หลังจากที่กลุ่มอุตสาหกรรมหลักๆ ประกาศผลประกอบการ 1Q64 ออกมา เติบโตก้าวกระโดด ภาพที่ฝ่ายวิจัยเคยให้ไว้เรื่อง Upside vองประมาณการ กําไรบริษัทจดทะเบียนก็ชัดเจนขึ้น ซึ่งผลประกอบการที่ดีจะช่วยลบล้าง ความกังวลเรื่อง Sell in May พอร์ตจําลองวันนี้ ขายทํากําไร KSL และย้าย เงินเข้า SPV หุ้น Top Pick เลือก MCs, PTTEP และ SPVI
SET Index น่าจะอยู่ในทิศทางที่ปรับขึ้นได้ต่อ Upside สําหรับประมาณการกําไรสุทธิ ปี 2564 ของบริษัทจดทะเบียน ปรากฏชัดเจนขึ้น ตามลําดับ สอดคล้องกับที่ฝ่ายวิจัยได้คาดการณ์ไว้ โดยบริษัทขนาดใหญ่ที่ประกาศกําไร 1964 พบว่า ส่วนใหญ่เติบโตดีกว่าคาด เริ่มจากกลุ่มธนาคารฯ ขณะที่ในกลุ่มที่เกี่ยวข้อง กับสินค้าโภคภัณฑ์ ไม่ว่าจะเป็นปิโตรเคมี วัสดุก่อสร้าง และ พลังงาน ก็แสดงการเติบโต ก้าวกระโดด YoY สําหรับโดยภาพรวมเชื่อว่ากําไรสุทธิงวด 1Q64 น่าจะกลับขึ้นไปแตะ ระดับ 2 แสนล้านบาท ซึ่งสะท้อนศักยภาพการทํากําไรของบริษัทจดทะเบียนในภาวะปกติ ได้ ซึ่งเมื่อเทียบกับฐานกําไรงวด 1963 ซึ่งต่ําเพียง 9.2 หมื่นล้านบาทแล้วก็จะเห็นอัตรา การเติบโตกว่า 1.2 เท่าตัว YoY และจะนําไปสู่การปรับเพิ่มประมาณการกําไรปี 2564 ซึ่ง ฝ่ายวิจัยคาดการณ์ไว้ที่ 7.9 แสนล้านบาทหรือ 70.20 บาท/หุ้น สําหรับประเด็นเรื่อง Coid-19 เริ่มเห็นสัญญาณบวกจากจํานวนผู้ติดเชื้อใหม่ที่ทรงตัว ขณะที่แผนในการฉีด วัคซีนหลังการประชุมร่วมภาครัฐ กับ เอกชน มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น ประเมินว่า SET Index น่าจะค่อยๆ ปรับตัวขึ้น พอร์ตจําลองวันนี้ให้ขายทํากําไร KSL ซึ่งล่าสุดมีกําไร 18.6% ให้ย้ายเงินเข้า SPM สําหรับ Top pick เลือก MCS, PTTEP และ SPM
Fed คงดอกเบี้ยฯ และ QE กด Dollar อ่อนค่าดีต่อ Commodity ผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) วานนี้เป็นไปตามที่ตลาดคาด นั่นคือ 1.คงอัตรา ดอกเบี้ยนโยบายในระดับต่ําที่ 0-0.25% 2.)คงวงเงินเข้าซื้อพันธบัตร (QE) รวมไว้ที่ 1.2 แสนล้านเหรียญ/เดือน โดยแบ่งเป็น พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 8 หมื่นล้านเหรียญ และตรา สารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยค้ําประกัน (MBS) 4 หมื่นล้านเหรียญ และ Fed ยังส่ง สัญญาณคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในระดับต่ําไปจนถึงปี 2566 เป็นอย่างน้อย ท่าที่ Fed ที่เน้นการใช้นโยบายการเงินผ่อนคลายกดดันให้ค่าเงิน Dolar Index มี แนวโน้มเดินหน้าอ่อนค่าต่อ โดยวานนี้ อ่อนค่าลงอีก 0.3% และถ้านับตั้งแต่ต้นเดือน เม.ย. 2564 อ่อนค่าไปกว่า 2.81%mtd ซึ่งช่วยสร้างแรงหนุนต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์หลายตัว ดังที่ ASPS นําเสนอใน Market Talk ตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา ล่าสุด คือ
น้ำมัน : วานนี้ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์ขึ้นแรง 1.5% โดยมีปัจจัยหนุนจากทั้ง Dollar Index ที่อ่อนค่า และฝั่ง Supply เมื่อวาน EIA รายงานปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังสหรัฐ สัปดาห์ ล่าสุด 23 เม.ย. ปรับลดลง 3.3 ล้านบาร์เรล ดีกว่าที่ตลาดคาดจะเพิ่มขึ้น 0.6 ล้านบาร์เรล เช่นเดียวกับฝั่ง Demand คือ การฟื้นตัวเศรษฐกิจโลก ทั้งสหรัฐ จีน เร่งฉีดวัคซีนเร็วกว่าที่ คาด และหลายประเทศในฝั่งประเทศพัฒนาแล้ว ที่ฉีดวัคซีนเริ่มจะ Reopen ประเทศ โดยรวมราคาน้ำมันดิบที่ขึ้นแรง แนะนําลงทุน PIT (Buy: FV@B48.5) และ PTTEP (Buy: FvaB128)
ยกเว้นราคาน้ำตาล เช้านี้ราคาน้ำตาลโดน Take Profit แรงราว 3.4% (ดังตาราง) หลังจาก ปรับขึ้นมาแรงนับตั้งแต่ต้นเดือน armtd ขึ้นมาราว 16% แนะนําชะลอการลงทุนช่วงสั้น หุ้นผู้ผลิตน้ำตาล KSL (Buy FVgB3.70) ราคาหุ้นปัจจุบันปรับขึ้นมาเป็น Fair value
อ่านบทวิเคราะห์ฉบับเต็มจาก ASIA Plus Securities
บทความนี้จัดทำและเผยแพร่ครั้งแรกบนเว็บไซต์ ASIA Plus Securities