ในตอนนี้ไม่ว่าคุณจะหันหน้าไปทางไหนก็จะได้ยินคนถามแต่ว่า “คิดว่าราคาทองคำจะสามารถขึ้นไปได้จนถึงเท่าไหร่?” ในขณะที่ทุกคนพยายามคาดการณ์ ฟังกูรู วิเคราะห์ด้วยตัวเองเพื่อหาจุดสูงสุดของราคาทองคำให้ได้ ล่าสุดวันนี้ราคาทองคำในตลาดซื้อขายล่วงหน้าที่จะหมดสัญญาในเดือนสิงหาคมปี 2020 ก็สามารถขึ้นถึง $2049.9 ต่อออนซ์ได้เป็นที่เรียบร้อย
สาเหตุที่อธิบายได้ง่ายที่สุดว่าทำไมราคาทองคำถึงขึ้นแบบไม่มีหยุดได้ขนาดนี้อธิบายได้ด้วยเหตุผลประการเดียวนั้นคือการอ่อนมูลค่าลงของดอลลาร์สหรัฐทุกอย่างที่เกิดขึ้นในตอนนี้เป็นไปตามหลักอุปสงค์อุปทาน ในเมื่อทองเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ตัวหนึ่งเป็นทรัพยากรที่ทั้งโลกเชื่อว่ามีอยู่อย่างจำกัดและไม่ว่าจะไปอยู่ที่ไหนก็ตามบนโลกทองคำก็สามารถใช้เป็นตัวกลางในการและเปลี่ยนได้ในขณะที่ดอลลาร์เป็นสกุลเงินสำรองของโลกที่มีอยู่อย่างไม่จำกัด (ตราบใดที่เฟดยังคงพิมพ์เงินออกมาอย่างต่อเนื่อง) การเพิ่มจำนวนเงินเข้ามาในระบบเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจยิ่งทำนานเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้คนรู้สึกว่าเงินด้อยมูลค่าลงมากเท่านั้น
ดัชนีดอลลาร์สหรัฐที่ใช้เป็นตัววัดมูลค่าของสกุลเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ เคยขึ้นไปสร้างจุดสูงสุดตลอดระยะเวลา 17 ปีเอาไว้ที่ 103.60 ในเดือนมิถุนายนก่อนที่จะร่วงลงสู่ 92.80 ในปัจจุบันเนื่องจากปัญหาการระบาดของเชื้อโควิด-19 ที่รัฐบาลสหรัฐฯ ยังไม่สามารถควบคุมได้อย่างเด็ดขาด สร้างผลกระทบต่อการบริโภคภายในประเทศ เมื่อภาคการผลิตไม่สามารถผลิตได้อย่างเต็มที่จึงทำให้เกิดความไม่เชื่อมั่นใจกิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และนั่นคือสาเหตุที่ทำให้ราคาทองคำซึ่งเคยลงไปสร้างจุดต่ำสุดในรอบ 4 เดือนที่ $1,451.00 สามารถทะยานกลับขึ้นมายืนเหนือ $2000 ได้ในปัจจุบันทั้งตลาดซื้อขายล่วงหน้าและสปอต
ทุกอย่างเป็นความผิดของดอลลาร์ อัตราดอกเบี้ยและราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ
สถานการณ์ของดอลลาร์ในตอนนี้เรียกได้ว่าหาข่าวดีได้น้อยมาก ดัชนีดอลลาร์สหรัฐฯ ยังคงวิ่งอยู่ที่จุดต่ำสุดในรอบ 27 เดือนหรือประมาณ 93.047 ส่วนที่กราฟราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปีและอัตราดอกเบี้ยถูกปรับลดลงจนเกือบจะเป็น 0% แล้ว ในขณะเดียวกันธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟด (FED) ก็ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องอุ้มเศรษฐกิจเอาไว้ด้วยการตั้งกองทุนเยียวยาภัยพิบัติไวรัสโคโรนาด้วยวงเงิน $3,000,000 ล้านเหรียญสหรัฐในเดือนมีนาคมและยังคงดำเนินเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน
