ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส (BK:HANA) คาดธุรกิจในช่วง 2H63 ฟื้นตัว
► เริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัว โดยประเทศจีนมีการฟื้นตัวเร็วกว่าประเทศอื่น
► คาดยอดขายเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลกปี 2563 เติบโต 3.3%YoY
► คาดว่าดีมานด์จากผลิตภัณฑ์ Telecom จะกลับมาในช่วง 4Q63 จากการ เลื่อนการเปิดตัวสินค้าใหม่
► ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2563-2564 ขึ้น 30% และ 26%
► แนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” ให้ราคาเป้าหมายใหม่ 42.00 บาท อิง PER 17 เท่า
เริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวในช่วง 2H63 ภาพรวม 2H63 บริษัทเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัว โดยประเทศจีนมีการฟื้นตัวเร็วกว่า ประเทศอื่น เนื่องจากได้รับผลกระทบจาก COVID-19 เป็นประเทศแรก โดยประเทศ จีนเริ่มเห็นดีมานด์ในประเทศมากขึ้น เนื่องจากต้องการซัพพลายเชนในประเทศ เพื่อ หลีกเลี่ยงความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ทั้งนี้บริษัทเน้นเพิ่มสัดส่วน ยอดขายในจีนให้มากขึ้น เพื่อรองรับดีมานด์ในประเทศที่เข้ามา
โดยปัจจุบันบริษัทใน จีนมียอดขายในประเทศคิดเป็น 20-25% และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 50% ขณะที่ช่วง 3Q63 เริ่มมีดีมานด์มากขึ้นในช่วงปลาย 3Q63 จนถึง 4Q63 และคาดว่าดีมานด์จาก ผลิตภัณฑ์ Telecom จะกลับมาในช่วง 4Q63 จากการเลื่อนการเปิดตัวสินค้าใหม่ ขณะที่ข้อมูลจาก World Semiconductor Trade Statistic (WSTS) คาดการณ์ว่า ยอดขายเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลกในปี 2563 จะเติบโต 3.3%YoY ถูกขับเคลื่อนด้วย ผลิตภัณฑ์ Memory จากการ Work from Home และคาดว่ายอดขาย เซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลกปี 2564 จะเติบโต 6.2%YoY
ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2563-2564 ขึ้น 30% และ 26% กำไรสุทธิ 2Q63 ดีกว่าคาด ส่งผลให้กำไรสุทธิ 1H63 คิดเป็น 66% ของประมาณการ กำไรสุทธิปี 2563 ของเรา เราจึงปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2563-2564 ขึ้น 30% และ 26% เป็น 1,748 ล้านบาท และ 1,992 ล้านบาท ตามลำดับ โดยปรับอัตรากำไร ขั้นต้นขึ้นเป็น 14% และ 14.8% (เดิม 11.3% และ 12%) เนื่องจากในช่วง 1H63 บริษัทมีอัตรากำไรที่ดีกว่าคาด จากการลดค่าใช้จ่ายแรงงาน
นอกจากนี้ค่าเงินบาท อ่อนค่ายังเป็นอีกปัจจัยหนุนอัตรากำไรของบริษัท แนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” ให้ราคาเป้าหมายใหม่ 42.00 บาท ในช่วงที่ผ่านมา หลายประเทศมีการล็อกดาวน์ ส่งผลให้บางบริษัทหาซัพพลายใน ประเทศไทยและไต้หวันแทนประเทศเดิม ซึ่งคาดว่าจะส่งผลดีในระยะยาว นอกจากนี้ เราคาดว่าธุรกิจในจีนจะมีดีมานด์ในประเทศเพิ่มขึ้น เราปรับไปใช้ราคาเป้าหมายปี 2564 ได้ราคาเหมาะสมที่ 42.00 บาท อิง PER 17 เท่า อย่างไรก็ตามราคามูลค่า พื้นฐานเหลือ Upside ไม่มาก จึงปรับคำแนะนำเป็น “ซื้อเก็งกำไร” (เดิม ขาย)
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Asia Wealth Securities