ดูเหมือนว่าฤดูกาลนี้จะยากสักหน่อยในอุตสาหกรรมน้ำมันและแก๊สในการทำกำไรเพิ่ม ในสถานการณ์ที่น่าหดหู่สำหรับภาคธุรกิจในขณะนี้คือ ราคาพลังงานที่ตกต่ำ อุปสงค์ทั่วโลกที่ซบเซา และมาร์จิ้นที่หดตัวของอุตสาหกรรมเคมี นี่เป็นสาเหตุที่ทำให้นักลงทุนมีความรู้สึกไม่มั่นใจต่อรายได้ในไตรมาสที่สามของ ExxonMobil's (NYSE:XOM) ที่จะรายงานในวันพรุ่งนี้
โดยเฉลี่ยแล้ว นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ยอดขายจะลดลง 19% คิดเป็น 62,310 ล้านเหรียญในขณะที่กำไรน่าจะลดลงมากกว่า 50% เป็น $0.67 ต่อหุ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
เมื่อวันที่ 2 ตุลาคมที่ผ่านมา Exxon ได้ประกาศว่าบริษัทอาจต้องใช้เงินจำนวนห้าร้อยล้านดอลลาร์เนื่องจากราคาน้ำมันที่ลดลงในช่วงนี้ แต่ผลกำไรที่หดลงนั้นน่าเป็นห่วงมากกว่าการที่ราคาน้ำมันลดลงในปีนี้
เนื่องจากสงครามทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ทำให้ความต้องการพลาสติกลดลงซึ่งส่งผลให้แผนกปิโตรเคมีของบริษัทได้รับผลกระทบในเรื่องของการทำผลกำไร ใน ไตรมาสที่ 2 กำไรจากแผนกนี้ลดลงเกือบ 80% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปี 2018 Exxon ออกมากล่าวว่านี่เป็นเพียงปัญหาชั่วคราวของกำลังการผลิตส่วนเกิน
แต่อ้างจากนาย Biraj Borkhataria จาก RBC Capital Market เขาชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มปัจจุบันที่มีการชะลอตัวของอุตสาหกรรมเคมีนั้นเกิดขึ้นเป็นเวลานานพอสมควร
หุ้นภายใต้ความกดดัน
นับตั้งแต่เดือนเมษายน ปี 2019 ที่หุ้นพุ่งไปที่ $83.49 นั้น เมื่อวานหุ้นปิดที่ $67.72 ซึ่งปรับลดลงถึง 19% ในช่วงเวลาเดียวกัน S&P 500 กลับมีผลกำไรถึง 21% แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ได้รับเงินปันผลซะทีเดียว Exxon ได้รับเงินปันผลที่ 5% ซึ่งสูงกว่าเมื่อ 5 ปีที่แล้วถึง 3.5% โดยเฉลี่ย บริษัทจ่ายหุ้นละ $0.87 ต่อไตรมาส ซึ่งเติบโตมากกว่า 5% ต่อปีในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา เราก็หวังว่าในสถานการณ์ไม่ค่อยสู้ดีนี้ Exxon น่าจะสามารถทำผลกำไรในระยะสั้นได้ดีกว่า อย่างไรก็ตามประธานกรรมการบริหาร Darren Woods ก็ออกมาให้ความเชื่อมั่นว่านี่เป็นเวลาที่เหมาะสมสำหรับการลงทุน เนื่องจากบริษัทมีการลงทุนไป 230,000 ล้านเหรียญเพื่อการฟื้นฟูกำลังเจาะน้ำมันโดยมีเป้าหมายทั่วโลกซึ่งรวมไปถึงเหมืองหินในเท็กซัสตะวันตก โรงงานส่งออกแก๊ซธรรมชาติ ในปาปัวนิวกินิ การค้นพบแหล่งพลังงานครั้งใหญ่ในประเทศกายอาราของอเมริกาใต้และการพัฒนาในโมซัมบิกและบราซิลสิ่งที่น่าประทับใจเกี่ยวกับ Exxon คือ เป็นบริษัทผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่รายเดียวของสหรัฐฯ ที่มีกระแสเงินสดครอบคลุมเงินปันผลและการใช้จ่ายด้านเงินทุน ซึ่งทำให้เราคิดว่าจุดแข็งด้านนี้ของบริษัททำให้หุ้นตัวนี้น่าลงทุนและเก็บไว้กินผลระยะยาวนอกจากนี้ Exxon ได้เพิ่มเงินปันผลในแต่ละปีมานานกว่า 30 ปีติดต่อกันแม้จะดำเนินงานในภาคอุตสาหรรมที่มีความผันผวนสูง ซึ่งความสำเร็จนี้บ่งบอกได้ถึงคุณภาพของงบดุลของบริษัท
สรุป
ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ด้วยสถานการณ์ของน้ำมันและอุตสาหกรรมเคมีที่ผันผวนอยู่ในขณะนี้ทำให้ Exxon ตกอยู่ในสภาวะลำบากที่จะไต่ระดับขึ้นสูงในระยะอันสั้น และอย่างที่กล่าวไป เราเชื่อว่าการลงทุนระยะยาวกับ Exxon น่าจะเห็นผลดีกว่า และในช่วงที่หุ้นปรับลงก็ให้มองเสียว่าเป็นโอกาสที่จะเข้าถือหุ้นเพิ่ม