กราฟเด่นประจำวัน: ทำไมราคาน้ำมันดิบยังไม่ขึ้นแม้ข้อมูลตัวเลขจะออกมาดี?

รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังจาก API เมื่อวันพุธมีการปรับลดมากถึง 5.42 ล้านบาร์เรลซึ่งถือเป็นการลดลงอย่างมีนัยสำคัญมากเพราะเป็นตัวเลขที่ลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม ยิ่งไปกว่านั้นรายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังที่มาจาก EIA เมื่อคืนนี้ก็ลงต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์มากถึง -3.8 ล้านบาร์เรล แต่แม้ตัวเลขจะออกมาดีขนาดนี้คำถามคือทำไมราคาน้ำมันดิบ WTI กลับยังไม่วิ่งขึ้น?

จากการวิเคราะห์และติดตามข่าวเราเชื่อว่าราคาน้ำมันดิบ WTI ได้รับแรงกดดันมาจากปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในทวีปยุโรป การแพร่ระบาดทางฝั่งยุโรปตอนนี้รุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ จนรัฐบาลต้องสั่งให้มีมาตรการทางสังคมใหม่และการล็อคดาวน์ในบางพื้นที่ เมื่อวานนี้เยอรมันพึ่งรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อสูงสุดเป็นประวัติกาลไปและยังมีโอกาสที่จะเพิ่มสูงขึ้นกว่านี้อีกในช่วงสุดสัปดาห์นี้

เมื่อหันมาพิจารณากราฟด้วยการวิเคราะห์ทางเทคนิค เราก็ได้พบสาเหตุบางประการที่ทำให้ราคาน้ำมันดิบยังไม่สามารถปรับตัวขึ้นกลับไปที่บริเวณเดิมได้

จากวิ่งลงของราคาสองครั้งติดภายในเดือนเดียวจึงทำให้สามารถชี้ชัดได้ว่าระดับราคาตั้งแต่ $41 ขึ้นไปถือเป็นแนวต้านทั้งหมด นอกจากนี้ยังมีเส้นค่าเฉลี่ย 50 วันที่ทำหน้าที่เป็นแนวต้านในบริเวณดังกล่าวด้วยเช่นกัน ถึงกระนั้นในฝั่งขาขึ้นก็ยังมีเส้นค่าเฉลี่ย 100 วันหนุนเอาไว้ซึ่งเป็นเส้นค่าเฉลี่ยเพียงเส้นเดียวที่ยังหันหัวขึ้นอยู่ ส่วนเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันนับตั้งแต่ลงมาจากจุดสูงสุด $76 ของเดือนตุลาคมปี 2018 ก็ยังไม่มีโอกาสได้หักหัวขึ้นเลย

ความจริงที่ว่าราคาน้ำมันดิบอยู่ในแนวโน้มขาลงมาตั้งแต่ช่วงก่อนโควิดทำให้นักลงทุนในตลาดส่วนใหญ่ยังมองว่าราคาน้ำมันดิบยังอยู่ในขาลงและทำให้ทุกครั้งที่ราคาพยายามจะวิ่งกลับขึ้นมามักจะจบลงด้วยการถูกกดให้วิ่งกลับลงมาอยู่เสมอ สำหรับตอนนี้หากราคาจะวิ่งลงไป บริเวณแนวรับที่เรามองว่าน่าจะหยุดแนวโน้มขาลงได้จะอยู่บริเวณระหว่างราคา $30 นอกจากนี้ราคาน้ำมันดิบพึ่งจะหลุดออกมาจากกรอบลิ่มลู่ขึ้น (Rising Wedge) จึงมีโอกาสที่ระยะยาวราคาน้ำมันดิบจะปรับตัวลดลงมากกว่าวิ่งขึ้น

กลยุทธ์การเทรด

เทรดเดอร์ที่ไม่ชอบความเสี่ยง จะรอให้กราฟมีราคาปิดที่ต่ำลงกว่าจุดต่ำสุดล่าสุดเพื่อแสดงว่าแรงฝั่งเทขายมีกำลังมากกว่า จากนั้นจะรอให้ราคาวิ่งกลับขึ้นมาทดสอบระดับราคาที่หลุดลงมานั้นก่อนจะตามด้วยการวางคำสั่งขาย

เทรดเดอร์ที่รับความเสี่ยงได้ปานกลาง คิดและปฏิบัติเหมือนกันกับกลุ่มที่ไม่ชอบความเสี่ยงแต่จะไม่รอสัญญาณยืนยันก่อนกลายเป็นขาลง

เทรดเดอร์ที่รับความเสี่ยงได้สูง จะวางคำสั่งขายทันทีที่ต้องการเนื่องจากนักลงทุนกลุ่มนี้สามารถยอมรับและเข้าใจในความเสี่ยงได้

ตัวอย่างการเทรด

- จุดเข้า: $41

- Stop-Loss: $42 (ตัวเลขเหนือกรอบราคาด้านบน)

- ความเสี่ยง: $1

- เป้าหมายในการทำกำไร:$38 (ตัวเลขเหนือกรอบราคาด้านล่าง)

- ผลตอบแทน: $3

- อัตราความเสี่ยงต่อผลตอบแทน: 1:3