Q20 กำไรลด 4%YoY และ 70QoQ มาอยู่ที่ 301 ลบ.
SC รายงานกำไรสุทธิอยู่ที่ 301 ลบ. ( - 4%YoY ) เกิดจากดอกเบี้ยจ่ายที่เพิ่มขึ้น ( - 70%QoQ) เนื่องจากในงวดดังกล่าวมีการโอนคอนโดเข้ามา 2 โครงการ รายได้รวมอยู่ที่ 3,292 ลบ. (+ 3%YoY, -51%QoQ) แบ่งเป็นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 3,071 ลบ. (+4%YoY, -53%QoQ) มาจากแนวราบ 1,829 ลบ. ( -28 %YoY, -43%QoQ) คอนโด 1,243 ลบ. (+204%YoY,+63%QoQ) รายได้จากการให้เช่าและบริหาร 202 ลบ. (+2%YoY ทรงตัวจาก 4Q19) รายได้ค่าที่ปรึกษา 19 ลบ. ( -15 %YoY)
กำไรขั้นต้นอยู่ที่ 3 4.3 % เพิ่มขึ้นจาก 3 4.1% ใน 1Q1 9 และ 3 3% ใน 4Q1 9 ส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มขึ้น 9%YoY แต่ลดลง 34%QoQ มาอยู่ที่ 712 ลบ. โดยถ้าเทียบกับรายได้ถือว่ามีสัดส่วนที่ 21.6% เพิ่มขึ้นจาก 20.6% ใน 1Q1 9 และ 16.1% ใน 4Q19 ด้านส่วนแบ่งจากกิจการร่วมค้ารับรู้ขาดทุน 7 ลบ. ลดลงจาก 12 ลบ. ใน 1Q19 แต่พลิกจากที่รับรู้กำไร 23 ลบ. ใน 4Q19 ดอกเบี้ยจ่ายอยู่ที่ 45 ลบ. (+47%YoY,แต่ -18%QoQ)
ปี 20 เหนื่อย ปรับแผนลงทุนใหม่ แต่ยอดขายแนวราบกลับมาดี
ด้วยสถานการณ์ภาพรวมเศรษฐกิจในปี 20 ที่ไม่สดใสนัก โดยเฉพาะในอุตสาหกรรม การท่องเที่ยว ทำให้แผนการเปิดโรงแรมใหม่ของ SC มีการปรับลดเหลือเพียง 3 แห่ง (ราชวัตร รัชดา และพัทยา) และเลื่อนการเปิดไป 1 ปี เริ่มที่ราชวัตร ปลายปี 21 ที่เหลือทยอยเปิดปีละ 1 แห่ง ส่วนโครงการที่สหรัฐฯได้รับผลกระทบจากการปิดเมืองจึงยังไม่สามารถได้รับใบอนุญาต คาดว่าจะเรียบร้อยในช่วง 2H20 นี้
ส่วนโครงการอื่นๆ จากความต้องการในกลุ่มคอนโด ที่ในช่วง 1Q20 มีความต้องการลดลงไปกว่า 84%YoY ทำให้ SC เลื่อนการเปิดขายคอนโดที่ทำร่วมกับ NNR ออกไปเป็นปี 21 ส่วนโครงการแนวราบยังคงเปิดตามแผนจำนวน 12 โครงการ 1Q20 เปิด 1 โครงการ 2Q20 จะเปิดอีก 4 โครงการมูลค่ารวมประมาณ 5,000 ลบ. ส่วน 2H20 จะเปิดอีก 7 โครงการ
ทั้งนี้ในเดือน เม.ย. จนถึงปัจจุบัน ยอดขายของกลุ่มแนวราบของ SC ถือว่าทำออกมาได้ดีสวนทางกับเศรษฐกิจที่ชะลอตัว โดยยอด Presales ทำได้แล้ว 2,927 ลบ. และทำให้ยอดรวมตั้งแต่ต้นปีทำได้แล้วกว่า 4,909 ลบ. (+6%YoY) อย่างไรก็ตามทางบริษัทยังต้องติดตามว่าการเข้ามาซื้อในช่วงที่ผ่าน มาเป็นการตัดสินใจเร็วขึ้น หรือว่าเป็นเรื่องของความต้องการที่เพิ่มขึ้นจริง
ปรับประมาณการลง แต่ปันผลยังดี
จากแนวโน้มเศรษฐกิจที่ไม่สดใส และตลาดคอนโดที่ได้รับผลกระทบอย่างมากทั้งเศรษฐกิจในประเทศ และการจำกัดการเดินทางจากต่างประเทศที่ทำให้ลูกค้าไม่สามารถเข้ามาโอนได้ ทำให้เราปรับลดรายได้ลงจากเดิม 17% มาอยู่ที่ 14,460 ลบ. (-18%YoY) และด้วยการปรับไปกู้เงินจากสถาบันการเงินแทนการออกหุ้นกู้มาแทนหุ้นกู้ที่ครบกำหนดทำให้เราคาดดอกเบี้ยจ่ายเพิ่มขึ้น 22% รวมแล้วเราจึงปรับกำไรสุทธิลงจากเดิม 27% มาอยู่ที่ 1,310 ลบ. ( -35%YoY)
คำแนะนำการลงทุน เรามองว่าผลประกอบการของ SC ในปี 20 จะไม่ดี แต่ด้วย ยอดขายที่ดีในช่วงเดือน เม.ย. - พ.ค. ทำให้แนวโน้มผลประกอบการในงวด 2Q20 จะเห็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ทั้งจาก 2Q19 และ 1Q20 รวมถึงผลตอบแทนเงินปันผลทั้งปีที่เราประเมินไว้ที่ 0.13 บาท/หุ้น คิดเป็นอัตราผลตอบแทนเงินปันผลกว่า 6% เรา จึงแนะนำ “ซื้อ” เพื่อรับเงินปันผลเช่นเดิม และประเมินมูลค่าเหมาะสมที่ 2.50 บาท ( 8XPER’20E)
บทความนี้เผยแพร่ครั้งแรกที่ cgsec.co.th
ไม่อยากพลาดบทความดีๆ อย่าลืมกด "ติดตาม" นะครับ
......
ดูกราฟและราคาหุ้น เอสซี แอสเสท (BK:SC)