กราฟ วิ่งขึ้นด้วยความเชื่อมั่นในช่วงตลาดลงทุนฝั่งนิวยอร์กเปิดจนสามารถมีราคาอยู่เหนือระดับ 1.20 ได้ อย่างไรก็ตามนี่คือระดับราคาจิตวิทยาที่มีความสำคัญ สำคัญมากจนฝั่งตลาดหมีไม่ยอมให้กราฟขึ้นผ่านไปได้ง่ายๆ ประกอบกับข้อมูลตัวเลขเศรษฐกิจของฝั่งยูโรที่ไม่ค่อยดีนักจึงทำให้กราฟ EUR/USD ต้องถอยร่นลงมาจาก 1.20 ในที่สุด รายงานตัวเลขดัชนี PMI ภาคการผลิตของเยอรมันออกมาต่ำกว่าที่คาดการณ์เช่นเดียวกันกับรายงานตัวเลขอัตราเงินเฟ้อของยูโรโซน
ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มสูงขึ้นในสเปนชี้ให้เห็นว่าประเทศได้เข้าสู่การแพร่ระบาดรอบที่ 2 แล้ว ที่น่าเป็นห่วงคือการแพร่ระบาดในครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ใกล้จะเปิดปีการศึกษาใหม่หลายฝ่ายจึงเป็นกังวลว่าการแพร่ระบาดรอบนี้จะยิ่งได้โอกาสในการกระจายตัวมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาสเปนมีรายงานพบผู้ติดเชื้อใหม่มากถึง 9,779 คนแซงหน้ายอดผู้ติดเชื้อมากที่สุดในเดือนมีนาคมไปเรียบร้อย หากสถานการณ์ยังคงเป็นต่อไปเช่นนี้รัฐบาลของสเปนคงไม่มีทางเลือกนอกจากต้องหยุดกิจกรรมทางเศรษฐกิจและกลับมาเพิ่มความเข้มงวดในการควบคุมโรคอีกครั้ง
รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของสเปนนาย Salvador Illa ได้เดินเกมต่อสู้กับการระบาดรอบที่ 2 แล้วด้วยการปิดล็อกพื้นที่ที่มีความเสี่ยงทั้งหมดและเร่งตรวจสอบผู้ที่คาดว่าจะติดเชื้อและกักตัวผู้ที่ติดเชื้ออย่างรวดเร็วเพื่อสกัดการแพร่ระบาดรอบที่ 2 แต่ถึงแม้ว่าตอนนี้สเปนจะมีมาตรการที่คุมเข้มแค่ไหนแต่ประเทศเพื่อนบ้านร่วมกลุ่มสหภาพยุโรปอย่างฝรั่งเศสก็มีรายงานพบผู้ติดเชื้อใหม่เช่นเดียวกันและมีความเป็นไปได้ที่ตัวเลขนี้จะเพิ่มสูงขึ้นแบบก้าวกระโดดภายในสัปดาห์นี้ด้วย แม้ว่าเมื่อวันจันทร์จะมีรายงานว่าตัวเลขยอดผู้ติดเชื้อใหม่ชะลอตัวลงแต่ยุโรปก็ยังถือเป็นพื้นที่ที่ต้องจับตาดูสถานการณ์ในช่วงฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึง ข้อมูลตัวเลขทางเศรษฐกิจในช่วงล่าสุดเริ่มชี้ให้เห็นแล้วว่าการฟื้นตัวเริ่มมีการชะลอตัวและมีโอกาสที่แนวโน้มขาขึ้นอาจเสียการทรงตัว สรุปแล้วกราฟ EUR/USD จึงมีโอกาสปรับตัวลดลงจากปัจจัยที่กล่าวถึงมาทั้งหมดนี้ หากว่ากราฟสามารถลงไปถึง 1.1850 ได้ให้พิจารณาแนวรับถัดไปที่ 1.1800 รอไว้ได้เลย
