คาดสัปดาห์นี้SET INDEX เคลื่อนไหวกรอบ 1340 – 1375 ประเมินปัจจัยมีผลต่อ การลงทุนทั้งสัปดาห์ได้แก่
1. ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน 2Q20 วันศุกร์ที่ผ่านมา TISCO รายงานกำไรสุทธิ 2Q20 ที่ 1.3 พันล้านบาท (-10%QoQ -26%YoY) ต่ำกว่า Bloomberg คาดการณ์ราว 12% อย่างไรก็ตามแม้จะต่ำกว่าคาดการณ์ไม่มาก แต่มองว่าจุดที่ควรให้ความสนใจคือตัวเลขหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ที่เร่งตัวขึ้นมาเป็น 3.28% จาก 1Q20 ที่ 2.56% สะท้อนถึงความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้ที่มีปัญหาประกอบกับเป็นตัวชี้ถึงเศรษฐกิจไทยที่ยังอ่อนแอ สอดคล้องกับการตั้งสำรอง ของบริษัทที่สูงถึง 873 ล้านบาท (+535%YoY) ดังนั้นกลุ่มนี้จะกลับมาน่าสนใจก็ต่อเมื่อเศรษฐกิจไทยเห็นการฟื้นตัวชัดเจน ขณะเดียวกันแนะติตตามการประกาศที่เหลือของกลุ่มคาดว่าจะแล้วเสร็จในสัปดาห์นี้
2. การผ่อนคลาย Phase 6 ในวันอาทิตย์ที่ผ่านมาทาง ศบค. เผยถึงการ ผ่อนคลาย Phase 6 โดยจะอนุญาตให้ แรงงานต่างด้าว ชาวต่างชาติ ที่จะเข้ามาร่วมจัดงานแสดงสินค้ารวมถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติ สามารถเดินทางเข้ามาประเทศไทยได้ โดยจะมีการประชุมกันภายในสัปดาห์นี้ ความเห็นเรา มองประเด็นดังกล่าวเป็นการส่งสัญญาณถึงความผ่อนคลายต่อการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มากขึ้น เชื่อมโยงไปยังโอกาสเกิด Travel Bubble ที่สูงขึ้นมองผู้ได้รับประโยชน์ สุดเป็น ท่าอากาศยานไทย (BK:AOT) รองลงมาเป็นโรงแรมและร้านนวด CENTEL ERW MINT SPA
3. สัปดาห์นี้ในวันพฤหัสโรงภาพยนตร์ประเทศไทย จะมีกำหนดฉาย ภาพยนตร์เรื่อง Peninsula (ภาคต่อ Train to Busan) ถือเป็น ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์เรื่องแรกที่เข้าฉายหลังเกิด COVID-19 ภาพยนตร์ดังกล่าวถือว่าได้รับกระแสตอบรับดีมากในประเทศ (เกาหลี ใต้ ไต้หวัน สิงค์โปร์ มาเลเซีย) ซึ่งเป็นประเทศที่ได้ทำการฉายไปก่อนหน้านี้ดังนั้นคาดว่าในประเทศไทยกระแสตอบรับจะดีเช่นกัน เรามองเป็นบวกโดยตรงต่อ MAJOR
Weekly Strategy : เน้นกลยุทธ์ Selective Buy ในหุ้นมีปัจจัย บวก อาทิ 2Q20 ที่ผลประกอบการจะดีกว่าหลายๆตัว (CBG COM7 MEGA TASCO XO) กลุ่มที่งบครึ่งปีหลังจะเห็นการฟื้นตัว แข็งแกร่ง (CPF PTG TFG) หุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว (MAJOR SPA) ได้ประโยชน์เศรษฐกิจจีนฟื้น (DELTA HANA)
PTG (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 21.6 บาท) ปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 21.6 บาทจากเดิม 16 บาทโดยเป็นการปรับไปใช้ก าไรปี 21 ที่คาดว่า กำไรต่อหุ้นจะเติบโตราว 18%YoY สำหรับผลประกอบการ 2Q20 คาดที่ 436 ล้านบาท (+2%YoY +114%QoQ) ผลจากค่าการตลาดที่ ปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ 1.9 บาท / ลิตร เทียบกับ 1Q20 ที่ 1.6 บาท / ลิตร ขณะเดียวกันในครึ่งปีหลังมองว่าผลประกอบการจะยังคงเห็น การเติบโตต่อเนื่องในเชิง YoY ซึ่งหากอิงข้อมูลจากกรมธุรกิจพลังงาน พบว่าปริมาณการใช้น้ำมันเบนซินและดีเซลกลับมาใกล้เคียงระดับปก ติในช่วงปลาย มิ.ย. และ สัปดาห์แรกของ ก.ค. มีการเติบโต 2%YoY
MAJOR (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 18.2 บาท) ราคาหุ้นปัจจุบันลงมาซื้อ ขายที่เพียงระดับ 14x (อิงกำไรทั้งปี 21) เป็นระดับที่ต่ำสุดในรอบ 6 ปีเรามองว่าเหมาะสมแก่การถือเพื่อลงทุนระยะกลาง - ยาว โดย ราคาหุ้นปัจจุบันหากกลับไปทำกำไรได้ระดับปกติราคาหุ้นล่าสุดจะมีเงินปันผลสูงถึง 7% ขณะที่ปัจจัยระยะสั้นได้แรงหนุนจากหนัง Peninsula เป็นภาพยนตร์เกาหลีที่ได้รับกระแสตอบรับดีจากการเริ่ม ฉายในเกาหลีสัปดาห์ที่ผ่านมาและเตรียมเข้าฉายในไทยวันที่ 23 ก.ค. นี้
บทความนี้เผยแพร่ครั้งแรกที่ cgsec.co.th