คาดกำไร 1Q63 ลดลง QoQ ,YoY
เราคาดกำไรสุทธิใน 1Q63 ที่ 103 ล้านบาท ลดลง 54%QoQ และ 33%YoY แม้รายได้ในเดือน ม.ค.- ก.พ ยังเติบโตปกติในระดับ single digit แต่ในเดือน มี.ค. เริ่มรับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 โดยเฉพาะธุรกิจ Engagement ได้แก่ Sports Marketing Music Marketing และ E-Sport ซึ่งถูกเลื่อนการจัดงานแสดงออกไป สำหรับรายได้จากโฆษณา สื่อนอกบ้านและสื่อในสนามบิน ลูกค้ามีการตัดงบโฆษณา ขณะที่ส่วนของธุรกิจบริษัทร่วม iAM (BNK48 Office เดิม) ซึ่งบริษัทถือหุ้น 35% มีการเลื่อนงาน Handshake Event ที่เดิมจะจัดวันที่ 7-8 มี.ค.รวมถึงกิจกรรมการตลาดและงานแสดงออกไป ส่งผลให้รายได้จากการให้บริการ ปรับลดลง 23%QoQ และ 12%YoY เหลือ 1,050 ล้านบาท ด้านประสิทธิภาพในการทำกำไรลดลง จากผลของรายได้ที่ลดลง ขณะที่ต้นทุนบางส่วนมีการบันทึกไปแล้วแม้จะยกเลิกหรือ เลื่อนการจัดงานออกไป ส่งผลให้EBITDA Margin ปรับลดลง จาก 4Q62 และ 1Q62 ที่ 32.1% และ 34.8% เหลือ 27.6%
ปรับลดประมาณการ..จากผลกระทบ COVID-19
แนวโน้ม 2Q63 คาดผลประกอบการชะลอตัว QoQ และ YoY และเป็นไตรมาสที่แย่สุดของปีด้วย กิจกรรมทางการตลาดเกือบทั้งหมดถูกยกเลิก และลูกค้ามีการยกเลิกโฆษณา หรือลดงบโฆษณาลงจาก เดิม รวมถึงงานโอลิมปิค ซึ่งบริษัทได้สิทธิในการบริหารสื่อโฆษณา เดิมจะจัดในวันที่ 24 ก.ค. ถูกเลื่อนออกไปหนึ่งปี ทำให้รายได้จากการขายโฆษณาซึ่งเดิมจะทยอยรับรู้ รายได้เข้ามาถูกเลื่อนออกไปด้วย อย่างไรก็ตามสถานการณ์ใน 2H63 คาดว่าจะเริ่มดีขึ้น ด้วยตัวเลขผู้ติดเชื้อ COVID-19 ในประเทศไทยเริ่มเพิ่มในอัตราที่ลดลง คาดว่ากิจกรรมการตลาดจะกลับมาจัดมากขึ้น รวมถึงลูกค้าเริ่มกลับมาใช้งบโฆษณา และล่าสุดบริษัทแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่าได้รับงานใหม่ โครงการ “Smart Bus Shelter” จาก สำนักงานการจราจรกรมขนส่งกรุงเทพฯ ในการ
1) สร้างและใช้ป้ายรถโดยสารประจำทางอัจฉริยะและ บริหารจัดการพื้นที่สื่อป้ายโฆษณาประชาสัมพันธ์ 1,170 ป้าย
2) ปรับปรุงดูแลและรักษาศาลาที่พัก ผู้โดยสารรถประจำทางจำนวน 691 หลัง โดยมีระยะเวลาของสัญญา 10 ปีช่วยเพิ่ม Media capacity ราว 300 ล้านบาท โดยเราประมาณการรับรู้รายได้จากโครงการดังกล่าวใน 2H63และปี 2564 ที่ 90 ล้านบาท และ 150 ล้านบาท ตามลำดับ อย่างไรก็ตามด้วยผลกระทบจาก COVID-19 ที่รุนแรงกว่าที่เราคาดไว้ ทำให้เรามีการปรับลดประมาณการปี 2563 และปี 2564 ลงจากเดิม 37% และ 19% เหลือ 512 ล้านบาท (-31%YoY) และ 785 ล้านบาท (+53%YoY) ตามลำดับ จากการปรับลดสมมติฐาน รายได้ลง จากเดิม 29% และ 9% ตามลำดับ
คงคำแนะนำ “เก็งกำไร” รับรู้ข่าวร้ายไปมากแล้ว
แม้คาดว่าผลประกอบการในปีนี้จะปรับลดลง จากผลกระทบ COVID-19 แต่เรามองว่าตลาดรับรู้ไปแล้ว และคาดว่าเมื่อสถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติ PLANB เป็นหนึ่งในบริษัทที่ได้รับประโยชน์มากสุดจากการฟื้น ตัวของอุตสาหกรรมโฆษณา ด้วยส่วนแบ่งตลาดที่สูงสุดในอุตสาหกรรมสื่อป้ายโฆษณา โดยเราประเมินกำไรปี 2564 จะกลับมาเติบโต 53%YoY เราปรับลดมูลค่าพื้นฐานจากเดิมที่ 6.50 เหลือ 5.20 บาท สะท้อนการปรับลดประมาณการกำไร อิงวิธี DCF บนสมมติฐาน WACC ที่ 8.6%
ดูกราฟหุ้น แพลน บี มีเดีย จำกัด (BK:PLANB)
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Yuanta Securities