ในขณะที่ข้อมูลตัวเลขทางฝั่งยุโรปเริ่มระส่ำระสาย ข้อมูลตัวเลขดัชนี PMI ภาคการผลิตจาก ISM ของสหรัฐฯ กลับเติบโตดีขึ้นซึ่งตัวเลขที่ออกมาสามารถทำสถิติเป็นตัวเลขสูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปี 2018 ความดีความชอบครั้งนี้ต้องยกให้กับยอดคำสั่งซื้อสินค้าใหม่ที่เพิ่มมากขึ้น การที่ตัวเลขออกมาดีเช่นนี้ทำให้นักลงทุนในตลาดค่อนข้างรู้สึกประหลาดใจ แข็งค่าขึ้นทันทีเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ อย่างไรก็ตามขาขึ้นของดอลลาร์กลับไม่ได้ทำให้กราฟ ฟื้นตัวขึ้นมาอย่างมีนัยสำคัญมากนักแม้ว่าจะสามารถขึ้นมายืนเหนือ 106 ได้แล้วแต่ก็ยังต้องจับตาดูว่าจะยืนไหวหรือไม่ วันนี้นักลงทุนในตลาดจะให้สนใจกับข่าวฝั่งสหรัฐฯ ซึ่งจะมีการรายงานตัวเลขคาดการณ์การจ้างงานนอกภาคการเกษตรจาก ADP และรายงานสรุปภาวะทางเศรษฐกิจจากธนาคารกลางสหรัฐฯ หากว่าข้อมูลตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นและเฟดแสดงท่าทีที่เป็นบวกต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยิ่งจะทำให้กราฟ EUR/USD มีโอกาสปรับตัวลดลงมากยิ่งกว่าเดิม
สกุลเงินอ่อนมูลค่าลงหลังจากที่ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) ตัดสินใจคงนโยบายทางการเงินเอาไว้ดังเดิม RBA ยังคงยืนยันคำเดิมว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศยังมีอุปสรรคที่ต้องเผชิญมากมาย ดังนั้นการเปิดโอกาสให้ธุรกิจในภาคต่างๆ มีโอกาสได้เติบโตจากอัตราดอกเบี้ยต่ำจึงยังเป็นสิ่งที่จำเป็นเพื่อให้มั่นใจได้ว่าประเทศจะมีสภาพคล่องเพียงพอ แม้ว่าตัวเลขการอนุญาตก่อสร้างของออสเตรเลียจะฟื้นตัวแต่ตัวเลขกิจกรรมในภาคการผลิตกลับหดตัวเพราะดัชนี PMI ยังคงอยู่ต่ำกว่า 50 ทั้งๆ ที่ RBA เปิดโอกาสให้ขยายตัวตั้ง 2 เดือนแล้ว รายงานตัวเลข GDP ที่ออกมาติดลบมากกว่าที่คาดการณ์จาก -6.0% เป็น -7.0% ดังนั้นหากจะเรียกว่าเศรษฐกิจออสเตรเลียเข้าสู่ภาวะถดถอยแล้วก็คงจะไม่ผิดนัก
แคนดาดอลลาร์ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากการฟื้นตัวของดอลลาร์สหรัฐแม้ว่าข้อมูลตัวเลขกิจกรรมในภาคการผลิตของเดือนที่แล้วจาก Markit จะออกมาดี ตอนนี้กราฟ มีแนวรับสำคัญอยู่ที่ 1.30 ยังคงอยู่ในช่วงการพักตัวจากขาขึ้นแม้ว่าดัชนี PMI ภาคการผลิตจะมีตัวเลขที่เติบโตขึ้น สุดท้ายสกุลเงินยังสามารถรักษาขาขึ้นเป็นวันที่ 6 ติดต่อกันได้แม้ว่าตัวเลขการอนุญาตก่อสร้างจะลดลงอย่างมีนัยสำคัญก็ตาม
