สำหรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบที่สอง? เลิกฝันได้เลยว่าจะได้เห็นก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ วุฒิสภาสภาได้มีการยื่นเรื่องผ่านนางเอมี่ คอร์นีย์ บาเรตต์ ผู้พิพากษาสูงสุดคนใหม่แห่งศาลสูงสุดสหรัฐฯ แต่ก็ถูกเลื่อนไปจนถึงวันที่ 9 พฤศจิกายนหรือประมาณเกือบหนึ่งสัปดาห์หลังการเลือกตั้ง อันที่จริงแล้วความหวังที่จะได้เห็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบสองเหลือน้อยมาตั้งแต่กลางสัปดาห์แล้วเพียงแต่ในยามวิกฤตที่ไม่สามารถพึ่งพาอะไรได้ ความหวังเพียงเล็กน้อยก็คือความหวังและนั่นคือสิ่งเดียวที่ล่อเลี้ยงตลาดหุ้นสหรัฐฯ มาได้จนก่อนถึงการเลือกตั้ง เมื่อความจริงมายืนอยู่ตรงหน้า สิ่งที่นักลงทุนควรทำก็คือยอมรับและทำทุกอย่างเพื่อลดความเสี่ยงก่อนการเลือกตั้งลงให้ได้มากที่สุด ตอนนี้สิ่งที่ควรให้ความสนใจมากกว่าเงินเยียวยาคือข่าวการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในสัปดาห์หน้าและการแพร่ระบาดของเชื้อโควิดในยุโรป แม้การหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจะทำให้กราฟ USD/JPY ลงไปสู่จุดต่ำสุดในรอบหนึ่งเดือน แต่เมื่อตลาดหุ้นถูกเทขาย นักลงทุนไม่มีที่ไป ตัวเลือกจึงกลับมาอยู่ที่สกุลเงินสำรองอันดับหนึ่งของโลกอย่างดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นในขณะที่กระดานลงทุนอื่นเปลี่ยนเป็นสีแดงทั้งหมด
อย่างไรก็ตามวันนี้ดอลลาร์ก็ต้องมารอรับความเสี่ยงอีกจากการรายงานตัวเลข GDP ในไตรมาสที่สามของสหรัฐฯ ข่าวดีก็คือนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองว่าตัวเลขในไตรมาสนี้ยังไงก็ดีกว่าตัวเลขในไตรมาสที่สองแน่นอนเพราะนี่เป็นตัวเลขของช่วงที่ผ่านจุดเลวร้ายที่สุดมาแล้ว คำถามสำคัญก็คือว่าหากดีขึ้นแล้วดีขึ้นมากกว่าไตรมาสที่สองมากน้อยแค่ไหน? เพราะในขณะที่ประเทศอื่นๆ กำลังเครียดกับการแพร่ระบาดโควิดรอบที่สองมีเพียงสหรัฐฯ ที่ยังไม่ผ่านการแพร่ระบาดรอบแรกแต่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่ทำอะไรกับเรื่องนี้จริงจังอีกเช่นเคย มีเพียงไม่กี่รัฐเท่านั้นที่จริงจังกับการควบคุมโรค ดังนั้นหากตัวเลข GDP ของไตรมาสที่สามออกมาดีกว่าที่คาดการณ์ ดอลลาร์จะแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับยูโร ดอลลาร์ออสเตรเลียและสกุลเงินหลักอื่นๆ
ความกดดันในตอนนี้ตกไปอยู่ในมือของธนาคารกลางแห่งสหภาพยุโรป (ECB) ว่าจะตัดสินใจอย่างไร ในการประชุมวันนี้ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่เชื่อว่านโยบายการเงินจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงหรือถ้ามีก็มีโอกาสน้อยที่จะสร้างความประหลาดใจให้กับนักลงทุนได้ ตอนนี้เราสามารถพูดได้เต็มปากแล้วว่าการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในยุโรปอยู่เหนือการควบคุมแล้ว การลังเลของรัฐบาลประเทศต่างๆ เพื่อไม่อยากกลับไปล็อกดาวน์อย่างเต็มรูปแบบในวันนั้นส่งผลให้พวกเขาต้องดำเนินการอย่างเต็มรูปแบบในวันนี้ เยอรมันประกาศล็อกดาวน์บางพื้นที่อย่างเต็มรูปแบบเป็นเวลาหนึ่งเดือน ร้านอาหาร ผับ บาร์ที่อยู่ในพื้นที่ดังกล่าวถูกปิด ฝรั่งเศสประกาศล็อกดาวน์ทั่วประเทศไปจนถึงวันที่ 1 ธันวาคม ถึงกระนั้นโรงเรียนของทั้งสองประเทศยังคงเปิดให้มีการเรียนการสอนอยู่
เมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนี้ นักเศรษฐศาสตร์จึงคาดว่า ECB จะลดตัวเลขคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจลงและนางคริสตีน ลาการ์ด ประธาน ECB จะเริ่มวางแผนเตรียมผ่อนคลายนโยบายการเงินในเดือนธันวาคม ที่น่าสนใจก็คือว่าสิ่้งที่นักเศรษฐศาสตร์ประเมินอาจจะช้าเกินไปสำหรับความเสี่ยงที่กำลังเกิดขึ้นและความจริงก็คือ ECB อาจตัดสินใจดำเนินการบางอย่างที่เร็วกว่านั้นในการประชุมวันนี้ เราจะได้เห็นการเทขายสกุลเงินยูโรจากกราฟ EUR/USD แน่นอนเพราะ ECB ไม่มีข่าวดีไหนให้พูดถึงเพื่อหนุนยูโรได้เลยและเมื่อ ECB ตัดสินใจผ่อนคลายการเงินนโยบายในขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ยังเงียบไม่มีข่าว ก็ไม่มีเหตุผลให้กราฟ EUR/USD ต้องขึ้นไปหา 1.18 อีกครั้งมากกว่าวิ่งลงไปยัง 1.16