี้ - เราคาดว่า SETวันนี้ จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,520-1,565 จุด เราเชื่อว่า SET วันนี้มีโอกาสฟื้นตัวในลักษณะ Technical Rebound หลังวานนี้ (13 พ.ค.) ตลาดหุ้นไทยปรับ ลดลงกว่า 23.7 จุด (-1.51%) โดยในระหว่างการซื้อขายปรับลดลงไปทดสอบระดับ 1,500 จุด จากความกังวลต่อภาวะเงินเฟ้อ และจํานวนผู้ติดเชื้อในประเทศที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสําคัญ ก่อนมีแรง ซื้อกลับ โดยเฉพาะในหุ้นขนาดใหญ่อย่างกลุ่มพลังงาน และกลุ่มธนาคาร ปัจจัยบวกที่กลับมาหนุน ตลาดส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการที่ รองประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยืนยันว่า ตัวเลขการจ้าง งานของสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาด และอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก ในเดือน เม.ย. จะไม่ทํา ให้เฟดเปลี่ยนแปลงแนวทางการสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยเฟดจะใช้เวลาอีก ระยะหนึ่งก่อนที่จะพิจารณาปรับเปลี่ยนนโยบายการเงิน ทําให้ตลาดลดความกังวล หลังก่อนหน้านี้มี รายงาน CPI เดือน เม.ย. ปรับเพิ่ม รวมไปถึงอัตราผลตอบแทนจากพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ที่เริ่มปรับ ลดลง จากระดับสูงสุดที่ 1.725% กลยุทธ์การลงทุน เรายังคงเน้นลงทุนหุ้นในกลุ่ม Global play และหุ้นตาม Core Investment ที่เราแนะนํา โดยเราปรับเพิ่มสัดส่วนหุ้นในพอร์ตเป็น 50%
ราคาน้ำมันดิบปรับลดลง หลังท่อส่งน้ำมันในสหรัฐฯ กลับมาดําเนินการตามปกติ - สัญญาน้ำมันดิบ WT ส่งมอบเดือน มิ.ย. ลดลง 2.26 เหรียญ (-3496) หลังบริษัท โคโลเนียล ไปป์ไลน์ ซึ่งดําเนินการท่อส่ง น้ำมันเบนซินและดีเซลไปยังภาคตะวันออกและตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐฯ รายงานว่าท่อส่งน้ำมัน ดังกล่าวได้การกลับมาดําเนินงาน โดยจะมีการเร่งการขนส่งน้ำมันเบนซิน น้ำมันดีเซล และน้ำมัน เครื่องบิน ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทําได้อย่างปลอดภัยและต่อเนื่อง จนกว่าตลาดจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ นอกจากนี้ราคาน้ำมันดิบยังได้รับแรงกดดันจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิต-19 ในอินเดีย ที่ยังอยู่ในระดับวิกฤต ส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมันในประเทศ โดยในเดือน เม.ย. 64 ความต้องการใช้น้ำมันในอินเดียลดลง 9.496MoM ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการที่รัฐบาลอินเดียใช้ มาตรการควบคุมการเดินทางเพื่อสกัดการแพร่ระบาด ซึ่งคาดว่าจะยังเป็นปัจจัยลบต่อเนื่องถึงเดือน พ.ค.
รายงานตัวเลขทางด้านเศรษฐกิจที่สําคัญ - กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ รายงานตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการ ว่างงานครั้งแรกลดลง 34,000 ราย สู่ระดับ 473,000 รายในสัปดาห์ที่ผ่านมา (สิ้นสุดวันที่ 8 พ.ค.) ซึ่งเป็นระดับต่ําที่สุด ตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐฯ เมื่อเดือน มี.ค. 2563 (คาดลดลง 490,000 ราย) และต่ํากว่าสัปดาห์ก่อนหน้านี้ที่ระดับ 507,000 ราย โดยปัจจุบันยังมีชาว สหรัฐฯ ที่ยังคงขอรับสวัสติการว่างงานต่อเนื่องลดลงสู่ระดับ 3.66 ล้านราย นอกจากนี้ยังรายงาน ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต เพิ่มขึ้น 0.696MoM และเพิ่มขึ้น 6.29%YoY (คาดเพิ่มขึ้น 0.396MoM และเพิ่มขึ้น 3.8%) เป็นการปรับเพิ่มขึ้นมากเป็นประวัติการณ์ นับตั้งแต่เริ่มมีการรวบรวมข้อมูลดังกล่าวในปี 2553
ติดตามรายงานตัวเลขทางด้านเศรษฐกิจที่สําคัญวันนี้ - รายงานเศรษฐกิจที่สําคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ ดัชนียอดค้าปลีก (Retail Sales) เดือน เม.ย. (คาตเพิ่มขึ้น 0.296MoM) ดัชนียอดค้าปลีกพื้นฐาน (Core Retail Sales) เดือน เม.ย. (คาดเพิ่มขึ้น 0.89oMoM) ดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรม (Industrial Production) เดือน เม.ย. (คาดเพิ่มขึ้น 1.99%MoM) ดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรม (Manufacturing Production) เดือน เม.ย. (คาตเพิ่มขึ้น 3.9%/MoM) ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภครัฐ มิชิแกน (Michigan Consumer Sentiment) เดือน พ.ค. (คาดว่าจะอยู่ที่ 89.5 จุด) และความคาดหวัง ของผู้บริโภครัฐมิชิแกน (Michigan Consumer Expectations) เดือน พ.ค. (คาดว่าจะอยู่ที่ 83.6 จุด) บทวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน - Company Update: MTC QH KWM GFPTSTA BDMS CPALL (BK:CPALL) และTOP / Earnings Results: PTG
• มุมมองทางเทคนิค - เราคาดว่า SET Index วันนี้จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,520-1,565 จุด
หุ้นแนะนําทางเทคนิควันนี้ได้แก่ YUASA OTO KBANK (BK:KBANK) 7UP และ BEC
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Asia Wealth Securities