คุณไม่จำเป็นต้องเป็นนักเศรษฐศาสตร์จากมหาลัยฮาวาร์ดก็คงเดาได้ว่าการปั้มเงินออกมามหาศาลแบบนี้เพื่อพยุงเศรษฐกิจเอาไว้จะก่อให้เกิดปัญหาที่ต้องตามมาหลังจากนี้แน่ๆ คือปัญหาเงินเฟ้อซึ่งเฟดก็ได้ตัดสินใจแล้วว่ายอมแก้ปัญหาเงินเฟ้อดีกว่าต้องแก้ปัญหาเงินฟืด สัญญาณทางเศรษฐกิจแบบนี้จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ผู้คนหรือนักลงทุนจะหันไปหาสินทรัพย์สำรองปลอดภัยที่รู้สึกสบายใจกว่าซึ่งนั่นก็คือทองคำ
ในช่วงบ่ายของวันพุธที่ตลาดหลักทรัพย์ของสิงคโปร์พบว่าราคาซื้อขายทองคำล่วงหน้าสามารถขึ้นยืนเหนือ $2001.20 และสร้างจุดสูงสุดเอาไว้ที่ $2,014.15 ได้ในตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อวันอังคาร ในขณะที่ผมกำลังเขียนบทความอยู่นี้สัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้าที่จะหมดอายุลงในเดือนตุลาคมในตลาด COMEX มีจุดสูงสุดอยู่ที่ $2056.4 ที่น่าตกใจกว่าคือเมื่อเราได้เปิดดูตลาดการซื้อขายล่วงหน้าของราคาทองคำในเดือนธันวาคมปี 2020 พบว่าตอนนี้กราฟมีจุดสูงสุดอยู่ที่ $2067.4
ส่วนราคาทองคำสปอตสามารถขึ้นไปสร้างจุดสูงสุดล่าสุดเอาไว้ที่ $2056.33
เป้าหมายของราคาทองคำจากเหล่าผู้เชี่ยวชาญ
จากสาเหตุที่ดอลลาร์ยังคงอ่อนมูลค่าลงอย่างต่อเนื่องและราคาทองคำสปอตที่สามารถขึ้นมายืนเหนือ $2050 ต่อออนซ์ได้แล้ว ผมจึงคาดการณ์ว่าเป้าหมายของราคาทองคำที่ $2,150 ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่เกินตัวอีกต่อไป ที่สำคัญทองคำอาจจะสามารถขึ้นชนเป้าหมายราคานี้ได้สำเร็จก่อนสิ้นเดือนสิงหาคมด้วยซ้ำ ไม่ใช่แต่เฉพาะกราฟซื้อขายทองคำล่วงหน้าในเดือนนี้เท่านั้นแต่ผมยังหมายถึงของเดือนตุลาคม ธันวาคมหรือแม้กระทั่งทองคำสปอตเองก็สามารถทำได้และผมไม่ใช่คนเดียวที่คิดแบบนี้
AG Thorson ผู้เชี่ยวชาญและนักวิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิคเขียนลงในบทวิเคราะห์ให้กับ FX Empire ว่า “เมื่อไหร่ก็ตามที่ดัชนีดอลลาร์สหรัฐลงไปต่ำกว่า 92 ได้เมื่อนั้นเราจะได้เห็นการเทขายดอลลาร์ชนิดที่ว่าไหลลงเป็นน้ำตกเอราวัณ หากว่าเกิดกรณีอย่างนั้นขึ้นจริงจะส่งผลให้ราคาทองคำสามารถขึ้นเกิน $2,100 ได้และจะไม่หยุดอยู่แค่ $2,100 ด้วย”
นอกจากนี้คุณ Thorson ยังเห็นสัญญาณบ่งบอกขาขึ้นของทองคำจากอินดิเคเตอร์ RSI ซึ่งเขาเขียนอธิบายว่า “การที่อินดิเคเตอร์ RSI ลงมายังระดับ 18.61 เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคมมีความสัมพันธ์ที่เกี่ยวข้องกับจุดต่ำสุดของดัชนีดอลลาร์สหรัฐและขาขึ้นชั่วคราวของทองคำที่ส่งผลต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน” ที่สำคัญเขายังเตือนอีกว่า “ตอนนี้ราคาทองคำถือว่าอยู่ในระดับที่สูงมากๆ แล้วและไม่ใช่จุดเข้าที่ดีอีกต่อไป ในสัปดาห์หน้าจะมีความผันผวนในราคาทองคำเพิ่มสูงขึ้น”
Sunil Kumar Dixit นักวิเคราะห์แร่โลหะมีค่าอิสระกล่าวว่า “ราคาทองคำในตอนนี้กำลังทะยานขึ้นไปทดสอบเป้าหมายราคาตามเครื่องมือ Fibonacci Retracement ซึ่งการลาก Fibonacci ของผมวัดเอาจากจุดสูงสุดของทองคำในปี 2011 ($1,920) เทียบกับจุดต่ำสุดในปี 2015 ($1,046) เมื่อลองวัดดูแล้วคุณจะเห็นว่าราคาทองคำในตอนนี้สามารถขึ้นได้ถึง 123.6% ของ Fibonacci ซึ่งถือว่าเป็นภาพที่หาชมได้ยาก เมื่อมองขึ้นไปที่เป้าหมายถัดไปของราคาจะพบว่าระดับเป้าหมายถัดไปของทองคำจะอยู่ที่ $2,127 ซึ่งในความเป็นจริงอาจจะมีแรงซื้อแถมที่ดันราคาให้ขึ้นไปถึง $2,150 ได้”
แม้จะไม่ใช่เวลาที่ควรซื้อแต่ก็ไม่ใช่เวลาที่ควรขายทองคำ
นาย Christopher Lewis อีกหนึ่งนักวิเคราะห์จาก FX Empire เชื่อว่าอีกไม่นานราคาทองคำจะร่วงลงมาแต่ในตอนที่ราคาทองคำเริ่มวิ่งลงก็ยังไม่ใช่จุดที่ดีในการเทขาย “ผมจะยังไม่มองว่าราคาทองคำอยู่ในแนวโน้มขาลงจนกว่าราคาทองคำจะลงมาต่ำกว่า $1,800 หรือจนกว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะเลิกใช้วิธีปั้มเงินเข้าช่วยเศรษฐกิจของอเมริกาซึ่งในความเป็นจริงแล้วผมไม่เห็นทางไหนเลยที่เฟดจะเลิกทำแบบนั้นในเร็วๆ นี้ ดังนั้นทุกครั้งที่เห็นราคาทองคำลงมา ให้พิจารณาไปเลยว่านั่นคือการย่อเพื่อไปต่อทั้งหมด”
นาย Eli Tesfaye นักวางกลยุทธ์ในการลงทุนกับแร่โลหะมีค่าของ RJO Futures ในชิคาโกแสดงความเห็นว่า “เราอาจจะได้เห็นดัชนีดอลลาร์ลงมาต่ำกว่า 90 ภายในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้และยิ่งตอนนี้ที่มีแต่คนแห่ซื้อทองถึงแม้ว่าจะมาช้าแต่ก็มีส่วนช่วยให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น”
แร่เงินกับเป้าหมายราคาที่ $30
นาย Eli Tesfaye ยังได้คาดการณ์เป้าหมายราคากราฟของสัญญาซื้อขายแร่เงินล่วงหน้าเดือนถัดจากกันยายนในตลาด COMEX ที่พึ่งขึ้นสู่จุดสูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์ที่ $26.87 เมื่อวันพุธว่าอาจขึ้นไปวิ่งอยู่บริเวณ $30 ได้ในช่วงสิ้นปี “ผมคิดว่าแร่เงินอยู่ในราคาที่ถูกมากเมื่อเทียบกับทองคำและคุณมีโอกาสสูงมากที่จะได้เห็นราคาของเงินที่ $30 ภายในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้”
นอกจากนี้เขายังชี้ให้เห็นจุดน่าสนใจของกราฟเงินในปัจจุบัน เมื่อเทียบระหว่างกราฟสัญญาซื้อล่วงหน้าระหว่างเดือนกันยายนและตุลาคมพบว่ามีความเป็นไปได้ที่ราคาสัญญาของเดือนตุลาคมอยู่ต่ำกว่าของเดือนกันยายน (Backwardation) ซึ่งในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์การเกิด backwardation แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของแร่โลหะที่มีมากกว่าตลาดหุ้นปกติ
นาย Dixit นักวิเคราะห์อิสระคาดการณ์ว่าราคาแร่เงินจะสามารถขึ้นถึง $30 ได้ด้วยเช่นกัน “ราคาของแร่เงินนั้นติดอยู่ที่ 38.2% หรือ $26.18 ของเครื่องมือ Fibonacci Retracement ระยะยาวมานาน กรอบนี้ผมลากโดยอ้างอิงจุดสูงสุดที่ $49.79 ของปี 2011 กับจุดต่ำสุดที่ $11.62 ของปี 2020 ในไทม์เฟรมระยะสั้นผมเห็นว่ากราฟแร่เงินสามารถทะลุกรอบสามเหลี่ยมที่มีเป้าหมายของราคาอยู่ที่ $30.11 ขึ้นมาได้แล้ว เมื่อออกมาดูที่กรอบระยะยาวจะพบว่าระดับราคาดังกล่าวตรงกันกับระดับ Fibonacci ที่ 50% พอดีหรือเท่ากับ $30.20”