ความกังวลแรงหายจากนักลงทุนต่างชาติเบาลง หลังกลับมาซื้อสุทธิอีกครั้ง พร้อมเปิด Long ใน Future เชื่อว่า SET Index ยังยืนที่ระดับสูง แนวต้าน บริเวณ 1593-1600 จุด กลยุทธ์การลงทุนจะ Overweight กลุ่ม Commodity และ Export พอร์ตจําลองให้นําเงินสด 15%% เข้าลงทุนใน TU ส่วน Top Pick เลือก NER, SPVi และ TU
ให้น้ําหนักไปกับหุ้น Commodity และ หุ้นส่งออก ตลาดหุ้นสําคัญของโลกดูเหมือนจะให้น้ําหนักไปกับเรื่องการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ หลัง กลุ่มประเทศพัฒนาแล้วเริ่มหลุดพ้นจากปัญหา Covid-19 ทําให้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้น โดย DJIA ขึ้นไปทํา New High อีกครั้ง แต่อย่างไรก็ตามหลังจากนี้อาจต้องเริ่มระมัดระวัง การ ขยับตัวของธนาคารกลางหลายประเทศที่มีแนวทางที่จะลดระดับการใช้นโยบายการเงิน ผ่อนคลาย ซึ่งอาจส่งผลกระทบเชิงลบต่อทิศทางของตลาดหุ้นทั่วโลกในระยะต่อไป ในอีก ทางหนึ่งที่เป็นผลมาจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกในปัจจุบันได้แก่ ราคาสินค้าโภค ภัณฑ์ ซึ่งจนถึงปัจจุบันภาพรวมยังเห็นการปรับตัวขึ้นต่อเนื่องบนความคาดหวังเรื่อง Demand สําหรับตลาดหุ้นไทยความกังวลเริ่มผ่อนคลายลง หลังจากที่นักลงทุนต่างชาติ กลับมาซื้อสุทธิ พร้อมเป็น Long ในตลาด Future หักล้างกับที่เปิด Short ในวันก่อนหน้า อีกทั้งผลประกอบการงวด 1Q64 ที่จะประกาศในช่วงจากนี้ไปก็น่าจะเป็นตัวเลขที่เติบโต อย่างมีนัยสําคัญ ทําให้เป็นไปได้ที่ SET Index จะปรับตัวขึ้นไปได้อีกครั้ง พอร์ตจําลอง จะ Overweight ในหุ้นกลุ่ม Commodity และ ส่งออก โดยวันนี้ให้นําเงินสด 15% ในพอร์ต เข้าซื้อ TU ทั้งจํานวน Top Pick เลือก NER, SPM และ TU
ตลาดหุ้นโลกยังมีสีสันจากความคาดหวังต่อเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง สะท้อนจากตลาดหุ้นสหรัฐ วานนี้ ดัชนี Dow Jones +0.9%, S&P 500 +0.8% และ NASDAQ +0.4% อย่างไรก็ตาม ASPS เริ่มมองว่าเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่าง ชัดเจน จะเป็นเหตุให้นโยบายการเงินที่ปัจจุบันอยู่ในระดับผ่อนคลายมาก จะมี ความสําคัญลดน้อยลงในระยะถัดไป โดยล่าสุด พบว่าธนาคารกลางต่างๆทั่วโลกเริ่ม ทยอยกลับมาทบทวนการดําเนินนโยบายการเงินอีกครั้ง เช่น แคนาดา, อังกฤษ, นอร์เวย์ เป็นต้น
ASPS มองว่าการส่งสัญญาณข้างต้น น่าจะเป็นเพียงการ"ลดระดับการผ่อนคลาย"ของ นโยบายการเงินเป็นหลัก และยังไม่ใช่การกลับไปดําเนินนโยบายการเงินตึงตัว แต่ทว่า ใน ระยะสั้น ประเมินว่าอาจสร้างความผันผวนให้กับตลาดหุ้นซึ่งเป็นสินทรัพย์เสี่ยงได้บ้าง ส่วนในระยะกลาง-ยาว ASPS ยังเชื่อมั่นว่าตลาดหุ้นจะได้แรงหนุนสําคัญจากเศรษฐกิจที่ข กลับมาฟื้นตัวได้อย่างแข็งแกร่ง
ในส่วนของไทย : ASPS มองว่านโยบายการเงินผ่อนคลายยังมีความจําเป็นอยู่ เนื่องจาก เศรษฐกิจไทยเผชิญความเสี่ยงจากการะบาดของ COVID-19 ระลอกใหม่ กดดันให้ เศรษฐกิจชะลอตัว ASPS คาดว่า กนง. จะคงอัตราดอกเบี้ยที่ 0.5% ไปจนถึงสิ้นปี 2564 ซึ่งจะหนุนให้สภาพคล่องส่วนเกินในระบบการเงินยังมีอยู่สูง เป็นบวกต่อ SET Index อีกฝั่งนึงคือ ภาพเศรษบกิจโลกที่ฟื้นตัว ยังเป็นปัจจัยหนุนราคาสินค้าโภคภัณฑ์เป็นทิศทาง ขาขึ้น สะท้อนจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์หลายชนิดเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เช่น ฝ้าย, ถ่านหิน, ถั่วเหลือง, ยาง, ก๊าซธรรมชาติ ส่วนราคาน้ํามันดิบและค่าระวางเรือปรับลดลงเล็กน้อย หลังจากขึ้นมาแรงในช่วงก่อนหน้า (ดังตาราง) ปัจจัยบวกต่อหุ้นกลุ่ม Global Play และ Commodity Play เช่น PTTEP, PTTGC, PTT (BK:PTT), SCC, IRPC, KSL, TV0, STA, STGT, NER, MCS, TU, CPF, TFG เป็นต้น
อ่านบทวิเคราะห์ฉบับเต็ม
บทความนี้จัดทำและเผยแพร่ครั้งแรกบนเว็บไซต์ ASIA Plus Securities