เมื่อวานนี้อ่อนมูลค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ เพราะเดตไลน์ของการเจรจาเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใกล้มาถึงแล้ว นางแนนซี่ เปโลซี่ ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ให้เวลาทำเนียบขาว 48 ชั่วโมง (นับตั้งแต่เมื่อวาน) โดยเธอกล่าวว่าวันสุดท้ายที่จะมีโอกาสได้เห็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจก่อนการเลือกตั้งคือวันนี้ แม้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะพยายามเป็นอย่างมากที่จะให้ดีลนี้สำเร็จแต่การเทขายในตลาดหุ้นสหรัฐฯ เมื่อคืนนี้ก็แสดงให้เห็นแล้วว่านักลงทุนไม่เชื่อว่าจะได้เห็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจก่อนการเลือกตั้ง
นักวิเคราะห์บางคนตั้งสมมุติฐานว่ามีความเป็นไปได้ไหมที่จะได้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมาอย่างเร็วที่สุดคือหลังจากทรัมป์ชนะการเลือกตั้งก็รีบฉีดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจก้อนเล็กก่อน? แต่ก็มีความเป็นไปได้สูงที่จะถูกค้านจากฝั่งเดโมแครต ในวันนี้จะมีการโหวตเฉพาะโปรแกรมให้สินเชื่อเพื่อคุ้มครองธุรกิจ (PPP) และในวันพุธจะมีโหวตสำหรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า $500,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หากวันนี้ไม่มีข่าวดีเกี่ยวกับเงินเยียวยา จะร่วงลงทันทีซึ่งจะส่งผลต่อตลาดฟอเร็กซ์ด้วย ข่าวทางเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้จะมีแถลงการณ์จากตัวแทนธนาคารกลางสหรัฐฯ หลายคนแต่ก็ไม่ได้น่าสนใจมากเมื่อเทียบกับตัวเลขดัชนี PMI จาก Markit ที่จะแสดงให้เห็นว่าผลกระทบจากโควิด-19 ในสิบรัฐล่าสุดส่งผลกระทบต่อการเติบโตในเดือนตุลาคมอย่างไร จนถึงตอนนี้มีเพียงสองรัฐเท่านั้นที่ไม่มียอดผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้น
ไม่ใช่เฉพาะสหรัฐฯ เท่านั้น แต่ในสัปดาห์นี้นักลงทุนจะได้ทราบผลกระทบที่เกิดขึ้นจากโควิด-19 ในเดือนตุลาคมจากดัชนี PMI ที่ออกมาในหลายๆ ประเทศได้แก่ ญี่ปุ่น สหราชอาณาจักรและยูโรโซน แม้ยูโรจะเป็นสกุลเงินที่ทำผลงานขาขึ้นได้ดีที่สุดเมื่อวานนี้แต่ก็เป็นเพียงขาขึ้นระยะสั้นๆ เท่านั้น มีข่าวดีเกี่ยวกับความคืบหน้าการแพร่ระบาดโควิด-19 ในยูโรโซน ฝรั่งเศสและอิตาลีน้อยมาก เยอรมันมีผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้น 7,830 รายเมื่อวันอาทิตย์ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดเท่าที่เยอรมันเคยรายงานแต่เมื่อวานนี้ตัวเลขยอดผู้ติดเชื้อกลับเพิ่มขึ้นเพียง 4,325 ราย
นายโรเบิร์ต โฮลส์แมน หนึ่งในสมาชิกของธนาคารกลางแห่งสหภาพยุโรป (ECB) กล่าวว่าสถานการณ์ในปัจจุบันยังไม่มีความจำเป็นให้ ECB ต้องผ่อนคลายทางการเงินเพิ่ม แต่ความเห็นจาก ECB ท่านอื่นๆ กลับไม่เป็นเช่นนั้น นางคริสตีน ลาการ์ด ประธาน ECB กล่าวว่า ECB ยังไม่หมดมุกที่จะใช้ต่อกรกับโควิดในขณะที่รองประธาน ECB ออกมายอมรับว่าข้อมูลตัวเลขทางเศรษฐกิจล่าสุดแสดงให้เห็นแล้วว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจเริ่มสั่นคลอน ดังนั้นการรายงานตัวเลขดัชนี PMI ในวันศุกร์อาจเป็นการเปิดทางให้กราฟ ลงไปยัง 1.15 ได้
สกุลเงินไม่ได้ร่วงลงอย่างเห็นได้ชัดแม้ว่าสหภาพยุโรปจะบอกว่าพร้อมที่จะเจรจากับสหราชอาณาจักรอย่างจริงจังซึ่งในความเห็นของเราดูแล้วยังไม่น่าจะบรรลุข้อตกลงกันได้โดยง่าย สหราชอาณาจักรยังคงยึดมั่นในจุดยืนเดิมซึ่งนายมิชเชล แอนดรูว์ รัฐมนตรีผู้ดูแลเกี่ยวกับ Brexit ก็ได้ออกมาบอกแล้วว่าถ้า EU ไม่ยอมเปลี่ยนเงื่อนไข จะเจรจาอีกกี่ครั้งก็ไม่เป็นผล ดังนั้นสกุลเงินยูโรและปอนด์จึงมีโอกาสค่อนไปทางลงมากกว่าขึ้นเพราะความไม่แน่นอนใน Brexit และยอดผู้ติดเชื้อโควิดที่ยังเพิ่มสูงขึ้นเกิน 16,000 คนต่อวัน
ขาขึ้นในสกุลเงินและได้รับแรงหนุนมาจากยอดผู้ติดเชื้อโควิดในประเทศเป็นศูนย์และตัวเลขกิจกรรมในภาคการผลิตและบริการที่ออกมาดีขึ้น ความสำเร็จในการปราบปรามโควิดส่งผลให้นายกรัฐมนตรีจาซินด้า อาเดิร์นสามารถชนะการเลือกตั้งและเป็นนายกรัฐมนตรีต่ออีกหนึ่งสมัย แม้จะมีความเป็นไปได้ว่าธนาคารกลางของนิวซีแลนด์ (RBNZ) จะยกเรื่องการปรับอัตราดอกเบี้ยลงไปจนติดลบมาพูดมากขึ้นแต่โดยภาพรวมทางเศรษฐกิจแล้วถือว่าสดใสประเทศอื่นๆ มาก ส่วนแคนดา นักวิเคราะห์คาดว่าการรายงานตัวเลขยอดขายปลีกของแคนาดาในสัปดาห์นี้จะดีขึ้นตามตัวเลขในภาคแรงงานแม้ว่าแคนาดาจะยังแก้ปัญหายอดผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่มขึ้นไม่ได้ ส่วนคือผู้ที่ตามหลังอีกสองสกุลเงินเนื่องจากข้อมูลตัวเลขในรายงานการประชุมของธนาคารกลางทำให้ความเป็นไปได้ที่อัตราดอกเบี้ยจะถูกลดอีกมีมากขึ้น นอกจากนี้การเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนดูเหมือนว่าจะชะลอตัวจากข้อมูลที่รายงานล่าสุด
