คาดว่าวันนี้ ดัชนีมีโอกาสปรับตัวลงตามการปรับฐานลงแรงของ Dow Jones ในวันศุกร์ราว 2.8% หลังมีข่าวออกมาว่าบางรัฐของสหรัฐ (Texas Florida) ได้กลับมา Lock Down อีกครั้งเนื่องจากมีจำนวนผู้ติดเชื้อที่เร่งตัวขึ้นส่งผลให้ตลาดกังวลไปถึง แนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐที่อาจฟื้นตัวไม่ทันกับราคาหุ้นที่ขึ้นมาค่อนข้างแรง
กราฟดัชนี SET INDEX รอบ 7 วันที่ผ่านมา
ด้านปัจจัยที่กระทบต่อการลงทุนสัปดาห์นี้
(1) วันจันทร์จะมีกำหนดประชุม ศบค. ชุดใหญ่ซึ่งที่ประชุมมีกำหนดพิจารณาผ่อนคลายระยะที่ 5 ประกอบไปด้วยการกลับมาให้บริการของธุรกิจผับ บาร์ คาราโอเกะ ร้านอินเตอร์เน็ต อาบอบนวด รวมถึงต่ออายุ พ.ร.ก. ฉุกเฉิน ความเห็นเรามองว่าด้วยตัวเลขผู้ติดเชื้อเฉพาะใน ประเทศไทยเพียงอย่างเดียวจะพบว่าไม่พบผู้ติดเชื้อมานานถึง 34 วันจึงมีโอกาสที่ ทาง ศบค. จะอนุญาตให้ธุรกิจสีแดงกลับมาเปิดดำเนินการได้
อย่างไรก็ตามมองผลบวกต่อตลาดหุ้นจำกัดเนื่องจากมีบริษัทได้ผลบวกน้อย โดยมองหุ้นได้ผลบวก ได้แก่ (BGC CPALL (BK:CPALL)) ส่วนการต่ออายุ พ.ร.ก. ฉุกเฉิน ไม่ว่าจะต่อหรือไม่ต่อคาดว่าไม่มีผลใดๆต่อดัชนี
(2) Valuation ของ SET INDEX มีความเสี่ยงต่อการปรับฐานปัจจุบันดัชนีซื้อขายที่ Forward PE 20 ราว 20.4x ทำระดับสูงสุดในรอบ 15 ปีแม้จะมองข้ามไปยังกำไรปี 21 ก็ยังคงซื้อขายที่ราว 16x Forward PE 21 นับเป็นระดับใกล้เคียง +1SD ในรอบ 12 ปี อย่างไรก็ตามความเสี่ยงคือโอกาสปรับกำไรบริษัทจดทะเบียนลงอีกครั้ง
ปัจจุบัน Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 21 ที่ 83 บาท / หุ้น นับเป็นระดับใกล้เคียงกับกำไรบริษัทจดทะเบียนในปี 19 มองโอกาสที่กำไรปี 21 จะกลับไปใกล้เท่าปี 19 เป็นไปได้ยาก (กรณีไม่พบวัคซีน) เนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกโดยรวมยังถูกกดันจากมาตรการเว้นระยะห่าง ซึ่งจะกดดันความต้องการใช้น้ำมัน และปิโตรเคมี ขณะเดียวกันเศรษฐกิจไทย พึ่งพิงการส่งออกและท่องเที่ยวราว 65% และ 17% GDP ตามลำดับ
ดังนั้นหากเศรษฐกิจโลกยังฟื้นตัวไม่ชัดเจนจะเป็นผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย และสุดท้าย กระทบต่อความต้องการสินเชื่อ ขณะที่การท่องเที่ยวในปี 19 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาไทยราว 40 สวนทางกับปี 21 ที่ทาง ธปท. คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเพียง 16 ล้านคน ดังนั้นโอกาสที่ผลประกอบการกลุ่มท่องเที่ยวจะกลับไปเท่ากับปี 19 มองว่าเป็นไปได้ยาก
Weekly Strategy: ยังแนะนักลงทุนถือครองเงินสดระดับสูง ส่วน กลุ่มแนะนำประจำสัปดาห์ได้แก่ รับเหมาก่อสร้าง (CK STEC) รถไฟฟ้า (BEM BTS) รวมถึงหุ้นใน CGS Coverage ที่มีปัจจัยหนุน เฉพาะ (BJC CBG TFG SPA) ส่วนนักลงทุนระยะกลาง - ยาว แนะ เริ่มทยอยสะสมได้กรณี SET INDEX ต่ำกว่า 1250
Stock Pick
ช.การช่าง (BK:CK) (ซื้อ / 29.75 บาท) เราปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 29.75 จาก เดิม 17.75 เนื่องจากปรับไปใช้กำไรปี 21 ที่คาดว่ากำไรสุทธิจะ เติบโต 60%YoY หนุนจากการกลับมาฟื้นตัวของบริษัทลูก (BEM CKP TTW) ขณะเดียวกันด้านปัจจัยบวกจากธุรกิจรับเหมาก่อสร้างบริษัทลูก (BEM) เตรียมจะเข้าประมูลสายสีส้มในช่วง ต.ค. เราเชื่อว่ามีโอกาสสูงที่ BEM จะชนะการประมูลซึ่งระบบงานก่อสร้าง CK จะเป็นผู้รับประโยชน์ไปมูลค่าโครงการราว 1.2 แสนล้านบาทช่วยเพิ่ม Backlog ให้กับ CK จากปัจจุบันที่เหลือ Backlog เพียง 3 หมื่นล้านบาท เพียงพอการรับรู้รายได้ขั้นต่ำ 4 ปี
บทความนี้เผยแพร่ครั้งแรกที่ cgsec.co.th