คาด 2Q63 ขาดทุนหนัก แต่เป็นจุดต่ำสุดของวิกฤต COVID-19 เราคาดผลประกอบการ 2Q63 ขาดทุนที่ 631 ล้านบาท แย่ลงเทียบกับขาดทุนปกติ9 ล้านบาทใน 1Q63 และกำไรปกติ291 ล้านบาทใน 2Q62 ผลกระทบ COVID-19 เต็มไตรมาส
สรุปสาระสำคัญดังนี้ 1) ธุรกิจโรงแรม (40% ของรายได้ปี 2562) คาด RevPar หดตัว 96%YoY จากคาด Occupancy rate เฉลี่ยที่ 4% และคาด ADR เฉลี่ยลดลง 38%YoY จากต้องปิดโรงแรมเกือบเต็ม 2Q63 ส่งผลให้ขาดรายได้ 2) ธุรกิจอาหาร (58% ของรายได้ปี 2562) คาดยอดขายต่อสาขาเดิม (SSSG) ปรับลดลง 32%YoY แม้มี Delivery เข้ามาช่วยหนุน 3) คาด GPM ใน 2Q63 ที่ 28.3% ลดลงจาก 39.1% ใน 2Q62 และ 4) คาดดอกเบี้ยจ่ายสูงขึ้นที่ 174 ล้านบาท จาก 57 ล้านบาทใน 2Q62 เป็นผลจากมาตราฐานบัญชีใหม่ แม้แนวโน้ม 2Q63 ขาดทุนหนักแต่เป็นปัจจัยลบที่อยู่ในคาดการณ์ของเราและตลาดไม่ได้เป็นประเด็นกดดันใหม่ นอกจากนี้ เราคาด Net debt to equity ณ สิ้น 2Q63 ที่0.73x ไม่มีความเสี่ยงด้านการเงิน
ทยอยเปิดโรงแรมใน 3Q63 พร้อมการเปิดให้บริการร้านอาหารในห้าง CENTEL ทยอยเปิดโรงแรมใน 3Q63 ดังนี้ 1) กลางเดือน ก.ค.63 เปิดโรงแรมในประเทศราว 7แห่ง เป็น กรุงเทพฯ 3แห่ง พัทยา 2แห่ง และ หาดใหญ่ 2แห่ง 2) CENTEL จะกลับมาเปิดให้บริการโรงแรมในไทยครบ 100% ภายในสิ้น 3Q63 และ 3) โรงแรมในประเทศมัลดีฟส์คาดเปิดให้บริการได้ในเดือน ส.ค. 63 เป็นต้นไป
ดังนั้นภายใน 3Q63 CENTEL จะเปิดโรงแรมที่เป็นเจ้าของทั้งหมด ขณะที่หากนับรวมโรงแรมที่รับจ้างบริหาร (Managed Hotels) จะเปิดได้อย่างน้อย 80% สำหรับกลุ่มธุรกิจอาหาร หลังภาครัฐได้มีการผ่อนปรนให้เปิดห้างสรรพสินค้าตั้งแต่วันที่ 17 พ.ค.63 หนุน ให้ธุรกิจอาหารใน 3Q63 จะกลับมาให้บริการได้เต็มศักยภาพอีกครั้ง เทียบกับ 2Q63 ที่เปิดได้เพียงครึ่งไตรมาส ขณะที่ SSSG เฉลี่ยที่ -32% ใน 2Q63 แต่เดือนมิ.ย. -18% สะท้อนภาพการทยอยฟื้นตัว MoM
Deal KFC ไม่ใช่จะเป็นไปไม่ได้... หากเกิดขึ้นเป็น Upside ต่อประมาณการ บริษัท Restaurants Development Co ประกาศขาย KFC จำนวน 200 สาขาในประเทศไทย อิงราคาตาม Bloomberg ที่200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (หรือ32 ล้านบาทต่อสาขา) คิดเป็นเงินลงทุนรวมราว 6.4 พันล้านบาท แม้เรามีข้อมูลจำกัด แต่ประเมินเบื้องต้นงบดุลของ (BK:CENTEL)มีศักยภาพรองรับการลงทุนไม่ยาก (หากลงทุนจริง คาด Net debt to equity ไม่เกิน 1.2x) อย่างไรก็ดี เนื่องจาก CENTEL มี KFC อยู่แล้วราว 280 สาขา และทำกำไรได้เฉลี่ยราว 25 ล้านบาทต่อสาขา บนเงินลงทุนต่อสาขาที่ราว 15 ล้านบาท ดังนั้น Deal จะเกิดขึ้นได้หรือไม่ขึ้นกับราคาเสนอขายที่จะต้องทำ IRR ให้อย่างน้อย 10%
ปรับคำแนะนำขึ้น เป็น “ซื้อ ” ที่ 29.30 บาทต่อหุ้น ... สะสมในช่วงงบ 2Q63 หากผลประกอบการออกมาตามคาด 1H63 จะขาดทุนปกติอยู่ที่ 640 ล้านบาท ขณะที่ 3Q63 มีแนวโน้ม ทยอยฟื้นตัวและอาจมีลุ้นกลับมาทำกำไรใน 4Q63 หากนักท่องเที่ยวกลับมาได้เร็ว ทำให้เรายังคงประมาณการทั้งปี 2563ขาดทุน 861 ล้านบาท และฟื้นตัวแรงในปี 2564 ที่กำไรสุทธิ 1.2 พันล้านบาท เราปรับเพิ่มราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2563 ขึ้น เป็น 29.30 บาทต่อหุ้น จากการปรับเพิ่ม EV/EBITDA band จาก -0.75SD เป็นเท่ากับค่าเฉลี่ยในอดีต โดยยังคงใช้วิธีประเมินราคาเหมาะสมในปี 2564 และ Discount กลับมาด้วย Ke ที่ 10.4% เราปรับเพิ่มคำแนะนำขึ้น เป็น “ซื้อ ” แม้ผลประกอบการระยะสั้นอ่อนแอ แต่ราคาหุ้นอยู่ใน Zone ถูก เราประเมินอุตสาหกรรมยังมี Demand ที่แข็งแกร่ง รอเพียงการปลดล็อคด้านกฏเกณฑ์จากพัฒนาการของวัคซีนหรือมาตรการเปิดประเทศของภาครัฐเป็นตัวปลดล็อคผลประกอบการ
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Yuanta Securities