ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้นก่อนจบสัปดาห์ที่แล้วแม้ว่าตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร (NFP) ซึ่งเป็นตัวเลขที่บอกถึงอัตราการจ้างงานในสหรัฐฯ จะหดตัวลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่สหรัฐฯ เข้าสู่สภาวะกำลังฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ตัวเลขการจ้างงานฯ ที่เพิ่มขึ้นเพียง 266,000 ตำแหน่งเทียบกับตัวเลขคาดการณ์ 990,000 ตำแหน่งทำให้นักวิเคราะห์เชื่อว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะคงอัตราดอกเบี้ยเอาไว้ในระดับต่ำเช่นนี้ไปอีกนาน
ข่าวร้ายนี้กลับกลายเป็นตัวกระตุ้นขาขึ้นในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดัชนีเอสแอนด์พี 500ปรับตัวสูงขึ้น นำโดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี วัฎจักร พลังงานและกลุ่มอุตสาหกรรม ดัชนีรัสเซลที่ใช้ผลการดำเนินงานของบริษัทขนาดเล็กที่สุดในสหรัฐฯ ทั้ง 1000 และ 2000 ต่างก็สามารถขยับขึ้นปิดบวกเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว 0.8% แม้ว่าการรายงานผลประกอบการของบริษัทชื่อดังจะผ่านพ้นไปแล้ว แต่ก็ยังมีการรายงานผลประกอบการของบริษัทที่น่าสนใจรอนักลงทุนอยู่ในสัปดาห์นี้
1. Disney
ดิสนีย์ (NYSE:DIS) หรือที่เด็กๆ รู้จักกันดีในฐานะ ‘อาณาจักรมิกกี้เมาส์’ จะรายงานผลประกอบการแบบปีบัญชีของไตรมาสที่สองปี 2021 ในวันพฤหัสบดีที่ 13 พฤษภาคมหลังจากตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ ปิด นักวิเคราะห์คาดว่าบริษัทดิสนีย์ในไตรมาสนี้จะสามารถทำกำไรได้ $15,860 ล้านเหรียญสหรัฐและมีตัวเลขการปันผลกำไรต่อหุ้นอยู่ที่ $0.27
หากการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ถูกต้อง กำไรในไตรมาสสองจะเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าดิสนีย์สามารถฟื้นคืนชีพได้สำเร็จ ก่อนหน้านี้บริษัทดิสนีย์ได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิดอย่างมหาศาล พวกเขาไม่สามารถทำกำไรจากธุรกิจหลักๆ อย่างเช่นสวนสนุก โรงแรม รีสอร์ท หรือแม้กระทั่งมีรายได้จากการฉายภาพยนตร์ในโรงภาพยนตร์ อีกหนึ่งปัจจัยที่นักลงทุนจะให้ความสำคัญคือการเติบโตของแอปพลิเคชั่นภาพยนตร์สตรีมมิ่ง ‘ดิสนีย์พลัส’ (Disney+) เพราะแอปฯ ตัวนี้คือผู้ช่วยชีวิตของดิสนีย์ในช่วงวิกฤตโรคระบาดอย่างแท้จริง
หากนับตั้งแต่ต้นปี 2021 มาจนถึงปัจจุบันจะพบว่าหุ้นของบริษัทดิสนีย์ปรับตัวขึ้นมาแล้วมากกว่า 75% นี่คือการฟื้นตัวหลังจากร่วงลงไปมากถึง 40% ในปี 2020 การที่หุ้นดิสนีย์สามารถกลับมาทำขาขึ้นได้มากขนาดนี้สะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มองว่ายักษ์ใหญ่อย่างดิสนีย์ไม่มีทางล้มได้ง่ายๆ เมื่อวันศุกร์ที่แล้วหุ้นดิสนีย์มีราคาปิดอยู่ที่ $184.84
2. Airbnb
สตาร์ทอัพการแบ่งปันที่พักชื่อดังแอร์บีเอ็นบี (NASDAQ:ABNB) จะรายงานผลประกอบการไตรมาสที่หนึ่งปี 2021 ในวันและเวลาเดียวกันกับดิสนีย์ นักวิเคราะห์คาดว่าแอร์บีเอ็นบีในไตรมาสนี้จะสามารถทำกำไรได้ $718 ล้านเหรียญสหรัฐและมีตัวเลขการปันผลกำไรต่อหุ้นอยู่ที่ $1.05
ผลประกอบการของแอร์บีเอ็นบีจะเป็นตัวชี้วัดการเติบโตของความต้องการท่องเที่ยวเป็นอย่างดี ก่อนหน้านี้แอร์บีเอ็นบีก็เป็นหนึ่งในบริษัทที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 หนักที่สุดจนเกือบต้องเลื่อนแผน IPO ของตัวเองในเดือนธันวาคมออกไป ยอดผู้เช่าที่พักในช่วงปลายเดือนเมษายนปีที่แล้วเคยลดลงมากถึง 72%
เมื่อสถานการณ์ในสหรัฐอเมริกาเริ่มดีขึ้น มีการกระจายวัคซีนอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ นักวิเคราะห์จึงมองว่าแอร์บีเอ็นบีน่าจะมียอดผู้จองที่พักเพิ่มขึ้นในช่วงฤดูร้อนที่กำลังจะมาถึงซึ่งจะเป็นตัวบ่งบอกถึงภาพการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว หากนับตั้งแต่ต้นปีมาจนถึงปัจจุบัน หุ้นแอร์บีเอ็นบีปรับตัวขึ้นมาแล้ว 3% มีราคาปิดล่าสุดอยู่ที่ $151.21
3. Simon Property
ไซม่อน พร็อพเพอร์ตี้ กรุ๊ป (NYSE:SPG)บริษัทอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ซึ่งเป็นหนึ่งในทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุด (REIT) จะรายงานผลประกอบการไตรมาสที่หนึ่งปี 2021 ในวันอังคารที่ 11 พฤษภาคมหลังจากตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ ปิด นักวิเคราะห์คาดว่ากำไรของไซม่อน พร็อพเพอร์ตี้ในไตรมาสนี้จะออกมาอยู่ที่ $1,100 ล้านเหรียญสหรัฐและมีตัวเลขการปันผลกำไรต่อหุ้นอยู่ที่ $2.27 
หุ้นของไซม่อน พร็อพเพอร์ตี้ กรุ๊ปถือเป็นหุ้นที่ฟื้นตัวกลับขึ้นมาจากจุดต่ำสุดเดือนมีนาคมได้มากที่สุดตัวหนึ่งเมื่อเทียบกับบริษัทอื่นๆ ในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ นักวิเคราะห์จากเจฟฟี่ (Jefferies) ได้ปรับระดับความน่าสนใจของหุ้นไซม่อนขึ้นจาก “ถือเอาไว้ก่อน” มาเป็น “เข้าซื้อ” ในเดือนที่แล้ว
พวกเขาให้เหตุผลว่าการที่สหรัฐอเมริกากำลังจะกลับเข้าสู่สภาวะปกติจะทำให้ผู้คนกลับไปเดินช๊อปปิ้งตามห้างต่างๆ เหมือนเดิม ประกอบกับไซม่อน พร็อพเพอร์ตี้ กรุ๊ปถือเป็นบริษัทที่สามารถจัดการหนี้ได้ดี มีราคาหุ้นอยู่ในขาขึ้น นี่คือการฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญของวงการอสังหาริมทรัพย์ ล่าสุดหุ้นไซม่อนมีราคาอยู่ที่ $124.94 ปรับตัวขึ้นมากกว่า 119% ในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา