► คาดกำไรสุทธิ 2Q63 ลดลง YoY และ QoQ เราเชื่อว่าจะเป็นจุดต่่ำสุดของปี เป็นผลจาก NIM ที่ลดลง แต่ถูกชดเชยด้วยค่าใช้จ่ายที่ลดลง
► ประเด็น THAI ความเสี่ยงค่อนข้างจำกัด จากการปรับชั้นสำรองเป็น Underperforming Loan และมีการกันสำรองเพิ่มตามมาตรฐาน TFRS9
► กำไรสุทธิ 1Q63 เป็นไปตามคาด ลดลงทั้ง QoQ และ YoY โดยมีปัจจัยลบ จากกำไรจากเงินลงทุนลดลงตาม TFRS9
► ปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2563-2564 ลง จากการปรับเพิ่ม Credit Cost ขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจ และ COVID-19
► ปรับลดราคาเป้าหมายเหลือ 15.50 บาท ให้สอดคล้องกับการปรับประมาณการผลประกอบการ
► ราคาหุ้นน่าสนใจ ปัจจุบันซื้อขายในระดับต่ำกว่า -2.0S.D. แนะนำ “ซื้อ”
คาด 2Q63 เป็นจุดต่ำสุดของปี
เราประเมินกำไรสุทธิ 2Q63 ลดลง YoY และ QoQ และคาดจะเป็นจุดต่ำสุดของปี ถูกกดดันจากอัตราส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย (NIM) ลดลง ตามการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 25 bps และการปรับลดอัตราดอกเบี้ยกลุ่ม M-rate (MLR, MOR, MRR) ลง 40 bps อย่างไรก็ตาม เราประเมินว่าอัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานต่อ รายได้ (Cost-to-Income ratio) จะปรับตัวลงเช่นกัน เนื่องจากใน 1Q63 บริษัทมีการบันทึกค่าใช้จ่ายครั้งเดียว (One Time Expense) เช่น โบนัสพนักงาน เป็นต้น จึงคาดว่าจะช่วยชดเชยผลลบบางส่วน ด้านการเติบโตของสินเชื่อ คาดจะเห็นการเติบโตอย่างค่อยเป็นค่อยไป หนุนจากสินเชื่อภาครัฐ และสินเชื่อธุรกิจ
ปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2563-2564 ลง
เราปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2563-2564 ลงราว 28.5% และ 19.7% ตามลำดับ จากการปรับเพิ่มสมมติฐานค่าใช้จ่ายสำรอง (Credit Cost) ขึ้นจาก 105.0 bps เป็น 160.8 bps ในปี 2563 และขึ้นจาก 95.0 bps เป็น 126.9 bps ในปี 2564 จาก สถานการณ์ COVID-19 และเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ส่วนประเด็น THAI ธนาคารมีการปรับชั้นสำรองเป็นชั้น Underperforming Loan แล้ว และมีการกันสำรองเพิ่มขึ้นจากมาตรฐาน TFRS9 ตามนโยบายดำเนินธุรกิจอย่างระมัดระวัง ดังนั้น เราประเมินกระทบต่อสำรองจำกัด
กำไรสุทธิ 1Q63 ใกล้เคียงประมาณการ
KTB รายงานกำไรสุทธิ 1Q63 อยู่ที 6,082 ล้านบาท ลดลง 16.7%YoY และ 18.5%QoQ ตามคาด โดยถูกกดดันจากกำไรจากเงินลงทุนลดลง เนื่องจากการตี มูลค่ายุติธรรมเงินลงทุน ตามมาตรฐานบัญชี TFRS9 นอกจากนี้ธนาคารยังมีการตั้งสำรองเพิ่มขึ้น โดยคิดเป็น Credit Cost ที 1.6% เทียบกับ 1Q62 และ 4Q62 ที 1.5% และ 0.9% ตามลำดับ ด้าน NPL ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยอยู่ที 4.36% เทียบกับ 4Q62 ที 4.33%
แนะนำ “ซื้อ” ปรับราคาเป้าหมายใหม่ 15.50 บาท
จากการปรับสมมติฐาน และประมาณการกำไรสุทธิปี 2563 - 2564 ได้ราคาเป้าหมาย ใหม่ที่ 15.50 บาท อิงค่า PBV ที่ 0.6 เท่า เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” แม้แนวโน้มผล ประกอบการระยะสั้นดูอ่อนแอ กดดันจาก NIM หดตัว แต่คาดราคาหุ้นปรับตัวลงมา รับข่าวคาดการณ์ผลประกอบการ และภาวะเศรษฐกิจค่อนข้างมากแล้ว โดยราคาหุ้น ปรับตัวลงแรง 38.3% ในช่วง 3 เดือนที ผ่านมา และซื้อขายที่ระดับน้อยกว่า -2.0S.D. เราแนะนำ “ซื้อ” ในอนาคตมีปัจจัยหนุนจากการเร่งตัวของสินเชือภาครัฐฯ่
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Asia Wealth Securities
ดูกราฟราคาหุ้น ธนาคารกรุงไทย (BK:KTB)