Elon Musk แซงหน้า Mark Zuckerberg ขึ้นเป็นคนที่รวยที่สุดอันดับ 3 ของโลกอย่างรวดเร็ว หลังราคาหุ้น #Tesla ยังคงทะยานขึ้นอย่างต่อเนื่อง !
จากการจัดอันดับล่าสุดของ Bloomberg Billionaires Index ทาง Elon Musk ผู้มีมูลค่าทรัพย์สินรวมสูงถึง 1.154 แสนล้านเหรียญสหรัฐ (3.7 ล้านล้านบาท) ได้กลายเป็นมหาเศรษฐีอันดับ 3 ของโลกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แซงหน้า Mark Zuckerberg ผู้ที่มีมูลค่าทรัพย์สินรวม 1.11 แสนล้านเหรียญสหรัฐ (3.5 ล้านล้านบาท) หากดูเป็น % อาจจะดู #เฉือนกันแค่เล็กน้อย แต่ Elon นั้นรวยกว่า Mark อยู่กว่า 2 แสนล้านบาทเลยทีเดียว !
แน่นอนว่าเหตุผลที่ Elon ยังคงไต่อันดับตารางมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในโลกได้อย่างรวดเร็วนั้นก็เป็นเพราะราคาหุ้นของ Tesla Inc (NASDAQ:TSLA) ที่พุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ มาถึงวันนี้ได้ขึ้นแตะระดับ 500 เหรียญต่อหุ้นหรือ 2,500 เหรียญต่อหุ้นในราคาเก่าก่อนการแตกพาร์หุ้น (อัตราส่วน 5-1) และราคาหุ้นได้ขึ้นมาเกือบ 500% แล้วนับตั้งแต่ต้นปีนี้
#อย่างไรก็ตาม การที่ Elon จะก้าวขึ้นเป็นมหาเศรษฐีอันดับที่ 1 ของโลกนั้นอาจจะยังต้องใช้เวลา เพราะตำแหน่งนั้นในตอนนี้ยังเป็นของ Jeff Bezos เจ้าของและผู้ก่อตั้งบริษัท Amazon ซึ่งมีทรัพย์สินรวมมูลค่ามากกว่า 2 แสนล้านเหรียญสหรัฐหรือรวยกว่า Elon อยู่กว่า 2 เท่า !
แต่... ใครจะกล้าพนันไหมว่าซักวันหนึ่ง Elon จะไม่ก้าวขึ้นไปอยุ่บนตำแหน่งนั้นแน่ๆ ? ทางแอดเชื่อว่าจะใช้เวลาไม่นานเท่าที่หลายคนอาจคิดแน่ๆ เพราะเราเตือนคุณแล้วว่า #DontBetAgainstElonMusk
#สิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับความรวยของ Elon Musk
หากจะเทียบเส้นทางของ Elon กับมหาเศรษฐีคนอื่นๆของโลกนั้นต้องบอกว่าช่างแตกต่างกันเหลือเกิน เพราะทาง Elon นั้นไม่ได้ทำธุรกิจโดยตั้งเป้าหมายเพื่อให้รวย (หรืออย่างน้อยก็ไม่ใช่สิ่งที่เขาพูดออกมา) โดยทาง Elon พยายามเน้นย้ำตลอดเวลาว่าเขามีเป้าหมายที่ #จะเปลี่ยนโลกนี้ให้กลายเป็นโลกที่ใช้พลังงานสะอาด มันจึงทำให้เขาพยายามสร้างนวัตกรรมใหม่ๆที่บริษัทรถยนต์ต่างๆกลับปฏิเสธที่จะทำมันมาหลายปี เพราะการสร้างรถยนต์ไฟฟ้า EV นั้นไม่ได้มีกำไรมากเท่ากับการทำรถยนต์น้ำมัน
แต่ Elon ก็ยึดเป้าหมายที่เขามีมาตลอด และด้วยการที่ Elon ไม่เคยเลือกที่จะเก็บเงินสดไว้กับตัว ทุกๆครั้งที่เขาลงทุนกับบริษัทอะไรก็ตามเขาจะทุ่มเงินทั้งหมดที่มีลงทุนไปกับบริษัท ทำให้เขามีหุ้นอยู่เยอะและเมื่อแผนการของเขาสามารถสร้างรายได้ได้ มันก็ทำให้เขากลายเป็นบุคคลที่รวยที่สุดไปโดยปริยาย (Elon ไม่เคยขอเงินเดือนกับ Tesla เลยด้วยซ้ำ เขาเพียงแต่ขอแลกเป็นหุ้น) แต่ถ้าหากเมื่อไหร่ที่ Elon เดินผิดทางเขาอาจจะสูญเสียทุกๆอย่างไปกับบริษัท เรียกได้ว่าเป็นคนที่ #เดิมพันทุกสิ่งทุกอย่างกับความคิดของตัวเองจริงๆ
Elon Musk อาจจะรวยกว่าที่เราคิด
จริงๆแล้ว Elon ยังเป็นเจ้าของบริษัทที่กำลังพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆอีกมากมาย อันที่โด่งดังรองลงมาจาก Tesla น่าจะเป็น SpaceX บริษัทธุรกิจด้านการขนส่งทางอวกาศ
เนื่องจาก SpaceX นั้นไม่ได้อยู่ในตลาดทำให้การวัดมูลค่าหุ้นนั้นจะยากกว่า แต่ทุกวันนี้นั้นทาง Elon คาดว่าบริษัท SpaceX น่าจะมีมูลค่าอยู่ที่ 4 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ แต่นักวิเคราะห์หลายๆคนเชื่อว่าด้วยความสำเร็จใหม่ๆในปีนี้ของ SpaceX นั้น อาจทำให้บริษัทอาจมีมูลค่าที่แม้จริงที่สูงกว่าที่เคยคาดไว้ได้ถึง 4 เท่าด้วยซ้ำ !
