Key takeaway
KTB (BK:KTB) รายงานกำไรสุทธิช่วง 1Q63 จำนวน 6,082 ลบ. หดตัว 16.7%YoY ตามที่เราคาด แม้มีปัจจัยบวกจากค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่ลดลง 17%YoY เพราะไม่มีตั้งสำรองด้อยค่าสินทรัพย์รอการขายมากเช่นปี ก่อน ทำให้ Cost to Income Ratio ลดลงเหลือเพียง 44.2% เทียบกับ 48.3% ในช่วง 1Q62 แต่ไม่เพียงพอที่จะหักล้างปัจจัยลบจากทั้ง 1) รายได้ดอกเบี้ยรับสุทธิหดตัว 5.9%YoY แม้พอร์ตสินเชื่อยังสามารถเติบโตได้ที่ 4.7%YoY นำโดยสินเชื่อรายย่อยทั้งในส่วนของสินเชื่อส่วนบุคคลและสินเชื่อที่อยู่อาศัยโต 5%YoY และ 15.2%YoY ตามลำดับ และมีปัจจัยบวก จากการปรับใช้มาตรฐานบัญชีใหม่ที่ช่วยให้รับรู้รายได้บางส่วนจากลูกหนี้ที่เป็น NPL และเร่งการรับรู้ดอกเบี้ยรับจากสินเชื่อที่คิดดอกเบี้ยแบบ Step Up Rate เข้ามาเร็วขึ้น รวมถึงต้นทุนทางการเงินที่ต่ำลงจากมาตรการลดเงินนำส่งกองทุน FIDF แต่ปี ก่อน KTB ได้บันทึกรายได้ดอกเบี้ย จากการขายทอดตลาดทรัพย์สินหลักประกันจำนองของลูกหนี้รายหนึ่งจำนวน 3,899 ลบ. ทำให้ฐานของรายได้ดอกเบี้ยรับในปีก่อนสูงกว่าปกติทั้งนี้หากไม่รวมรายการดังกล่าวดอกเบี้ยรับสุทธิ ของ KTB จะโต 11.8%YoY 2) รายได้ที่ไม่ใช้ดอกเบี้ยหดตัว 18.6%YoY หลังรายได้ค่าธรรมเนียมลดลงตามการปรับวิธีรับรู้รายได้ค่าธรรมเนียมตาม TFRS9 และไม่มีบันทึกกำไรจากธุรกรรมอัตราแลกเปลี่ยนเช่นปี ก่อน 3) ค่าใช้จ่ายตั้งสำรองเพิ่มขึ้น 16.3%YoY ซึ่งรวมผลของการปรับวิธีจัดชั้นลูกหนี้ตาม TFRS9 และการสำรองเพิ่มขึ้นตามกระบวนการ Management Overlay เพื่อรองรับการชะลอตัวทาง ศก. ในปีนี้จากผลของการแพร่ระบาดของ COVID-19 โดย ณ สิ้นช่วง 1Q63 KTB มีระดับ NPL Ratio 5.26% ลดเล็กน้อยจากปีก่อน และมี Coverage Ratio 126.5%
Our Take
กำไรช่วง 1Q63 ของ KTB คิดเป็น 22.7% ของประมาณการทั้งปี โดยคาดผลดำเนินงานของ KTB จะเริ่มดีขึ้นในช่วง 2Q63 เนื่องจากคาดการตั้ ้งสำรองในช่วงที่เหลือของปี จะไม่เร่งตัวขึ้นเหมือนในไตรมาสนี้ เพราะมีการปรับสมมุติฐานการชะลอตัวทาง ศก. เข้าไปในแบบจำลอง ECL ไปมากแล้ว และคาดสินเชื่อโครงการภาครัฐฯ จะเริ่มดีดตัวขึ้นตามการเบิกจ่ายงบประมาณเพื่อกระตุ้น ศก. ของภาครัฐฯ ขณะที่แรงกดดันจากค่าใช้จ่ายปีนี้ค่อนข้างน้อยเพราะไม่มีการตั้งสำรองการด้อยค่าของสินทรัพย์และค่าใช้จ่ายสำรองผลประโยชน์ของพนักงานจำนวน 2,374 ลบ. (KTB บันทึกรายการดังกล่าวในช่วง 3Q62) เช่นปีก่อน ทำให้เรายังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2563 ของ KTB ไว้ที่ 26,780 ลบ. หดตัว 8.6%YoY ตามประมาณการเดิม
แม้เราคาดผลดำเนินงานของ KTB ปีนี้จะไม่สดใส แต่ราคาหุ้นได้ปรับตัวลงมาแรงเกินไป จนปัจจุบันซื้อขายที่ระดับ PBV ต่ำเพียง 0.46x อีกทั้งมี Upside ราว 20.2% จากมูลค่าพื้นฐานเดิมปี 2563 ที่13.10 บาท และคาดให้ Div. Yield ปีนี้อีก 6.5% เราจึงยังคงแนะนำ “ซื้อ”
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Yuanta Securities