การหั่นอัตราดอกเบี้ยของเฟด 50 จุดเบสิสไม่สามารถส่งดอลลาร์และตลาดหุ้นขึ้นสูงได้

เผยแพร่ 04/03/2563 14:28
อัพเดท 09/07/2566 17:31
EUR/USD
-
USD/JPY
-
DJI
-
DX
-
CL
-

ภาพรวมตลาดฟอเร็กซ์รายวัน: 04 มีนาคม 2020

โดยคุณเคธี่ เหลียน กรรมการผู้จัดการวางกลยุทธ์การลงทุนในตลาดฟอเร็กซ์ของบริษัทจัดการสินทรัพย์บีเค

การประชุม G7 ถูกแย่งซีนไปด้วยการลดอัตราดอกเบี้ย 50 จุดเบสิสฉุกเฉินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ถือเป็นการลดอัตราดอกเบี้ยอย่างไม่บอกกล่าวครั้งแรกของเฟดนับตั้งแต่วิกฤติทางการเงินในปี 2008 ในขณะที่ผลการประชุม G7 ไม่ได้ผิดไปจากที่นักลงทุนคาดการณ์เท่าไหร่ พวกเขาพูดถึงเพียงว่าทางกลุ่มมีมาตรการมีเครื่องมือเยียวยาที่พร้อมดำเนินการได้ทุกเมื่อซึ่ง G7 ไม่ได้บอกออกมาตรงๆ ว่าพวกเขามีแผนจะดำเนินการเป็นขั้นเป็นตอนอย่างไรบ้าง

การเคลื่อนไหวของธนาคารกลางสหรัฐฯ ครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าธนาคารกลางฯ ไม่ได้เป็นห่วงเฉพาะเศรษฐกิจที่โดนไวรัสโคโรนาเข้ามากระทบแต่ยังเป็นห่วงสถานการณ์ในตลาดหุ้นอีกด้วย นายเจอโรม พาวเวลล์ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ กล่าวหลังจากตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยฉุกเฉินว่า “ไวรัสโคโรนาได้เข้ามาแทรกแซงระบบเศรษฐกิจของหลายๆ ประเทศและดูเหมือนว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจทั้งหลายจะต้องอยู่ร่วมกับไวรัสโคโรนาไปอีกสักระยะ” วงกว้างของผลกระทบจากไวรัสโคโรนายังไม่สามารถสรุปออกมาเป็นภาพอย่างชัดเจนได้ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจขนาดใหญ่จึงทำให้เฟดตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อช่วยเหลือเศรษฐกิจเอาไว้ก่อน

นายเจอโรม พาวเวลล์ยังกล่าวเสริมอีกว่าเขาเชื่อมั่นในมาตรการจากการประชุม G7 จะยังเป็นตัวแปรสำคัญที่จะช่วยพยุงเศรษฐกิจไว้และการลดอัตราดอกเบี้ยจากธนาคารกลางฯ ของอีกหลายๆ ประเทศกำลังจะตามมา เฟดยังทิ้งท้ายไว้อีกว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจพิจารณาลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกถ้าตลาดหุ้นยังคงไม่สามารถฟื้นตัวกลับคืนมาได้หรือภาพรวมทางเศรษฐกิจแย่ลงไปกว่านี้

สกุลเงินดอลลาร์ขานรับต่อการตัดสินใจของเฟดในทันที กราฟยูโรเทียบดอลลาร์ ดอลลาร์เทียบเยนและคู่สกุลเงินอื่นๆ ที่จับคู่กับดอลลาร์ปรับตัวลดลง การขยับตัวครั้งนี้ของสกุลเงินดอลลาร์เป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์แม้ว่าจะช๊อคเล็กน้อยที่ตัดสินใจลดลงมากถึง 50 จุดเบสิส ทันทีที่มีการประกาศตลาดหุ้นก็ปรับตัวสูงขึ้นแต่เมื่อเข้าใกล้ช่วงตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ ปิดดัชนีดาวโจนส์ก็ร่วงลงมากกว่า 800 จุดอีกครั้ง

