Elon Musk กล่าวว่า "หากคุณชื้อรถยนต์อื่นๆที่ไม่ใช่ Tesla (NASDAQ:TSLA)ในอีก 3 ปีข้างหน้า #คุณจะรู้สึกเหมือนกับว่าเพิ่งซื้อม้าไปตัวนึง เพราะรถของคุณนั้นจะกลายเป็นรถที่ล้าสมัยมากๆ"
ภาพที่นำมาให้ดูนั้น เป็นภาพจากถนน 5th Avenue เมือง Newyork เมื่อปี 1900 โดยในปีนั้น บนถนนเพิ่งจะมีรถยนต์น้ำมันคันแรกออกมาวิ่ง (มีใครเห็นหรือป่าวว่าคันไหน ?) แต่ผ่านไปอีกเพียงแค่ไม่กี่ปีถนนสายนี้ก็กลับเป็นเต็มไปด้วยรถยนต์น้ำมัน โดยไม่เหลือร่องรอยของรถม้าให้เห็นอีกต่อไป... เพราะว่ารถยนต์ทันสมัยกว่ารถม้ามากกว่าหลายเท่า
เช่นเดียวกับรถ Tesla ในปัจจุบัน...
Elon Musk กล่าวว่าสิ่งที่คนส่วนใหญ่ยังเข้าใจผิดอยู่ในทุกวันนี้คือ รถของ #Tesla ก็คือรถยนต์ไฟฟ้าดีๆคันนึงนี่เอง ไม่ได้ต่างอะไรกับรถยนต์ไฟฟ้ายี่ห้ออื่นๆ #ซึ่งนี่เป็นความคิดที่ผิดอย่างมหันต์
Elon กล่าวว่านอกจากรถยนต์ไฟฟ้าจะต่างกับรถยนต์ธรรมดาอยู่มากแล้ว รถไฟฟ้าของ Tesla นั้น ยังยิ่งต่างจากรถไฟฟ้ายี่ห้ออื่นๆอย่างสิ้นเชิง
ในขณะที่ทุกวันนี้รถยนต์ไฟฟ้าค่ายอื่นๆนั้นกำลังทุ่มเงินหลายหมื่นล้านไปกับการพัฒนาเครื่องยนต์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ ทาง Tesla นั้นกำลัง #พัฒนาเทคโนโลยีการขับเคลื่อนอัตโนมัติ (Autonomous Driving)
ซึ่งทาง Elon Musk นั้นกล่าวว่าเทคโนโลยีการขับเคลื่อนอัตโนมัติที่ทาง Tesla กำลังใกล้จะทำสำเร็จมากๆแล้ว และจะมาเปลี่ยนโฉมรถไฟฟ้าของ Tesla อย่างสิ้นเชิง จะเป็นเสมือน #GameChanger หรือ #กุญแจที่เปลี่ยนทุกสิ่งทุกอย่างในวงการรถยนต์ ที่จะทำให้คงจะไม่มีใครซื้อรถยนต์คันอื่นๆที่ต้องมานั่งขับเองอีกต่อไป เพราะมันจะกลายมาเป็นเสมือนการซื้อรถม้าในสมัยก่อน
“If you buy a car that does not have the hardware for full self-driving, it is like buying a horse. And the only car that has the hardware for full self-driving is a Tesla.” ทาง Elon ได้กล่าวไว้
ทาง Tesla นั้นใกล้ที่จะบรรลุเทคโนโลยีการขับเคลื่อนอัตโนมัติมากแค่ไหนแล้ว ?
ทาง Elon ได้ออกมาประกาศเมื่อเดือนที่แล้วว่าเขาเชื่อว่าทาง Tesla จะสามารถบรรลุ Autonomous Driving ได้ภายในสิ้นปีนี้ !
ถึงแม้ทาง Elon จะมีความมั่นใจอย่างมาก แต่ทางทีมวิศวะของ Tesla นั้นก็ได้ออกมาอธิบายว่าถึงแม้การพัฒนาระบบนี้นั้นจะดูเหมือนจะสำเร็จไป 99% แล้ว ทางรถของ Tesla สามารถขับเคลื่อนองได้อย่างปลอดภัยเกือบ 100% แล้วในสถานการณ์ปกติ
แต่อีก 1% ที่ยังขาดอยู่คือการรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด เช่นหากเกิดพายุขึ้นบนถนนจนจะมีตึกล้มลงมา หรือหากอยู่ดีๆก็มีช้างมาเดินข้ามถนน โดยทางระบบจะไม่สามารถรับมือกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดได้หากยังไม่มีข้อมูลจากการขับขี่มากพอ ทำให้ไม่แน่ใจว่า 1% ที่เหลือจะสำเร็จเมื่อไหร่
Tesla นั้นเก็บข้อมูลการขับขี่ไปพัฒนาระบบอย่างไร ?
