จีนขึ้นแซงสหรัฐกลายเป็นประเทศที่ต่างชาติเข้ามาลงทุนมากที่สุดในโลก ! ปีที่ผ่านมามีเงิน FDI ไหลเข้ามาสูงถึง 1.6 แสนล้านเหรียญ ในขณะที่สหรัฐเงินหดเหลือเพียง 1.3 แสนล้านเหรียญ
1️. รายงานของ UNCTAD เปิดเผยว่าในปี 2020 จีนมีเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติ (FDI) ไหลเข้าประเทศทั้งหมด 1.6 แสนล้านเหรียญ แซงหน้าสหรัฐเป็นครั้งแรก ที่เงินไหลเข้าหดเหลือเพียง 1.3 แสนล้านเหรียญ
2️. ก่อนหน้านี้สหรัฐเคยครองแชมป์ FDI มาโดยตลอด ในปี 2019 มีเม็ดเงินลทุนไหลเข้าประเทศสูงถึง 2.5 แสนล้านเหรียญ ในขณะที่จีนมีเพียงครึ่งเดียวของสหรัฐที่ 1.4 แสนล้านเหรียญ
3️. เหตุผลหลักที่ทำให้ FDI ไหลเข้าจีนมากกว่าสหรัฐในปีนี้ น่าจะเป็นเพราะการที่จีนสามารถควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ได้ดีกว่าสหรัฐ ถึงแม้ทางจีนจะเจอกับไวรัสระบาดก่อนใคร แต่ทางจีนควบคุมได้เด็ดขาดและมีรายงานพบผู้ติดเชื้อไม่ถึง 100,000 คน ในขณะะที่สหรัฐมีรายงานผู้ติดเชื้อทะลุ 25 ล้านคนเข้าไปแล้ว
4️. ส่งผลให้ GDP ของจีนในปีที่ผ่านมายังรายงานออกมาได้ที่ +2.3% ในขณะที่หลายประเทศอื่นๆทั่วโลกต้องหดตัวกันลงไปเป็นแถวๆ
5️. โดยรวมแล้วโควิด-19 ทำให้เม็ดเงินลงทุน FDI ของทั่วโลกในปี 2020 นั้นหดตัวลงอย่างเห็นได้ชัด ในปี 2020 ปริมาณ FDI โดยรวมของโลกลดลง -42% จาก 1.4 ล้านล้านเหรียญมาอยู่ที่ 0.85 ล้านล้านเหรียญ
6️. เงินลงทุน FDI ของทั่วโลกในปี 2020 ยังถือว่าต่ำกว่าช่วงวิกฤตการเงินในปี 2009 อีกด้วยซ้ำ
7️. FDI หรือ Foreign Direct Investment ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ช่วยชี้วัดการเติบโตทางเศรษฐกิจได้ โดยหากมีเงินลงทุนที่ไหลเข้ามาจากต่างประเทศเยอะก็จะช่วยให้เศรษฐกิจของประเทศนั้นๆเตริญเติบโตได้เร็วขึ้น
8️. อย่างไรก็ตาม แม้ FDI ของจีนจะแซงหน้าสหรัฐ แต่หากพิจารณาเฉพาะการลงทุนที่ลงทุนในตลาดหุ้นอย่างเดียว จะพบว่าการลงทุนของต่างชาติในตลาดหุ้นสหรัฐก็ยังคงมากกว่าจีน
ติดตามข่าวสารการลงทุนที่น่าสนใจไปกับ Facebook fanpage ทันโลกกับTraderKP
บทความนี้เผยแพร่ครั้งแรกที่ Facebook fanpage ทันโลกกับTraderKP