ในช่วงเช้าของวันอังคารดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลดลง 1.57% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงแรงที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม สาเหตุที่ดัชนีดาวโจนส์ต้องปรับตัวลงมาเพราะความวิตกกังวลต่อไวรัสสายพันธุ์ใหม่โคโรนา ประกอบกับดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นมาเป็นเวลานานทำให้นักลงทุนขาลงอาศัยจังหวะนี้ในการเทขาย
อย่างไรก็ตามเรามองว่าขาลงในครั้งนี้เป็นขาลงที่ออกจะเกินความเป็นจริงไปหน่อย แต่ไหนแต่ไรตั้งแต่อดีตเวลาที่เกิดโรคระบาดขึ้นเราจะพบว่าโรคระบาดไม่ได้สร้างผลกระทบต่อสภาพเศรษฐกิจมากเท่ากับที่คนวิตก เราจึงเชื่อว่ากราฟปรับตัวลงในครั้งนี้เป็นโอกาสอันดีให้ดัชนีดาวโจนส์ได้ปรับฐานซึ่งกราฟทางเทคนิคของดัชนีดาวโจนส์ได้แสดงสัญญาณของแนวโน้มขาลงออกมาแล้ว
แม้ว่าดาวโจนส์จะมีราคาเปิดสูงขึ้น 0.3% แต่ราคาก็ยังอยู่ใต้เส้นแนวโน้มขาขึ้นที่ทะลุลงมาอยู่ดี การทะลุลงมาของราคาในครั้งนี้ไม่ใช่ทะลุเส้นแนวโน้มขาขึ้นที่ลากมาตั้งแต่วันที่ 3 ธันวาคมเท่านั้นแต่ยังลงมาอยู่ใต้เส้นแนวโน้มขาขึ้นที่ลากมาตั้งแต่จุดต่ำสุดของราคาในวันที่ 3 ตุลาคมด้วย
อย่างไรก็ตามเส้นค่าเฉลี่ย 50DMA ที่ทำหน้าที่เป็นแนวรับจุดต่ำสุดเมื่อวันที่ 31 ธันวาคมซึ่งในบริเวณนั้นจะสังเกตเห็นได้ว่าจุดปิดของแท่งเทียนในวันนั้นมีราคาเท่ากันกับราคาเปิด ลักษณะการวิ่งของราคาแบบนี้แสดงให้เห็นถึงการไม่มีทิศทางของราคาที่ชัดเจนและรูปแบบนี้มักปรากฏก่อนที่ราคาจะมีการกลับตัว
อินดิเคเตอร์ RSI ปรับตัวลดลงต่ำกว่าเส้นแนวโน้วขาขึ้นที่ลากมาตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม ยิ่งไปกว่านั้นอินดิเคเตอร์ยังแสดงให้เห็นถึงรูปแบบไดเวอร์เจนต์ขาลงซึ่งแสดงให้เห็นว่าแนวโน้มขาขึ้นมีความผิดปกติมาตั้งแต่จุดสูงสุดของราคาในวันที่ 18 พฤศจิกายนและ 17 มกราคมแล้ว
ถ้าแนวรับที่ราคา 28,375 จุดซึ่งเป็นจุดต่ำสุดของราคาในวันที่ 31 ธันวาคมไม่สามารถดันราคาขึ้นไปได้ ดัชนีดาวโจนส์มีโอกาสปรับตัวลงไปที่ 28,000 จุดซึ่งเคยเป็นระดับแนวต้านที่สำคัญของดาวโจนส์มาก่อนและมีแนวรับถัดไปอยู่ที่ 27,400 จุดซึ่งเป็นจุดต่ำสุดของราคาในวันที่ 2 ธันวาคมซึ่งอดีตเคยเป็นแนวต้านที่สำคัญเช่นกัน
กลยุทธ์การเทรด
เทรดเดอร์ที่ไม่ชอบความเสี่ยง จะรอดูรูปแบบยืนยันขาลงของแท่งเทียน “peaks and troughs” ก่อนที่จะตัดสินใจวางคำสั่งขาย หรือไม่พวกเขาจะรอให้ราคาสร้างจุดสูงสุดใหม่ที่ต่ำกว่าเดิมและการเกิดจุดสูงสุดนี้ต้องเกิดขึ้นเหนือเส้นแนวโน้มขาขึ้นด้วย ก่อนจะตัดสินใจวางคำสั่งขาย
เทรดเดอร์ที่รับความเสี่ยงได้ปานกลาง จะรอดูรูปแบบการกลับตัวของแท่งเทียนที่เมื่อนำมาเทียบกับจุดสูงสุดของราคาเมื่อวันก่อนจะต้องเป็นจุดสูงสุดที่ปรับตัวลดลง ที่สำคัญกราฟต้องมีราคาปิดต่ำกว่า 28,375 จุดซึ่งเป็นจุดต่ำสุดในวันที่ 31 ธันวาคมด้วย จากนั้นจะรอให้ราคาดีดกลับมาทดสอบแนวต้านแล้วจึงวางคำสั่งขาย
เทรดเดอร์ที่รับความเสี่ยงได้สูง อาจจะวางคำสั่งซื้อเพื่อทำกำไรในระยะสั้นๆ โดยทราบดีว่าขาขึ้นที่ดีดกลับขึ้นมานั้นเป็นเพียงขาขึ้นสั้นๆ เพราะข่าวไวรัสโคโรนาอาจจะหลอกหลอนตลาดลงทุนไปอีกสักระยะ ก่อนที่จะวางคำสั่งขายเมื่อราคาขึ้นมาถึงแนวต้าน 28,800 จุด
ตัวอย่างการเทรด (สำหรับการวางคำสั่งขาย)
- จุดเข้า: 28,800
- Stop-Loss: 29,000
- ความเสี่ยง: 200 จุด
- เป้าหมายในการทำกำไร:28,200
- ผลตอบแทน: 600 จุด
- อัตราความเสี่ยงต่อผลตอบแทน: 1:3