รถของ Tesla ทุกๆคันนั้นเป็นเสมือนคอมพิวเตอร์ติดล้อ โดย Tesla กำลังเก็บข้อมูลการขับรถทุกๆคันที่ได้ขายออกไปแล้ว ทุกๆวันไม่ว่าเจ้าของรถ Tesla จะขับไปที่ไหน ระบบก็จะเก็บข้อมูลการขับส่ง Data Online เข้ามา เพื่อนำมาพัฒนาระบบ Autonomous Driving ต่อไป แต่ปัญหาของทุกวันนี้คือทาง Tesla ยังไม่สามารถสะสมข้อมูลได้เร็วพอ
ทำให้ล่าสุดนั้นทาง Tesla ตัดสินใจที่จะเปิดระบบ Ride Hailing Network หรือระบบการออกรถ Tesla ให้ผู้ซื้อนำไปขับเป็น Taxi เสมือนกับระบบของ Uber หรือ Grab อะไรประมาณนี้ ที่คนขับสามารถเข้ามารับงานเป็นรถบริการได้
การทำแบบนี้นั้น จะทำให้รถ Tesla ที่ขายออกไปเป็น Taxi สามารถเก็บข้อมูลของการขับได้มากกว่า x7 เท่าต่อวันของการขับรถธรรมดา อีกทั้งผู้ซื้อรถ Tesla ออกไปขับเป็น Taxi นั้นยังจะสามารถคืนทุนได้ง่ายๆเพราะค่าพลังงานของรถ Tesla นั้นถูกกว่ารถอื่นๆมากนัก
อีกทั้งหากระบบ Autonomous Driving นั้นสำเร็จขึ้นมา ทาง Tesla ก็จะเปิดระบบ Autonomous ride-sharing network หรือระบบ Taxi กลางที่เป็นระบบอัตโนมัติไม่มีคนขับแบบเต็มตัว และผู้ซื้อ Tesla ไปในวันนี้ก็จะสามารถนำรถเข้ามาร่วมใน Network และหาเงินฟรีๆได้จากการให้เช่ารถระหว่างวันแบบไม่ต้องเหนื่อย
การซื้อ Tesla ในวันนี้จึงถือเป็น #การลงทุนที่ดีที่สุด ทาง Elon Musk ได้กล่าวและมองไว้เช่นนั้นว่า
"It’s financially insane to buy anything other than a Tesla"
หรือการซื้อรถที่ไม่ใช่ Tesla ถือเป็นการใช้เงินที่ไม่สมเหตุสมผลเป็นอย่างมาก !
ยอดขายรถ Tesla ในสหรัฐช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้นั้น นำโด่งคู่แข่งเป็นอย่างมาก !
ทางเราได้เขียนบทความออกไปเมื่อเดือนเมษายนแล้วว่า #ไวรัสระบาด หรือ #เศรษฐกิจที่ตกต่ำ จะไม่ใช่ปัญหาในการขายรถของ Tesla เพราะว่าความต้องการของรถ Tesla นั้นสูงและมีคิวรอต่อยาวมากๆ
และทุกอย่างก็เป็นจริงตามนั้น ทาง Statista เพิ่งปล่อยข้อมูลออกมาในคืนนี้ว่าใน 6 เดือนแรกภายใต้ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำในสหรัฐ รถ Tesla ทุกรุ่นกลับเป็นรถไฟฟ้าที่ขายดีที่สุดในสหรัฐติดอันดับ Top 4 ใน 5 ของรถไฟฟ้าทั้งหมด
1. Tesla Model 3 ขายได้ 38,314 คัน
2. Tesla Model Y ขายได้ 18,861 คัน
3. Tesla Model X ขายได้ 9,500 คัน
4. Chevy Bolt ขายได้ 8,370 คัน
5. Tesla Model S ขายได้ 4,700 คัน
โดยหากดูจากกราฟในคอมเม้นท์ที่แนบให้ จะเห็นได้ชัดเจนเลยว่ายอดขายรถของบริษัทอื่นๆนั้นสู้ไม่ได้เลย ไม่ว่าจะเป็นรุ่นของปีไหนก็ตาม เทคโนโลยีของรถ Tesla ในรุ่น 8 ปีก่อนนั้น ยังมีคุณภาพและแบตเตอรี่ที่ทนทานกว่ารถไฟฟ้ารุ่นใหม่ๆของหลายๆค่ายเยอะ
Tesla เพิ่งประกาศแตกพาร์หุ้นอัตราส่วน 5-1 !
เพิ่งลงบทความไปว่านี่เป็นโอกาสอันงามของนักลงทุนรายย่อยที่จะสามารถกลับเข้ามาลงทุนในหุ้น Tesla ได้อีกครั้ง โดยที่ไม่ต้องใช้ทุนเงินเยอะมาก
ทำไมการประกาศแตกพาร์อาจทำให้ราคาหุ้นสูงขึ้นอีกในอนาคต ?
ลองอ่านในบทความที่ผมได้แนบในคอมเม้นท์ไว้ให้อีกครั้งได้ครับ
โดยหากนักลงทุนท่านไหนเชื่อว่า Tesla ยังจะสามารถรักษาการเติบโตและมีเทคโนโลยีที่นำรถยนต์ค่ายอื่นได้แบบนี้ต่อไปเรื่อย เชื่อเลยว่าราคาหุ้น Tesla ยังถือว่า Under Value มาก และทาง Elon Musk เองก็พร้อมจะปล่อย Product ในธุรกิจอื่นๆมา Disrupt อีกหลายธุรกิจมากมาย ไม่ว่าจะเป็นอย่าง ธุรกิจรถ Taxi + ธุรกิจประกัน + ธุรกิจน้ำมัน + ธุรกิจโรงไฟฟ้า
ลองติดตามเรื่องราวที่น่าสนใจของ Elon Musk และ Tesla ไปอย่างใกล้ชิดกับทางเพจเราได้ครับ
สุดท้ายนี้อย่าลืมคำพูดของ Elon นะครับ
หากคุณชื้อรถยนต์อื่นๆที่ไม่ใช่ Tesla ในอีก 3 ปีข้างหน้า คุณอาจจะรู้สึกเหมือนกับว่าเพิ่งซื้อม้าไปตัวนึง ! #DontBetAgainstElonMusk
#ทันโลกกับTraderKP
บทวิเคราะห์นี้เผยแพร่ครั้งแรกที่เพจ Oil Trading - ทันตลาดน้ำมันและเศรษฐกิจโลกกับ KP