บริษัทโบอิ้ง ( Boeing Co (NYSE:BA) ได้ไล่นายนายเดนนิส มุยเลนเบิร์กอดีตผู้ดำรงตำแหน่ง CEO ออกหลังจากที่โบอิ้งต้องเผชิญกับวิกฤติศรัทธาอันเกิดจากเหตุเครื่องบินรุ่น 737 แม็กซ์ตกถึงสองครั้งในระยะเวลา 14 เดือนคร่าชีวิตผู้โดยสารไปมากถึง 340 คน
แม้ว่าทางบริษัทจะไล่นายเดนนิสออกไปแล้วและแต่งตั้งนายเดวิด คาลฮูนหนึ่งในบอร์ดบริหารของบริษัทมานานกว่า 10 ปีขึ้นมาดำรงตำแหน่ง CEO แทนแต่นักลงทุนก็ยังมีความเป็นกังวลว่าบริษัทโบอิ้งจะห่วงในเรื่องของการทำกำไรมาก่อนความปลอดภัยของผู้โดยสาร นอกจากนี้ครอบครัวของผู้เสียชีวิตต้องการให้บริษัทโบอิ่งทำการปรับปรุงแก้ไขข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้ันพร้อมทั้งเรียกร้องให้บริษัทมีระบบการดำเนินการที่ดีกว่านี้
หุ้นโบอิ้งปรับตัวลดลงมากกว่า 20% นับตั้งแต่อุบัติเหตุเครื่องบินรุ่น 737 แม็กซ์ตกลงสู่พื้นเมื่อวันที่ 10 มีนาคม การลาออกของนายเดนนิส มุยเลนเบิร์กจะช่วยให้หุ้นของบริษัทโบอิ้งกลับตัวขึ้นมาได้? หรือความมั่นใจของนักลงทุนจะกลับมาหลังจากที่เขาลาออกไป? ส่วนตัวแล้วเราคิดว่าไม่น่าจะเป็นอย่างนั้น
แม้ว่าหุ้นโบอิ้งจะดีดตัวกลับขึ้นมาทันที 2.9% หลังจากที่ตลาดได้ทราบข่าวการลาออกแต่กราฟก็ต้องมาติดแนวต้านของเดือนธันวาคม ถ้ากราฟสามารถเจาะแนวต้านนี้ขึ้นไปได้เชื่อว่าราคาของหุ้นโบอิ้งจะปรับตัวสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แต่ในทางกลับกันถ้ากราฟกลับลงไปยังบริเวณแนวรับ $322 กราฟจะยังคงต้องอยู่ในรูปแบบธงขาขึ้น (Rising Flag) ต่อไปซึ่งเป็นรูปแบบพฤติกรรมราคาที่เกิดขึ้นจากการร่วงลงของหุ้น 8.25% ในช่วงสองวันระหว่างวันที่ 13 ธันวาคมและ 16 ธันวาคม 2019
พฤติกรรมรูปแบบราคานี้แสดงให้เห็นว่าแรงขาขึ้นใกล้ถึงจุดอิ่มตัวแล้ว นักลงทุนเริ่มรู้สึกอึดอัดกับแรงขาขึ้นแบบนี้และแรงเทขายในหุ้นตัวนี้ยังคงมีอยู่ ถ้ากราฟหุ้นโบอิ้งสามารถทะลุกรอบราคาของรูปแบบธงลงไปได้จะเป็นสัญญาณบอกถึงการเดินหน้าต่อของแรงขาย แสดงให้เห็นว่าแรงขายยังพร้อมที่จะดันราคาหุ้นให้ร่วงลงต่ำไปกว่านี้อีก
แรงขาลงในครั้งนี้จะทำให้หุ้นโบอิ้งสามารถลงไปยังจุดต่ำสุดของราคาก่อนหน้าที่เคยทำไว้ตอนราคาร่วงลงมา 8.25% ครั้งแรก เป็นสัญญาณยืนยันความแข็งแกร่งที่สำคัญยิ่งของแนวโน้มขาลง
กราฟหุ้นโบอิ้งได้ปรับตัวเป็นรูปแบบหัวไหล่ (Head & Shoulder) ขนาดใหญ่มานานแล้วนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปี 2018 ซึ่งแนวโน้มขาลงเคยพยายามเจาะแนวรับนี้ลงไปแล้วจากเหตุการณ์ที่เครื่องบินตกเป็นครั้งแรกในเดือนตุลาคมปี 2018
กราฟตอนนี้ได้อยู่ใต้เส้นค่าเฉลี่ย 50 และ 100 WMA แล้ว ถ้ากราฟหุ้นโบอิ้งสามารถหลุดแนวรับลงมาต่ำกว่าเส้น neckline ที่ระดับราคา $320 ได้เมื่อไหร่จะเป็นการยืนยันสัญญาณกลับตัวเพื่อเป็นแนวโน้มขาลงทันที จริงอยู่ที่กราฟในตอนนี้อยู่ในรูปแบบธงที่ปรับตัวขึ้นแต่นักลงทุนฝั่งขายที่ไม่มีอะไรจะเสียแล้วจะยินดีเสี่ยงเทขายให้กราฟปรับตัวลงไปอีก ถ้ายังไม่มีคนซื้อช้อนหุ้นสวนกลับขึ้นมาหุ้นโบอิ้งก็จะยิ่งปรับตัวลดลงต่อไปเรื่อยๆ สร้างความตื่นตระหนกให้นักลงทุนในตลาดต่างรีบพากันเทขายหุ้นซ้ำเข้าไปอีกจนราคาอาจจะวิ่งไปถึงแนวรับที่เส้นค่าเฉลี่ย 200 DMA ซึ่งถือเป็นการปรับตัวลงยาวมากถึง $50
กลยุทธ์ในการลงทุน
นักลงทุนที่ไม่ชอบความเสี่ยง จะรอให้กราฟปิดตัวต่ำกว่าระดับราคา $311 เพื่อเป็นการกรองราคาเพิ่มอีกประมาณ 3% ว่่าตรงนั้นจะมีกับดักการดีดตัวขึ้นของราคาหรือไม่ก่อนที่จะวางคำสั่งขายเข้าไปในตลาด
นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ปานกลาง จะรอให้กราฟสร้างรูปแบบธงได้สำเร็จก่อนและรอให้ราคาสามารถปิดตัวต่ำกว่ารูปแบบขาขึ้นของราคาต่อเนื่องเมื่อ 2 วันก่อนด้วย และก็จะรอให้ราคากลับไปทดสอบแนวต้านของรูปแบบธงอีกหนึ่งครั้ง
นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง ตัดสินใจวางคำสั่งขายได้เลยตอนนี้แต่ต้องยอมรับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้เพราะราคายังไม่ได้สร้างรูปแบบยืนยันขาลงอย่างสมบูรณ์ นอกจากนี้ยังต้องมีแผนรับมือการลงทุนและมีจุดออกตามอัตราส่วนความคุ้มค่าของการลงทุนตามระบบเทรดอย่างเคร่งครัด
ตัวอย่างการลงทุน
- จุดเข้า: $340
- Stop-Loss: $341 หรือตัวเลขทั้งหมดที่อยู่สูงกว่าจุดสูงสุดของราคาเมื่อวานนี้
- ความเสี่ยง: $1
- เป้าหมาย: $337 หรือบริเวณแนวรับของฐานรูปแบบธง
- ผลตอบแทน: $3
- อัตราความเสี่ยงต่อผลตอบแทน: 1:3