ท่ามกลางสภาวะไร้ซึ่งข่าวดีเข้ามากระตุ้นขาขึ้นของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่มาแรงที่สุดในปี 2020 อย่างเทสลา (NASDAQ:TSLA) ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยเชิงลบใดๆ ก็ตามก็ไม่อาจทำลายความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มีต่อเทสลาได้ จนกระทั่งการมาถึงของยักษ์ใหญ่อย่างบริษัทแอปเปิล (NASDAQ:AAPL)
ในตอนแรกเหมือนจะเป็นแค่เรื่องเล่นๆ แต่เมื่อสำนักข่าวอย่างรอยเตอร์ออกมายืนยันความเป็นไปได้ดังกล่าวก็ทำให้นักลงทุนหันมาสนใจข่าวนี้ทันที รอยเตอร์กล่าวว่าบริษัทผู้ผลิตไอโฟนกำลังเล็งที่จะสร้างรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ว่ากันว่าในเรื่องของแบตเตอรี่นั้นจะไม่เหมือนกับสิ่งที่เราเห็นในรถยนต์พลังงานไฟฟ้ายุคปัจจุบัน
หลังจากพับโปรเจคไปนานถึงหกปี ในที่สุดบริษัทแอปเปิลก็ได้หยิบโปรเจคพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าที่มีชื่อเรียกว่า “โปรเจ็คไททัน” ออกมาปัดฝุ่นใหม่อีกครั้ง ครั้งนี้แอปเปิลมีเป้าหมายในการพัฒนารถยนต์พลังงานไฟฟ้าส่วนบุคคลนี้ให้มีแบตเตอรี่อึดที่สุดเท่าที่รถยนต์พลังงานไฟฟ้าในโลกเคยมีมา
ข่าวการใช้เวลาพัฒนาโปรเจ็คไททันตั้งแต่ตอนนี้ไปจนถึงอีกสี่ปีข้างหน้ามาในช่วงเวลาเดียวกันกับที่นักวิเคราะห์หลายสำนักออกโรงเตือนถึงความเสี่ยงของหุ้นของบริษัทเทสลาว่ากำลังอยู่ในสถานะฟองสบู่ ตลอดทั้งปี 2020 หุ้นเทสลาเติบโตขึ้นมามากกว่า 665% มีมูลค่าตลาดสูงเกินกว่า $600,000 ล้านเหรียญสหรัฐไปแล้ว จึงไม่น่าแปลกใจที่นักวิเคราะห์เหล่านั้นจึงได้ออกมาเห็นต่างกับนักลงทุนในตลาดมากขนาดนี้
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บางส่วนมองว่าข่าวรถยนต์พลังงานไฟฟ้าของแอปเปิลยังไม่ใช่เหตุผลหลักที่จะทำให้ขาขึ้นของหุ้นเทสลาในปี 2021 ร่วงลงมาได้ นักวิเคราะห์ผู้เชี่ยวชาญอยู่ในธุรกิจรถยนต์มองว่า แผนการพัฒนารถยนต์พลังงานไฟฟ้าของแอปเปิลตอนนี้ดูไม่มีเหตุผลเลยเพราะการสร้างรถยนต์สักคันไม่ได้อยู่ในแผนการตลาดของแอปเปิลในยุคปัจจุบันที่ใช้ต้นทุนสูงมาก
โปรเจ็คไททัน
สิ่งที่ทำให้แอปเปิลมีแต้มต่อมากกว่าเทสลาเป็นอย่างมากคือต้นทุนที่แอปเปิลมีทั้งในแง่ของกระแสเงินสดและผลิตภัณฑ์ของบริษัท อ้างอิงข้อมูลจาก S&P Global Market Intelligence เผยว่ามูลค่าตลาดของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ระดับท๊อปของโลก 10 บริษัทยังมีมูลค่าน้อยกว่ากำไรที่แอปเปิลทำได้จากการขายผลิตภัณฑ์มากถึง 38% ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลยหากจะเทียบระหว่างแอปเปิลกับเทสลาแบบตัวต่อตัว
