ค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัวลง แล้วจะมีสิทธิ์แข็งค่าขึ้นไหม?

โดย Kathy Lien กรรมการผู้จัดการด้านกลยุทธ์จาก BK Asset Management

ภาพรวมตลาดฟอเร็กซ์ประจำวันที่ 31 ตุลาคม 2019

นักลงทุนต่างเทขายดอลลาร์สหรัฐในวันนี้อย่างต่อเนื่องเพราะค่าเงินที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินทั้งหมด คู่สกุลเงิน USD/JPY ก็ได้รับผลกระทบหนักเช่นกันแต่ที่เห็นได้ชัดกว่าคือขาลงของค่าเงิน GBP และ NZD นโยบายของเฟดจากประธานพาวเวลล์ที่มีต่อเศรษฐกิจและตลาดแรงงานนั้นต้องถือว่าสอบตกเพราะไม่สามารถทำให้ค่าเงินแข็งค่าขึ้นได้ รายงานรายได้ส่วนบุคคลและการใช้จ่ายส่วนบุคคลในวันนี้ก็ไม่เป็นไปตามที่คาดหวังกันไว้ แต่ที่สำคัญที่สุดคือนักลงทุนต่างก็กังวลว่าตัวเลขของการจ้างงานนอกภาคการเกษตรนั้นก็คงไม่น่าต่างกันสักเท่าไหร่ นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรในเดือนตุลาคมจะเหลืองเพียงแค่ 85,000 ซึ่งลดลงจากเดือนกันยายนที่สูงถึง 136,000 ตามที่ได้ติดตามรายงานนการจ้างงานนอกภาคการเกษตรล่วงหน้า เราจะเห็นว่ามีความเป็นไปได้สูงที่จะทำให้การจ้างงานนอกภาคการเกษตรชะลอตัวในเดือนนี้ และรายงานของสถาบัน ISM และ non-ISM ภาคการบริการก็จะไม่มีกำหนดการปล่อยออกมาจนกว่าจะมีรายงานของการจ้างงานนอกภาคการเกษตร ออกมาก่อน ซึ่งการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดอาทิตย์นี้เป็นสัญญาณของเศรษฐกิจที่อ่อนแอลงแต่อีกด้านพาวเวลล์ก็ออกมายืนยันถึงความแข็งแรงของตลาดแรงงาน แม้ว่าเราคาดการณ์ว่าตัวเลขการจ้างงานอาจชะลอแต่แต่การเปลี่ยนแปลงของการจ้างงานนอกภาคการเกษตรอาจจะไม่น่าหดหู่ตามที่คาดไว้ อย่างไรก็ตามอัตราการเลิกจ้าง ที่ตัวเลขต่ำสุดในรอบ 40 ปีในเดือนที่แล้วน่าจะขยับเพิ่มขึ้นและเรากังวลว่าการเติบโตของค่าจ้างจะต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ได้คาดการณ์ไว้ ซึ่งพวกเขาได้หวังว่าค่าจ้างจะเพิ่มขึ้น 0.3% หลังจากที่สถานการณ์ซบเซาในเดือนกันยายน ถ้ารายงานของการจ้างงานนอกภาคการเกษตรแสดงถึงตัวเลขการจ้างงานที่น้อยกว่า 90,000 ตำแหน่งและรายงานของ รายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมง ออกมาที่ 0.2% หรือต่ำกว่านั้น เชื่อได้เลยว่าโอกาสที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐจะแข็งค่าขึ้นนั้นคือศูนย์ คู่สกุลเงิน USD/JPY จะแตะที่ 107.50 ในขณะที่คู่สกุลเงิน EUR/USD ไต่ระดับไปที่ 1.12. ถ้ารายงานการจ้างงานนอกภาคการเกษตร และรายงานรายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงออกมาตรงข้ามกับที่กล่าวไว้ข้างต้น เราก็คงพอจะได้เห็นการฟื้นตัวของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐจากที่กล่าวมารายงานการจ้างงานที่เพิ่มขึ้นจะส่งผลกระทบต่อค่าเงินดอลลาร์น้อยกว่ารายงานที่ไม่แน่นอนเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน มีรายงานว่าทางการจีนมีความสงสัยที่จะลงทุนทางการค้าระยะยาวกับประธานาธิบดีทรัมป์ อ้างอิงจากสำนักข่าวบลูมเบิร์กว่ามีการสนทนาส่วนตัวในปักกิ่ง ซึ่งเจ้าหน้าที่จีนกล่าวว่า ประเด็นที่สำคัญที่จะนำไปสู้การต่อรองไม่ได้มีการพูดถึงแต่อย่างใด Larry Kudlow รีบออกมาชี้แจงกว่า การเจรจานั้นเป็นไปอย่างราบรื่นเพียงแต่อาจมีบางอย่างที่ยังต้องมีการพิจารณากันทั้งสองฝ่าย ซึ่งนี้ทำให้นักลงทุนกังวลว่าการเจรจาทางการค้าอาจล้มเหลวอีกครั้ง ในท้ายที่สุด ข้อผูกพันของสหรัฐฯในการทำข้อตกลงทางการค้าจะชัดเจนขึ้นในการจัดเก็บภาษีศุลกากรในเดือนธันวาคม ถ้าการเก็บภาษีถูกยกเลิกหรือเลื่อนออกไปก่อนนั่นจะเป็นสัญญาณที่ดี แต่ถ้าหากไม่ นั่นก็เป็นสัญญาณที่เลวร้ายเช่นกัน เป็นที่น่าสนใจที่ค่าเงิน AUD และ NZD ต่างก็จะไม่ได้รับผลกระทบจากข่าวนี้เพียงแต่ว่าการทำกำไรในสกุลเงินทั้งสองนั้นอาจจะมีจำกัด

ความคิดเห็นของผู้ที่เชื่อว่าตัวเลขการจ้างงานจะแย่ลง

1. รายงานตัวเลขการเลิกจ้างพนักงาน ที่ -33.5% vs. -24.8%

2. ตัวเลข การขอรับสวัสดิการว่างงานโดยเฉลี่ย 4 สัปดาห์ ที่ขึ้นเพียงเล็กน้อยจาก 212,700 คน เป็น 214,700 คน

3. จำนวนผู้อ้างสิทธิ์การว่างงานอย่างต่อเนื่อง ขึ้นเป็น 1.69 ล้านคน จาก 1.68 ล้านคน

4. ความมั่นใจของผู้บริโภค ลดลง

ความคิดเห็นของผู้ที่เชื่อว่าตัวเลขการจ้างงานจะดีขึ้น

1. รายงานตัวเลขการจ้างงานของ ADP อยู่ที่ 125,000 คน vs. 93,000 คน

2. ดัชนีความเชื่อมั่นของมหาวิทยาลัยมิชิแกน สูงขึ้น

ท้ายนี้ ธนาคารกลางญี่ปุ่นคงอัตราดอกเบี้ยไม่เปลี่ยนแปลงในคืนวันพุธที่ผ่านมา โดยที่พวกเขาได้ลดจำนวนตัวเลขการเติบโตของเศรษฐกิจลง ธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่นได้ประกาศถึงนโยบายการบริหารทางการเงินเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์เงินเฟ้อ Kuroda ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่นกล่าวว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกจะล่าช้าไปครึ่งปีหรือมากกว่านั้น และพวกเขาไม่ลังเลที่จะปล่อยนโยบายผ่อนคลายเพิ่มเติมหากมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น แต่สิ่งนี้ก็ไม่ได้กระทบกับนักลงทุนที่คงอยากจะลงทุนในสกุลเงินเยนของญี่ปุ่น