เงินเฟ้อเดือนมกราคมชะลอลงเป็น -0.34%

Actual: -0.34% Previous: -0.27%

KTBGM: -0.20% Consensus: -0.31%

• กระทรวงพาณิชย์รายงานอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือนมกราคม ชะลอลงสู่ระดับ -0.34% จากราคาสินค้าพลังงานที่ยังคงหดตัวจากปีก่อนหน้าและการปรับลดค่าไฟช่วยเหลือประชาชน ขณะที่ราคาอาหารสดปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง

• เราคงมองว่าเงินเฟ้อทั่วไปผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว แม้จะชะลอตัวลงบ้าง แต่เฉลี่ยทั้งปี 2564 จะอยู่ที่ระดับ 1.0% หนุนโดยราคาสินค้าพลังงานที่ปรับตัวสูงกว่าปีก่อนหน้ามาก

• แม้เงินเฟ้อทั่วไปจะเร่งตัวขึ้น แต่จะไม่ได้ส่งผลต่อแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ธปท. เพราะเงินเฟ้อพื้นฐานจะยังเร่งตัวขึ้นยาก หากเศรษฐกิจคงยังซบเซาอยู่

กระทรวงพาณิชย์รายงานอัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ระดับ -0.34% ชะลอตัวลงจากระดับ -0.27% ในเดือนธันวาคม

• กระทรวงพาณิชย์รายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนล่าสุดสูงขึ้น 0.09% จากเดือนก่อนหน้า หนุนโดยราคาสินค้าพลังงาน โดยเฉพาะราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ที่เพิ่มขึ้นเกือบ 4% ขณะที่ราคาอาหารสดหดตัว 0.84% โดยเฉพาะราคาผักสดที่ลดลงราว 4%

• อย่างไรก็ดี เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน เงินเฟ้อทั่วไปปรับตัวลงสู่ระดับ -0.34% จาก -0.27% ในเดือนก่อนหน้า มาจากการหดตัวของราคาสินค้าพลังงานราว 5% และการปรับลดค่า FT เพื่อลดค่าใช้จ่ายให้ประชาชนที่ทำให้ค่าใช้จ่ายหมวดเคหสถานลดลงกว่า 0.3% ขณะที่ ราคาอาหารสดปรับตัวขึ้นต่อเนื่องถึง 0.6% จากปัญหาอุกทกภัยในภาคใต้และอุปสงค์ที่ทยอยฟื้นตัว

เราเชื่อว่าเงินเฟ้อทั่วไปทยอยปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง เฉลี่ยทั้งปี 2564 ที่ระดับ 1.0% หนุนโดยราคาสินค้าพลังงานที่ปรับตัวสูงขึ้นและการฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปของเศรษฐกิจ

• แม้เงินเฟ้อจะชะลอตัวลงในเดือนนี้ แต่ส่วนใหญ่เป็นผลจากราคาสินค้าพลังงาน ขณะที่ราคาสินค้าอื่นๆ ยังทรงตัวหรือปรับตัวดีขึ้น เราคงมองว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว โดยในระยะแรกราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้นจากปีก่อนหน้าจะดันให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปปรับตัวขึ้น ทำให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 1.0% ในปีนี้ อย่างไรก็ดี อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานจะค่อยๆพื้นตัวตามภาพรวมเศรษฐกิจ ทำให้ปัจจัยเงินเฟ้อจะยังไม่ใช่ประเด็นที่มีน้ำหนักต่อการปรับนโยบายการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทย เท่ากับแนวโน้มการฟื้นตัวเศรษฐกิจ

• ทั้งนี้ การเร่งตัวขึ้นของอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในช่วงไตรมาสที่ 2 อาจเป็นความเสี่ยงต่อบอนด์ยีลด์ที่ตลาดยังไม่ได้ตอบรับและควรจับตามอง เพราะแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อก็เป็นหนึ่งในปัจจัยที่มีผลต่อบอนด์ยีลด์อายุ 5ปีขึ้นไป ซึ่งหากราคาน้ำมันดิบเบรนท์ยังสามารถทรงตัวที่ระดับสูงกว่า 55 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลได้ จะทำให้ราคาน้ำมันดิบสูงกว่าปีก่อนหน้า โดยเฉลี่ย 25% และทำให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไป อาจเร่งตัวขึ้นเฉลี่ยไม่น้อยกว่า 2% ระหว่างเดือนมีนาคม ถึงมิถุนายน ซึ่งปัจจุบัน บอนด์ยีลด์ในตลาดยังไม่ได้มีการเคลื่อนไหวที่สอดคล้องกับภาพการเร่งตัวของเงินเฟ้อทั่วไป จึงเป็นที่น่าจับตามองว่า หากเงินเฟ้อทั่วไปเร่งตัวขึ้นจริง ก็มีโอกาสที่บอนด์ยีลด์ระยะยาว (5ปีขึ้นไป) อาจดีดตัวขึ้นได้ในระยะสั้น