กราฟ USD/CAD จะลงไปหาจุดต่ำใหม่ในรอบสองปีครึ่งจากผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางแคนาดา (BoC) ในวันนี้ได้หรือไม่? คำตอบอาจจะเป็น...ไม่
แม้จะเผชิญปัญหาโควิดเหมือนกันกับยุโรป แต่ด้วยการแก้ปัญหาที่ต่างกันออกไปจึงทำให้นักวิเคราะห์ประเมินว่าธนาคารกลางแคนาดาจะไม่เปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินใดๆ ในวันนี้ ในขณะที่ทางธนาคารกลางแห่งสหภาพยุโรปนั้นถูกประเมินเอาไว้ว่าจะต้องมีการผ่อนคลายนโยบายทางการเงินเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ในการประชุมเมื่อเดือนตุลาคมของ BoC พวกเขาประเมินแล้วว่าการหดตัวทางเศรษฐกิจในปีนี้ไม่ได้หดตัวรุนแรงอย่างที่ประเมินเอาไว้ก่อนหน้านั้น แต่การเติบโตทางเศรษฐกิจในปี 2021 จะชะลอตัว
แต่เมื่อสถานการณ์ได้เปลี่ยนไป ยอดผู้ติดเชื้อรายวันในแคนาดาล่าสุดเมื่อวันจันทร์มีตัวเลขมากกว่า 7,800 คนซึ่งสูงกว่ายอดผู้ติดเชื้อสูงสุดในเดือนพฤษภาคมที่มีตัวเลขอยู่ที่ 2,760 คน ด้วยเหตุนี้เดือนธันวาคมจึงน่าจับตามองเป็นอย่างมากว่าการชะลอการเติบโตของเศรษฐกิจแคนาดาจะเป็นไปตามที่ BoC พูดจริงหรือไม่ มาตรการล็อกดาวน์ได้มีผลบังคับใช้ไปทั่วประเทศแล้วหลังจากได้เห็นตัวเลขยอดผู้ติดเชื้อสูงสุดทำลายสถิติเดิม เมืองโตรอนโตซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของแคนาดาต้องอยู่ในการล็อกดาวน์ไปจนถึงวันที่ 21 ธันวาคม
อย่างไรก็ตาม เมื่อมาดูที่ข้อมูลตัวเลขทางเศรษฐกิจพบว่ารายงานที่ผ่านมาเป็นตัวเลขที่ดี บริษัทเอกชนยังมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตัวเลขขายปลีกและอัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นซึ่งก่อนหน้านี้ตัวเลขดังกล่าวเคยอยู่ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์จากนักวิเคราะห์มาก่อน เราอยากให้นักลงทุนจับตาดูตัวเลขดัชนี PMI ภาคการผลิตในวันจันทร์หน้าเอาไว้ให้ดีเพราะตัวเลขนี้จะสะท้อนให้เห็นถึงผลกระทบจากการล็อกดาวน์ได้ใกล้เคียงปัจจุบันที่สุด นอกจากนี้การนำเข้าวัคซีนต้านโควิดลอตแรกจะเกิดขึ้นในสัปดาห์หน้าด้วย นี่คือสาเหตุที่ทำให้เราประเมินว่า BoC จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายทางการเงินใดๆ เพราะความเบาใจที่ประเทศจะได้มีวัคซีนต้านโควิดแล้ว
สถานการณ์ในสหราชอาณาจักรตอนนี้ดูเหมือนว่าลำพังความหวังที่มีต่อ Brexit และข่าวดีเรื่องวัคซีนจะไม่ช่วยหนุนกราฟ GBP/USD อีกต่อไปหลังจากที่ได้เห็นขาขึ้นชะลอตัวเป็นวันที่สามติดต่อกัน นายมารอส เซฟโควิค รองประธานกรรมธิการแห่งสหภาพยุโรปได้เปิดเผยข้อมูลที่น่าจับตามองเป็นอย่างมากว่าเขาและนายไมเคิล โกฟ รัฐมนตรีอาวุโสของสหราชอาณาจักรได้ร่างสัญญาในกรณีที่สหราชอาณาจักรต้องออกจากสหภาพยุโรปโดยไม่ทำสนธิสัญญาใดๆ เอาไว้เสร็จเรียบร้อยตั้งแต่ก่อนการนัดรับประทานอาหารมื้อค่ำแบบส่วนตัวระหว่างนายกรัฐมนตรีอังกฤษบอริส จอห์นสันและนางอัวร์ซูลา แกร์ทรูท ฟ็อน แดร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมธิการยุโรปในเย็นวันนี้ สหราชอาณาจักรยังหวังว่าจะสามารถตกลงกับสหภาพยุโรปได้และหวังว่าจะไม่ต้องไปถึงขั้นที่ต้องใช้ร่างสัญญาดังกล่าว และก็หวังว่าสหภาพยุโรปจะเข้าใจเงื่อนไขในกฎหมายการค้าภายในของฝั่งตน ทั้งๆ ที่มีร่างสัญญาที่พร้อมจะยกเลิกทุกอย่างอยู่มือแล้วแต่กราฟ GBP/USD กลับไม่ได้ปรับตัวร่วงลงไป หมายความว่านักลงทุนยังมีความหวังที่จะได้เห็นทั้งสองฝ่ายตกลงกันได้ก่อนสิ้นปี 2020
ขาขึ้นของกราฟยูโรเทียบดอลลาร์ก็ชะลอตัวลงก่อนที่การประชุมนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางแห่งสหภาพยุโรปจะมาถึง การย่อตัวลงมาครั้งนี้ยังไม่ได้ต่ำกว่าระดับราคา 1.21 แต่ก็ถือว่าหนีลงมาจากจุดสูงสุดในรอบสองปีครึ่ง ส่วนหนึ่งที่กราฟยังยืนอยู่ได้ต้องขอบคุณข้อมูลตัวเลขจากศูนย์วิจัยแห่งเศรษฐกิจยุโรป (ZEW) เมื่อวานนี้ การที่ตัวเลขจาก ZEW กระโดดขึ้นมาจากตัวเลขคาดการณ์อย่างมีนัยสำคัญขนาดนี้ (ตัวเลขจริง 54.4 เทียบคาดการณ์ 37.5) หมายความว่านักลงทุนเยอรมันยังมั่นใจกับสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันและประเมินเศรษฐกิจในช่วงหกเดือนต่อจากนี้เอาไว้ดีมาก น่าสนใจมากว่าสุดท้ายแล้วพรุ่งนี้ ECB จะตัดสินใจอย่างไร หาก ECB ปรับตัวเลขคาดการณ์การฟื้นตัวสูงขึ้น นักลงทุนอาจได้เห็นสกุลเงินยูโรแข็งค่าต่อเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ
สุดท้าย กราฟดัชนีดอลลาร์สหรัฐเมื่อวานนี้ในที่สุดก็หยุดปรับตัวลดลงได้บ้างแล้วและเราเริ่มได้เห็นดอลลาร์พยายามงัดข้อกับสกุลเงินหลักแทบทุกตัว นั่นเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ปอนด์และดอลลาร์แคนาดาชะลอตัว ถึงแม้จะไม่มีข่าวทางเศรษฐกิจสำคัญประกาศในสัปดาห์นี้แต่ทุกๆ นาทีที่ผ่านไปคือความหวังของประชาชนชาวอเมริกัน 12 ล้านคนที่ค่อยๆ หมดลงและความเสี่ยงในชีวิตที่เพิ่มขึ้นจากการหมดอายุของสิทธิประโยชน์ช่วยเหลือผู้ที่ตกงาน พวกเขาหวังว่าจะได้เห็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากรัฐบาลสหรัฐฯ ก่อนวันคริสต์มาสจะมาถึง