จะว่าเป็นเรื่องดีสำหรับตลาดลงทุนได้หรือไม่ที่ได้เห็นดัชนีหลักๆ ของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังสามารถทรงตัวอยู่ใกล้กับจุดสูงสุดตลอดกาลของตัวเองได้ในช่วงสิ้นปี 2020 แม้จะมีการปรับตัวลดลงมาบ้าง แต่ทุกครั้งที่เกิดเหตุการณ์เช่นนั้นก็จะมีแรงหนุนเข้ามาช่วยตลอด อย่างรอบล่าสุดนี้ก็คือข่าวดีที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจได้รับการอนุมัติจากสภาคองเกรสแล้วแล้วและวัคซีนก็ได้เริ่มถูกแจกจ่ายไปยังพื้นที่ต่างๆ ทั่วโลก
ในปี 2020 นี้ดัชนีหลักอย่าง S&P 500 สามารถปรับตัวขึ้นได้ 14% ตลอดทั้งปีในขณะที่ดัชนีที่ใช้วัดมูลค่าของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีอย่าง NASDAQ สามารถทะยานขึ้นมามากถึง 49% จากการปรับตัวของผู้บริโภคในปีนี้ที่หันไปพึ่งพาเทคโนโลยีมากยิ่งขึ้น
ในบทความนี้เราคงจะไม่พูดถึงหุ้นของบริษัทเทคโนโลยีใหญ่ๆ เพราะเชื่อว่าผู้อ่านก็คงทราบและรู้จักเป็นอย่างดี แต่ในบทความนี้เราจะพามาดูหุ้นของบริษัทที่มีอัตราการเติบโตดีไม่แพ้บริษัทใหญ่ๆ เหล่านั้นเลย เพียงแต่ไม่มีใครรู้จักเท่านั้นเอง เราเชื่อว่าในปี 2021 ที่กำลังจะมาถึงนี้ นักลงทุนบางส่วนจะยังใช้หุ้นเทคโนโลยีเหล่านี้เป็นตัวคานความเสี่ยงอยู่ แต่จะดีกว่าไหมหากเราได้รู้จักหุ้นเทคโนโลยีตัวเล็กๆ ที่มีราคายังไม่แพงมากเอาไว้พิจารณาด้วย
1. CrowdStrike
- ราคาเปิดเมื่อวันที่ 2 มกราคม 2020: $49.87
- ราคาปิดเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2020: $224.90
- กำไรที่ทำได้ตั้งแต่ต้นปี 2020 จนถึงปัจจุบัน: +350.9%
บริษัทผู้ให้บริการโซลูชันด้านความมั่นคงปลอดภัย Crowdstrike (NASDAQ:CRWD) คือตัวเลือกแรกของเราด้วยผลงานขาขึ้นตลอดทั้งปี 2020 มากถึง 351% จากวิกฤตโควิด-19 ส่งผลให้ผู้คนต้องเปลี่ยนรูปแบบการทำงานมาทำงานอยู่บ้านมากยิ่งขึ้น ทำให้ความต้องการคอมพิวเตอร์มีมากยิ่งขึ้น เมื่อเป็นเช่นนั้นความปลอดภัยของข้อมูลจึงเป็นสิ่งสำคัญและทำให้บริการของ Crowdstrike กลายเป็นที่ต้องการในที่สุด
ข้อมูลที่ได้มาล่าสุดตอนนี้ Crowdstrike ได้เป็นพาร์ทเนอร์ร่วมกับองค์กรและบริษัทมากกว่า 100 บริษัทแล้ว หุ้นของ Crowstrike เริ่มต้นปี 2020 มีราคาซื้อขายอยู่ที่ $49.87 ในช่วงต้นปีแต่ก็สามารถขึ้นไปสร้างจุดสูงสุดใหม่ตลอดกาลเอาไว้ได้ที่ $224.90 เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมานี้เอง นั่นทำให้บริษัทมีมูลค่าตลาดล่าสุดอยู่ที่ $45,200 ล้านเหรียญสหรัฐ ในการรายงานผลประกอบการไตรมาสล่าสุด Crowdstrike ก็สามารถรายงานกำไรแบบปีต่อปีที่เติบโตขึ้นถึง 85.8%
Crowdstrike เปิดเผยในการรายงานผลประกอบการครั้งล่าสุดว่าบริษัทได้ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการแพลตฟอร์มเพิ่มขึ้นรวมแล้วทั้งสิ้น 1,186 คนและทำให้ตอนนี้มีลูกค้าที่สมัครสมาชิกรวมแล้วทั้งสิ้น 8,416 คน ถือเป็นการเพิ่มขึ้น 85% เมื่อเทียบในช่วงเวลาเดียวกัน
Crowdstrike กำลังเดินอยู่บนเส้นทางของการเป็นผู้นำในเรื่องของการทำระบบรักษาความปลอดภัยบนอินเตอร์เน็ตหลังจากที่ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าบริษัทคู่แข่งอย่าง SolarWinds (NYSE:SWI) ถูกแฮกจนทำให้ความเชื่อมั่นของลูกค้าลดลง
2. Chewy
- ราคาเปิดเมื่อวันที่ 2 มกราคม 2020: $29.00
- ราคาปิดเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2020: $106.69
- กำไรที่ทำได้ตั้งแต่ต้นปี 2020 จนถึงปัจจุบัน: +267.9%
บริษัทผู้ประกอบธุรกิจขายอาหารสำหรับสัตว์เลี้ยงออนไลน์ Chewy (NYSE:CHWY) ที่เชื่อว่าจะกลายมาเป็นผู้นำตลาดในไม่นานนี้ Chewy คือหนึ่งในผู้ที่สามารถก้าวผ่านวิกฤตโควิด-19 ไปได้อย่างสบายๆ ดูได้จากกราฟหุ้นของบริษัทที่ปรับตัวขึ้นตลอดทั้งปี 267.9%
การเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้บริโภคมาอยู่บ้านมากยิ่งขึ้นไม่ใช่ปัญหาสำหรับ Chewy เลยแม้แต่น้อย เพราะไม่ว่าอย่างไรสัตว์เลี้ยงที่เป็นเหมือนคู่ชีวิตของชาวอเมริกันแทบจะทุกหลังคาเรือนก็ยังต้องบริโภคอยู่ดี เพียงแค่ Chewy แก้ปัญหาได้ตรงจุด เปลี่ยนรูปแบบการขายขึ้นมาอยู่บนออนไลน์มากยิ่งขึ้นก็ทำให้บริษัทสามารถเข้าถึงลูกค้ารายย่อยได้มากขึ้นแล้ว
ในปี 2020 หุ้นของ Chewy มีราคาซื้อขายช่วงต้นปีอยู่ที่ $29.00 สามารถขึ้นมาสร้างจุดสูงสุดตลอดกาลที่ $109.52 ได้เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ปัจจุบันรายได้จาก E-commerce ทำให้บริษัทมีมูลค่าตลาดรวมแล้วทั้งสิ้น $44,400 ล้านเหรียญสหรัฐ
การที่ Chewy สามารถรายงานผลประกอบการที่สามารถเอาชนะตัวเลขคาดการณ์ได้ตลอดทั้งปีนี้คือสัญญาณบ่งบอกถึงความแข็งแกร่งของบริษัท Chewy รายงานว่ากำไรที่ได้จากการขายสินค้าออนไลน์ในไตรมาสที่ 3 เพิ่มขึ้น 45% มีลูกค้าใหม่เข้ามาเฉพาะในไตรมาสที่ 3 เพิ่มขึ้น 1.2 ล้านคน รวมแล้วมีลูกค้าทั้งสิ้น 17.8 ล้านคน คิดเป็นการเติบโต 40% เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันในปี 2019
การเติบโตของ Chewy ในปี 2020 นี้นับว่ามีความโดดเด่นเป็นอย่างมากทั้งในแง่ของโครงสร้างทางธุรกิจและการเงิน หากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป นักวิเคราะห์บางคนถึงกับคาดการณ์ว่า Chewy อาจกลายเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวสำหรับยักษ์ใหญ่เจ้าของตลาดค้าปลีกอย่างอะเมซอน (NASDAQ:AMZN)
3. Roku
- ราคาเปิดเมื่อวันที่ 2 มกราคม 2020: $133.90
- ราคาปิดเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2020: $354.71
- กำไรที่ทำได้ตั้งแต่ต้นปี 2020 จนถึงปัจจุบัน: +164.9%
หุ้นตัวสุดท้ายที่เราอยากจะนำเสนอในบทความนี้คือหุ้นของบริษัทผู้ผลิตโปรแกรมเล่นสื่อดิจิทัลที่ให้คุณสตรีมเนื้อหาจากหลากหลายแหล่ง (NASDAQ:ROKU) ในปีนี้ Roku สามารถทำกำไรได้จากการฝากโฆษณาบนแพลตฟอร์มเป็นอย่างมาก ส่งผลให้ตลอดทั้งปี 2020 หุ้นของ Roku เติบโตขึ้น 165% จากราคาเมื่อช่วงต้นปีที่ $133.90 จนสามารถขึ้นมาสร้างจุดสูงสุดตลอดกาลที่ $361.50 ได้ในวันอังคาร มีมูลค่าตลาดล่าสุดอยู่ที่ $43,500 ล้านเหรียญสหรัฐ
Roku สร้างความประหลาดใจให้กับนักลงทุนเป็นอย่างมากเมื่อสามารถรายงานผลประกอบการเป็นบวกได้สี่ไตรมาสที่ติดกัน เอาชนะตัวเลขคาดการณ์ไปได้อย่างสบายๆ จากกำไรที่ได้มาจากการฝากโฆษณาและความต้องการสื่อสำหรับวิดีโอมากขึ้น การรายงานตัวเลขที่โดดเด่นที่สุดเกิดขึ้นในไตรมาสที่ 3 เมื่อ Roku สามารถรายงานการเติบโตทางผลกำไรที่เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีที่แล้วได้มากถึง 73%
นอกจากนี้ยอดผู้ใช้บริการของ Roku ในไตรมาสที่สามก็เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญด้วยเช่นกัน จากรายงานระบุว่ายอดผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้น 43% แบบปีต่อปี รวมแล้วทั้งสิ้นคิดเป็น 46 ล้านคน ผู้ใช้บริการเหล่านั้นใช้เวลาอยู่กับ Roku นานถึง 14,800 ล้านชั่วโมง คิดเป็นการใช้งานวันละ 3.5 ชั่วโมงต่อวัน ในโลกปัจจุบันที่การรับชมภาพยนตร์สตรีมมิ่งยิ่งได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เราจึงเชื่อว่า Roku จะได้รับอานิสงส์นั้นในปีหน้าและสามารถคงอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นต่อไปได้