เพราะปัญหาจริงๆ อยู่ที่การลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางฯ ไม่ได้ช่วยให้ไวรัสโคโรนาหายไปจากโลกนี้ แม้ว่าการกระทำของเฟดอาจช่วยบรรเทาทุกข์ของนักลงทุนได้บ้าง แต่พวกเขาก็รู้ดีว่านี่เป็นการแก้สถานการณ์เฉพาะหน้าไปอย่างนั้น นักลงทุนบางคนคาดหวังไปถึงการตัดสินใจของธนาคารกลางในเดือนเมษายนแล้ว ในขณะที่บางคนมองข้ามการประชุมเพื่อลดอัตราดอกเบี้ยตามตารางของเฟดในวันที่ 18 มีนาคมนี้ไปเลยด้วยซ้ำ คำถามสำหรับนักลงทุนในตอนนี้คือ “รายต่อไปที่จะลดอัตราดอกเบี้ยคือใคร?”

เมื่อวานนี้ก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะลดอัตราดอกเบี้ยฉุกเฉิน ออสเตรเลียได้ประเดิมการลดอัตราดอกเบี้ยไปก่อนแล้ว 25 จุดเบสิส การตัดสินใจของธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) นั้นไม่เหมือนกับเฟด RBA ตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยเพราะพวกเขาทราบดีว่าผลกระทบที่เกิดขึ้นกับเศรษฐกิจจะส่งผลมหาศาลต่อตัวเลขการเติบโตของ GDP ในไตรมาสนี้มากแค่ไหนในขณะที่เฟดตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อตัดไฟเสียแต่ต้นลม ถึงกระนั้นพวกเขาทั้งคู่ก็พร้อมที่จะลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม

ธนาคารกลางแห่งแคนาดา (BoC) คือรายถัดไปที่จะต้องจับตาดูซึ่งพวกเขามีประกาศนโยบายทางการเงินในคืนวันนี้ จากข้อมูลในตารางด้านล่างจะเห็นได้ว่าอันที่จริงแล้วตัวเลขไม่ได้ดูแย่เท่าไหร่นักแต่ตลาดได้ตัดสินใจล่วงหน้าแทนธนาคารกลางฯ ไปแล้วด้วยการหั่นตัวเลขบางรายการลง ทีนี้ก็ต้องมารอดูกันว่านายสตีเฟ่น โปลอซ (Stephen Poloz) ผู้ว่าการธนาคารกลางแห่งแคนาดาจะยึดตามข้อมูลตัวเลขนี้ได้มากน้อยแค่ไหน ราคาน้ำมันดิบและตลาดหุ้นแคนาดาร่วงลงอย่างรวดเร็ว ในเวลานี้ธนาคารกลางแคนาดาอาจไม่มีทางเลือกมากนักในการช่วยพยุงเศรษฐกิจฯ และคงจะเป็นความผิดพลาดอย่างมหาศาลหากพวกเขาเลือกที่จะไม่สนใจข้อมูลตัวเลขในตารางนี้

ธนาคารกลางในประเทศอย่างญี่ปุ่นและอังกฤษออกมาแสดงจุดยืนอย่างชัดเจนแล้วว่าพวกเขาพร้อมที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจในขณะที่ธนาคารกลางแห่งสหภาพยุโรป (ECB) ยังไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ นักลงทุนบางคนเชื่อไปแล้วว่ามีโอกาสสูงเกิน 90% ที่ตัวเลขอัตราดอกเบี้ยจะเข้าสู่แดนลบหากธนาคารกลางเหล่านี้ตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยขึ้นมา ในตอนนี้ธนาคารกลางมีทางเลือกไม่มากและก็ไม่สามารถปล่อยให้เศรษฐกิจจมลงสู่ก้นเหลวโดยไม่ทำอะไรได้ จากการตัดสินใจของเฟดและการปรับตัวลงของดัชนีดาวโจนส์ก่อนปิดตลาดเชื่อว่าตลาดหุ้นและดอลลาร์สหรัฐจะยังไม่ฟื้นขึ้นมาง่ายๆ กราฟ USD/JPY มีโอกาสลงไปถึงระดับราคา 107

ข้อมูลตัวเลขทางเศรษฐกิจของแคนาดา

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย