รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

กราฟเด่นประจำวันนี้: ผลประกอบการของ IBM จะช่วยให้กราฟหลุดพ้นจากตลาดหมีได้หรือไม่

เผยแพร่ 22/01/2563 12:05

บริษัทผู้ผลิตคอมพิวเตอร์และให้บริการด้านคอมพิวเตอร์และสารสนเทศชื่อดัง IBM (International Business Machines (NYSE:IBM)) จะมีรายงานผลประกอบการหลังจากตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ ปิดทำการในวันนี้ นักวิเคราะห์มองว่าตัวเลขผลประกอบการในไตรมาสสุดท้ายของ IBM ในปี 2019 จะลดลงจาก $4.87 ต่อหุ้นเหลือ $4.69 ต่อหุ้น ส่วนตัวเลขผลกำไรที่ทำได้จะลดลงจาก $21,730 ล้านสหรัฐในปีก่อนหน้าเหลือ $21,640 ล้านเหรียญสหรัฐ

จากการติดตามและตรวจสอบตัวเลขผลประกอบการของบริษัท IBM มานานหลายปีของนักวิเคราะห์พบว่ามี 17 ไตรมาสที่ตัวเลขผลกำไรต่อหุ้นสามารถเอาชนะการคาดการณ์ของนักลงทุนได้แต่มีถึง 11 ครั้งที่บริษัทไม่สามารถทำผลกำไรได้ตามเป้า

บริษัท IBM ต้องเผชิญกับความท้าทายในการให้คำตอบกับผู้ถือหุ้นว่าทำไมหุ้นของ IBM จึงปรับตัวลดลงตั้ง 12% ในช่วง 5 ปีหลังสุดในขณะที่บริษัทกลุ่มเทคโนโลยีอื่นๆ อย่างเช่น Microsoft (NASDAQ:MSFT)) และ Salesforce (NYSE:CRM) กลับมีกำไรเพิ่มขึ้นมากถึง 200% ในช่วงเวลา 5 ปี เดียวกัน

ย้อนกลับไปศึกษาประวัติศาสตร์สักเล็กน้อย...บริษัท IBM หรือที่มีชื่อเล่นว่า “บิ๊กบลู” เป็นหนึ่งในไม่กี่บริษัทที่สามารถรอดพ้นมาจากยุคนิวมิลเลนเนียลได้ในขณะที่บริษัทเทคโนโลยีอื่นๆ ในสมัยนั้นล้วนแล้วต่างล้มหายตายจากไปกันหมดสิ้น สิ่งที่ทำให้บริษัท IBM โดดเด่นกว่าคู่แข่งอื่นๆ ในยุคนั้นคึอการสร้างซอฟท์แวร์ ในยุคนี้ที่กำลังให้ความสนใจกับเทคโนโลยีคลาวด์ทำให้บริษัท IBM หันมาสนใจที่จะทำเทคโนโลยีนี้ด้วยเช่นกันแต่ดูเหมือนว่าจะช้าไปหลายก้าวเมื่อเทียบกับบริษัทอย่าง Amazon (NASDAQ:AMZN), Alphabet เจ้าของกูเกิ้ล (NASDAQ:GOOGL) และ Microsoft

การที่ IBM จะสามารถกลับมาสู่เกมได้พวกเขาจำเป็นที่จะต้องพิสูจน์ให้โลกเห็นว่าแม้จะแก่แต่พวกเขาก็ยังเก๋าและมีกำลังมากพอที่จะสร้างธุรกิจคลาวด์ขึ้นมาแข่งขันได้ แล้วนักลงทุนละ...เชื่อว่า IBM จะสามารถกลับมาได้หรือไม่?กราฟรายวันของหุ้น IBM

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาหุ้นของบริษัท IBM สามารถปิดตัวเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200DMA โดยมีราคาปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 6 พฤศจิกายน ในวันที่ 2 ราคาก็ยังสามารถปิดตัวสูงขึ้นได้อีกโดยกราฟสามารถมีราคาปิดเหนือเส้นแนวโน้มขาลงที่เป็นเส้นประซึ่งลากมาตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม เมื่อนำเหตุผลทั้งสองมาประกอบกันจึงมีโอกาสเป็นไปได้กราฟอาจเปลี่ยนเป็นแนวโน้มขาขึ้นจากรูปแบบหัวไหล่กลับหัว (Inverted Head & Shoulder) อย่างไรก็ตามอินดิเคเตอร์ MACD และ RSI กลับเห็นไม่ตรงกับราคาเพราะอินดิเคเตอร์ได้ปรับตัวขึ้นมาอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นอยู่ก่อนสักระยะแล้วกราฟรายเดือนของหุ้น IBM

เมื่อลองออกมามองภาพรวมที่กว้างขึ้นจะเห็นว่าตั้งแต่กราฟ IBM ขึ้นไปสร้างจุดสูงสุดไว้ที่ $215 ในเดือนมีนาคมปี 2013 หุ้น IBM ก็ไม่เคยกลับไปสู่จุดนั้นได้อีกเลยและยังคงปรับตัวเป็นแนวโน้มขาลงระยะยาวนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

แม้กราฟจะไม่เคยเจาะเส้นแนวโน้มขาขึ้นลงมาได้สักครั้ง แต่การที่จุดสูงสุดของราคาค่อยๆ ปรับตัวลดระดับลงมาแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มขาลงที่ก่อตัวมาสักระยะแล้ว ยิ่งถ้ากราฟสามารถทะลุเส้นแนวโน้มขาขึ้นนี้ลงมาได้จะยิ่งเป็นการยืนยันถึงแนวโน้มขาลงระยะยาว ยิ่งสถานการณ์ของบริษัทในปัจจุบันที่ถือว่าเป็นผู้ตามในเรื่องของธุรกิจคลาวด์แม้ว่าตัวเลขผลประกอบการจะออกมาเป็นเช่นไรก็อาจไม่ช่วยให้สถานการณ์ของ IBM ดีขึ้นไปมากกว่านี้

ถ้าผลประกอบการที่ออกมาสะท้อนให้เห็นว่ากลยุทธ์การเปลี่ยนมาทำธุรกิจคลาวด์นั้นสายเกินไปแล้วและคงไม่ใช่ทางออกของบริษัทในขณะนี้ เราอาจจะได้เห็นรูปแบบหัวไหล่ของขาลงแทนโดยมีเป้าหมายของราคาอยู่ที่เส้นแนวโน้มขาขึ้นที่ลากมาตั้งแต่ปี 1993

กลยุทธ์การเทรด (สำหรับขาลง)

เทรดเดอร์ที่ไม่ชอบความเสี่ยง จะรอให้ราคาสามารถเจาะแนวรับได้อย่างน้อย 3% หลังจากนั้นจะรอให้ราคาดีดกลับมาทดสอบแนวต้านที่อยู่ใต้ neckline อีกครั้ง

เทรดเดอร์ที่รับความเสี่ยงได้ปานกลาง หลังจากที่กราฟสามารถเจาะเส้น neckline ได้ 2% เขาจะรอให้กราฟดีดกลับมาเพื่อหาจุดเข้าที่เหมาะสมโดยไม่รอการยืนยันของแนวโน้มขาลง

เทรดเดอร์ที่รับความเสี่ยงได้สูง จะเสี่ยงวางคำสั่งขายทันทีที่กราฟเจาะแนวรับได้หรืออาจจะรอให้กราฟดีดกลับมาอีกครั้งเพื่อหาจุดเข้าใกล้กับแนวต้าน

ตัวอย่างการเทรด

- จุดเข้า: $132
- Stop-Loss: $134
- ความเสี่ยง: $2
- เป้าหมายในการทำกำไร:$126
- ผลตอบแทน: $6
- อัตราความเสี่ยงต่อผลตอบแทน: 1:3

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย