กำไร 2Q63 ต่ำกว่าคาดจากสำรองหนี้
(BK:TISCO) ประกาศกำไรสุทธิสำหรับ 2Q63 ที่ 1,333 ล้านบาท อ่อนตัว 10%QoQ และ 26%YoY ต่ำกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้าราว 11% แม้ว่ากำไรจากการดำเนินงานก่อนการตั้งสำรองสูงกว่าคาดเพียงเล็กน้อยราว 1%โดยมีประเด็นสำคัญคือ
- รายได้ดอกเบี้ยอ่อนตัวลง 9%QoQโดยสินเชื่ออ่อนตัวลง 3.7%QoQ เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวในช่วง COVID-19 ด้าน NIM อ่อนตัวลงราว 22 bps จากไตรมาสก่อน จากผลกระทบของการลดดอกเบี้ยนโยบายในช่วงก่อนหน้า และการลดดอกเบี้ยเพื่อช่วยเหลือลูกหนี้
- รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยอ่อนตัวลงราว 15%QoQ แม้ว่าสภาวะตลาดหุ้นจะดีขึ้นมากทำให้ขายทุนจากเงินลงทุนในไตรมาสก่อนพลิกกลับมาเป็นกำไรได้ แต่ไม่เพียงพอชดเชยรายได้ค่าธรรมเนียมที่อ่อนตัวค่อนข้างแรงตามสภาวะเศรษฐกิจ
- ประเด็นหลักที่ทำให้กำไรผิดจากคาด คือ ค่าใช้จ่ายสำรองหนี้ที่สูงกว่าที่คาด แม้ว่าสำรองหนี้จะลดลงราว 17%QoQ แต่เป็นการลดลงจากระดับสูงในไตรมาสก่อนที่มีการตั้งสำรองส่วนเกินค่อนข้างมาก อย่างไรก็ตามสำรองหนี้ในไตรมาสนี้ยังถือว่าอยู่ในระดับสูง เนื่องจากแนวโน้ม NPL เพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก จาก 2.56% ในไตรมาสก่อนมาอยู่ที่ 3.28% ขณะที่ NPL Coverage Ratio ลดลงจาก 160% ในไตรมาสก่อนเหลือ 155%
อาจต้องปรับลดประมาณการกำไรลงเพิ่ม
กำไรงวดครึ่งปีคิดเป็นราว 46% ของประมาณการที่เราทำไว้ ในขณะที่แนวโน้มในครึ่งปีหลังยังมีปัจจัยเสี่ยงจากคุณภาพหนี้หลังจากหมดมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ต่างๆ ทำให้มีโอกาสที่เราจะปรับลดประมาณการกำไรปี 63-64 ลงเพิ่มเติมภายหลังการประชุมนักวิเคราะห์
แม้จะมี Upside แต่มองราคาหุ้นยังไม่ฟื้นตัวในระยะสั้น
เราให้ราคาเป้าหมายปี 64 ที่ 97 บาท อิง PBV 1.7 เท่า แม้ว่าราคาหุ้นปัจจุบันจะยังมี Upside ที่น่าสนใจ แต่ด้วยแนวโน้มผลประกอบการครึ่งปีหลังที่มีโอกาสอ่อนตัวลงอีก ทำให้ราคาหุ้นยังขาดปัจจัยหนุนที่จะฟื้นตัวในระยะสั้น
ความเสี่ยง:แนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้นอาจส่งผลกระทบต่อ NIM
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Trinity Securities