แต่… วันนี้ Elon เริ่มขายหุ้น Tesla แล้ว ?!?!
ข่าวที่ออกมาในวันนี้คือ ทาง Tesla เตรียมการขายหุ้นเพื่อเพิ่มทุนเป็นมูลค่ากว่า 5 พันล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้หากทางบริษัท Tesla ทำเช่นนั้นจริงๆสัดส่วนหุ้น Tesla ที่ Elon ถืออยู่ก็จะลดน้อยลง (เสมือนกับการยอมขายหุ้นบางส่วน)
โดยปกติแล้วเมื่อบริษัทมีความต้องการเพิ่มทุน นักลงทุนอาจจะมองว่าเป็นได้ทั้งข่าวดีและร้าย ถ้าบริษัทมีแผนการลงทุนเพิ่มเติมและต้องการเงินลงทุนนี่อาจจะเป็นข่าวดี แต่ใน Tesla บริษัทที่เคยขาดสภาพคล่องมาในหลายๆครั้ง ได้เคยทำการเพิ่มทุนมาก่อนแล้ว และทุกๆครั้งนักลงทุนจะชอบมองว่าเป็นข่าวไม่ดี หลายฝ่ายจะตั้งคำถามว่า #บริษัทหมดเงินสดแล้วหรือ
อย่างไรก็ตามการตัดสินในครั้งนี้ของ Tesla ไม่น่าจะมาจากการขาดเงินสด เพราะดูจากงบในไตรมาสสองแล้วนั้นทาง Tesla ยังมีเงินสดเยอะพอสมควร และการผลิตในช่วงนี้ก็ทำรถใหม่ออกมาขายได้อย่างสม่ำเสมอทำให้รายได้ไม่น่าขาดตอน
ทางบริษัทยังไม่ได้ให้รายละเอียดว่าทำไมถึงตัดสินใจเพิ่มทุน หลายๆฝ่ายพยายามสังเกตุว่าหรือจะเป็นการที่บริษัทคิดว่าหุ้นของตัวเอง #ราคาแพงไปแล้ว ? จึงต้องการขายออกมาเพื่อระดมเงินทุน หรือจะเป็นการขายหุ้นเพิ่มเพื่อที่ทางบริษัทจะได้มีสัดส่วนหุ้นในตลาดมากขึ้น เพื่อที่จะได้เพิ่มโอกาสในการเข้าร่วมดัชนี S&P 500 ได้ด้วย
ทางเรายังไม่อยากคิดว่าการรขายหุ้นเพื่อเพิ่มทุนในครั้งนี้จะมีนัยอะไรสำคัญ เพราะหากเป็นช่วงปีที่แล้วนั้นทาง Tesla อาจจะต้องเสียจำนวนหุ้นที่ขายออกไปมากกว่านี้ถึง 10 เท่า แต่ด้วยราคาหุ้นที่สูงขึ้นมาวันนี้การจะขายเพื่อระดมทุน 5 พันล้านเหรียญสหรัฐนั้นจะไม่ได้กระทบถึงสัดส่วนหุ้นของ Tesla มากเท่าไหร่
บทวิเคราะห์นี้เผยแพร่ครั้งแรกที่เพจ Oil Trading - ทันตลาดน้ำมันและเศรษฐกิจโลกกับ KP