สัญญาซื้อขายล่วงหน้าหุ้นสหรัฐฯ ทรงตัวหลังวอลล์สตรีทถอยตัว; รอรายงานการประชุมเฟด
ภาวะโรคระบาดในยุโรปและอเมริกา กดดันสายการผลิต Electronic โลก
ภาวะโรคระบาด COVID-19 ทำให้รัฐบาลแต่ละประเทศต้องปิดเมืองเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดโดยเฉพาะอย่างยิ่งในฝั่งอเมริกาและยุโรป ซึ่งเป็นฐานการผลิตสำคัญของสินค้า Electronic โลก ทั้งตลาด Automotive และ Consumer หากพิจารณาภาวะการระบาดในประเทศจีน ภาครัฐใช้ระยะเวลาราว 2-3 เดือนในการควบคุมโรค ก่อนกลับมา Ramp up การผลิตอีกครั้งภายหลังอย่างค่อยเป็นค่อยไป เราคาดภาวะการปิดเมืองในสหรัฐฯ ยุโรป หรืออาจจะรวมถึงอินเดีย น่าจะออกมาในลักษณะคล้ายคลึงกับประเทศจีน แต่อาจควบคุมได้ช้ากว่าจากโครงสร้างรัฐที่แตกต่างกันผลกระทบจากการปิดเมือง คาดกระทบต่อยอดขายและสายการผลิตของกลุ่ม Electronic ทั่วโลกอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย เช่น รถยนต์ IT Gadget หรือ มือถือ ตั้งแต่ปลาย1Q63 ถึง 2Q63 เป็นอย่างน้อย และหากสถานการณ์โรคระบาดลากยาวอาจกระทบถึง3Q63 หรือจนกว่าการผลิตจะกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง
ค่าเงินบาท/USD อ่อนค่า ช่วยหนุน แต่อาจไม่เพียงพอประคองกำไร
ค่าเงินบาท/USD YTD อยู่ที่ 33.00 อ่อนค่าอย่างมีนัยสำคัญ เทียบกับระดับ 30.00 ในช่วงต้นปีหนุนทั้งยอดขายและอัตราการทำกำไรของกลุ่ม อย่างไรก็ดี ภาวะตลาด lectronic และภาคการผลิตที่ชะลอตัวแรงทั่วโลก ทำให้ปัจจัยหนุนดังกล่าวไม่ส่งบวกเต็มที่ขณะที่ค่าใช้จ่าย Fixed Cost อาจลดได้บ้างบางส่วน แต่เชื่อว่าไม่อาจชดเชยยอดขายที่ชะลอตัวแรงได้เราคาด COVID-19 กดดันกำไรของกลุ่มมากกว่าช่วงสงครามการค้าในปี 2562 เนื่องจากเป็นผลกระทบจากตลาดทั่วโลก หากอิงยอดขาย ณ สิ้นปี2562 DELTA มียอดขายในสหรัฐฯและยุโรปกว่า 50% ขณะที่ KCE มียอดขายในสองทวีปรวมกันกว่า 70% ย่อมได้รับผลกระทบโดยตรง นอกจากนี้ อุตสาหกรรม Electronic มีโอกาสเกิดภาวะ Supply Shortage สูง หากสถานการณ์ลากยาวเกิน 1 ไตรมาส เนื่องจากผู้ประกอบการส่วนใหญ่ในอุตสาหกรรมมี Inventory รองรับการผลิตเฉลี่ยราว 2-3เดือน
ปรับลดคาดการณ์กำไรและราคาเหมาะสมของ KCE และ DELTA
เราปรับลดประมาณการกำไรปกติของ KCE ลง 46% จากโตแรง 83% YoY เป็นทรงตัวที่ 821 ล้านบาท (-1.8% YoY) และปรับลดประมาณการกำไรปกติของ DELTA ลง 41% จากโต 47% YoY เป็น2.6 พันล้านบาท (-13.5% YoY)อย่างไรก็ดี ภาวะโรคระบาดเป็นเหตุการณ์ชั่วคราวเท่านั้นและไม่ได้สะท้อนศักยภาพการทำกำไรที่แท้จริงของ KCE ที่เราประเมินราว 1.5 พันล้านบาทต่อปี และDELTA ที่ราว 4 พันล้านบาทต่อปี ในภาวะปกติภายใต้ค่าเงินบาท (HN:THB)/USD 32.00เราเลือกประเมินมูลค่าเหมาะสมด้วยราคาเฉลี่ยระหว่างปี 2563-2564 เพื่อให้สะท้อนทั้งผลกระทบจาก COVID-19 ซึ่งเป็นเหตุกาณ์พิเศษและศักยภาพการทำกำไรที่แท้จริงของบริษัทฯ ส่งผลให้เราปรับลดราคาเหมาะสม KCE และ DELTA ลงเป็น 21.50 บาทต่อหุ้น และ 47.30 บาทต่อหุ้นตามลำดับ (ตารางที่ 3-4) ในด้านบวก งบดุลของทั้ง KCE และ DELTA แข็งแกร่งเป็น Net cash ทำให้สามารถทนแรงต้านทานในช่วงเวลายากลำบากได้ไม่ยาก
ปรับน้ำหนักเป็น Underweight ... รอสะสมเมื่อโรคระบาดถกูกควบคุมได้
ราคาหุ้นทั้งสองตัวปรับตัวลงแรงในรอบ 1 เดือน KCE -48% และ DELTA -44% ตามภาวะตลาดที่ถูกดดันจาก COVID-19 หากพิจารณากำไรในปี 2563 ราคาหุ้นไม่ถูก แต่หากพิจารณาบนฐานกำไรปกติในช่วงไม่เกิดโรคระบาด หุ้น ทั้งสองตัว ซื้อ ขาย บน PER เพียง 10x ดังนั้นหากโรคระบาดถูกควบคุมได้และการผลิตกลับมาปกติอีกครั้ง หุ้นมีโอกาสกลับไปซื้อ ขาย ที่ระดับกำไรปกติในเชิงกลยุทธ์ เราแนะนำให้รอการแพร่ระบาดในตลาด US และยุโรป ถูกควบคุมได้ก่อนกลับเข้าลงทุนอีกครั้ง หรือ สัญญาณการค้นพบยาต้านไวรัส หรือ ยารักษาอย่างเป็นทางการจาก WHOความเสี่ยงของกลุ่มได้แก่ 1) Sentiment การค้าโลก 2) โรคระบาดในยุโรปและUSA ลากกยาวกว่าคาด และ 3) ค่าเงิน/USD ที่แข็งค่าเกินกว่า 30.00
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Yuanta Securities
