กราฟเด่นประจำวันนี้: ดัชนีดอลลาร์สหรัฐกำลังปรับฐานเป็นสลับฟันปลาก่อนตั้งเทรน

ในช่วงเช้าของวันจันทร์ที่ผ่านมาธนาคารกลางสหรัฐฯ สร้างความประหลาดใจให้กับนักลงทุนอีกครั้งด้วยการหั่นอัตราดอกเบี้ยลงอีก 100 จุดเบสิสเหลืออัตราดอกเบี้ยเพียง 0% ครั้งแรกนับตั้งแต่วิกฤตทางการเงินปี 2008 นอกจากนั้นธนาคารกลางสหรัฐฯ ยังได้อัดฉีดเงินเข้าไปอีก $70,000 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อช่วยพยุงพันธบัตรรัฐบาล

ดัชนีดอลลาร์สหรัฐร่วงลงมาจากการปรับตัวขึ้นของดัชนีเมื่อวันศุกร์ 1.3% ถือเป็นการจบสถิติการปรับตัวขึ้นที่ดีที่สุดนับตั้งแต่ปี 2008 ปัจจัยทางด้นพื้นฐานค่อนข้างจะคาดการณได้ไม่ยากว่าดัชนีจะยังคงได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ต่อไป แต่ภาพการวิเคราะห์ทางเทคนิคนั้นยังไม่ชัดเจน

กราฟดัชนีดอลลาร์สหรัฐรายวัน

ดัชนีดอลลาร์สหรัฐสามารถวิ่งกลับมาอยู่ในกรอบราคาขาขึ้น (เส้นสีเขียว) ที่ลากมาตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปี 2018 ได้อีกครั้งและในขณะเดียวกันราคาก็กำลังปรับฐานเป็นรูปแบบสามเหลี่ยมปากกว้าง หากมองว่ากราฟอยู่ในรูปแบบขาขึ้นก็สามารถพิจารณาการวิ่งในกรอบราคาสีเขียวได้แต่หากมองว่ากราฟอยู่ในแนวโน้มขาลงก็สามารถพิจารณาจากกรอบสามเหลี่ยมปากกว้างได้เช่นกัน

แต่เพราะว่ารูปแบบนี้เกิดในแนวโน้มขาขึ้นประกอบกับสถานการณ์ไวรัสโคโรนา เราจึงต้องพิจารณาว่ากราฟน่าจะออกมาเป็นขาลงเอาไว้ก่อน นักลงทุนขาขึ้นเริ่มหมดความอดทนเมื่อจุดต่ำสุดไม่สามารถปรับตัวสูงขึ้นได้ พวกเขาจึงเปลี่ยนไปเข้าร่วมกันฝั่งแนวโน้มขาลงแทน ยิ่งไปกว่านั้นการที่มวลรวมในตลาดยังอยู่ในแนวโน้มขาลง ในทางปฏิบัติแล้วขาลงควรจะเป็นอะไรที่น่าเชื่อถือมากกว่าขาขึ้น แรงขาขึ้นในตอนนี้จะกลายเป็นเพียงการปรับฐานเพื่อลงต่อเท่านั้น

การที่ตลาดสินทรัพย์ล่วงหน้าสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงเมื่อวาน 5% ด้วยเป็นการบอกเป็นนัยว่าตลาดดัชนีจะปรับตัวลดลงต่อไปตราบเท่าที่โลกยังหาวิธีแก้ไวรัสโคโรนาไม่ได้และเรายังต้องเห็นข่าวร้านค้าทยอยปิดตัวและคนตกงานกันมากขึ้น ในวิกฤตครั้งก่อนหน้าสกุลเงินดอลลาร์เคยเป็นสินทรัพย์สำรองที่ปลอดภัยที่สุดซึ่งเราก็อยากให้สถานการณ์ในวันนี้เป็นเช่นนั้น แต่ก่อนที่วันนั้นจะมาถึงรูปแบบการวิ่งของราคาจะต้องไม่ใช่ลักษณะสามเหลี่ยมปากกว้างเช่นนี้

กลุยุทธ์การเทรด

เทรดเดอร์ที่ไม่ชอบความเสี่ยง จะรอจนกว่ากราฟจะสร้างจุดสูงสุดใหม่ที่เหนือกว่าจุดสูงสุดเก่า และจุดต่ำสุดใหม่ต้องยกตัวสูงขึ้นกว่าจุดต่ำสุดก่อนหน้าด้วยก่อนที่จะตัดสินใจเข้าซื้อ ขาลงก็เช่นกันพวกเขาจะรอให้เกิดรูปแบบในทางตรงกันข้าม

เทรดเดอร์ที่รับความเสี่ยงได้ปานกลาง จะตัดสินใจเข้าซื้อหลังจากกราฟทะลุกรอบด้านบนขึ้นไปได้หรือรอให้ดัชนีลงมาต่ำกว่า 95 หรือทะลุ 100 ขึ้นไป และในทางกลับกันพวกเขาก็จะวางคำสั่งขายเมื่อกราฟหลุดกรอบด้านล่างลงมาได้

เทรดเดอร์ที่รับความเสี่ยงได้สูง จะเข้าซื้อเมื่อราคาวิ่งกลับลงไปยังจุดต่ำสุดของรูปแบบและสามารถทะลุแนวต้านด้านบนขึ้นไปได้ด้วย

ตัวอย่างการเทรด

จุดเข้า: 95.00

Stop-Loss: 94.00

ความเสี่ยง: 100 จุด

เป้าหมายในการทำกำไร:100.00

ผลตอบแทน: 500 จุด

อัตราความเสี่ยงต่อผลตอบแทน: 1:5