Jim Siva นักวิเคราะห์จาก Citi กล่าวว่า
“จริงอยู่ว่าแอปเปิลได้ทำการลงทุนเป็นอย่างมากกับการแผนกการศึกษาวิจัยและพัฒนา (R&D) จึงไม่แปลกใจเลยที่เราจะได้ยินข่าวการผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าออกมาเพราะมันคือเทรนด์ของปี 2020 แต่หากลองคิดดูอีกด้าน แอปเปิลจะลงทุนสร้างรถยนต์ทำไมในเมื่อตัวเลขก็บอกอยู่แล้วว่าโลกในอนาคตผู้คนมีแนวโน้มจะใช้รถยนต์ส่วนตัวน้อยลง”
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บางคนก็มีเหตุผลที่ทำให้เชื่อว่าแอปเปิลกำลังซ่อนไพ่เตรียมแผนที่จะพัฒนาบางอย่างเกี่ยวกับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่ามีข้อมูลมาจากหัวหน้าทีมพัฒนา AI ของแอปเปิลว่าบริษัทกำลังพัฒนารถยนต์ไร้คนขับโดยที่ซอฟต์แวร์และฮาร์ตแวร์สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างลื่นไหลในสไตล์ของแอปเปิล
จิ๊กซอว์อีกหนึ่งตัวที่คาดว่าอาจมาเป็นกุญแจเชื่อมโยงข่าวนี้ของแอปเปิลให้กลายเป็นจริงมากขึ้นคือบริษัท Foxconn Technology Group บริษัทสัญชาติไต้หวันที่รับผลิตสินค้าให้กับแอปเปิลได้ประกาศเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมาถึงแผนการที่จะเปิดแพลตฟอร์มสำหรับพัฒนาซอฟต์แวร์ให้กับรถยนต์และจะเริ่มแจกจ่ายคู่มือการพัฒนารถยนต์แห่งอนาคตไปยังบริษัทที่เป็นพาร์ทเนอร์ด้วยในเดือนเมษายนปี 2021 นักพัฒนาสามารถสร้างซอฟต์แวร์บนแพลตฟอร์มของ Foxconn ได้เลย
สำนักข่าว CNBC รายงานข่าวที่มาจากมอร์แกน สแตนลีย์ว่า
“เป็นไปได้ที่แอปเปิลอาจใช้รูปแบบเก็บเงินค่าบริการแบบรายเดือนจากลูกค้าที่ใช้รถซึ่งมีซอฟต์แวร์ของแอปเปิลอยู่ เรายังไม่เชื่ออย่างสนิทใจว่าแอปเปิลจะเสี่ยงกระโดดลงมาในตลาดที่มียักษ์ใหญ่ครองตลาดอยู่ก่อนแล้ว”
โดยสรุปแล้ว
ข่าวลือเกี่ยวกับรถยนต์พลังงานไฟฟ้าจากบริษัทแอปเปิลอาจสร้างความตื่นเต้นให้กับเหล่าสาวกไอโฟน แต่ส่วนตัวแล้วข่าวลือนี้ยังมีมูลไม่มากพอที่จะข่มขวัญบริษัทและหุ้นที่มาแรงที่สุดแห่งหนึ่งในปีนี้อย่างเทสลาได้
สิ่งที่จะทำให้ขาขึ้นของเทสลาอ่อนกำลังลงควรจะเป็นความเสี่ยงที่จะมากระทบการผลิตรถยนต์ไฟฟ้ามากกว่ายกตัวอย่างเช่นหากโควิดสายพันธุ์ใหม่สามารถระบาดเข้าไปในประเทศจีนซึ่งเป็นฐานการผลิตหลักของเทสลาเป็นต้น