ความเสี่ยงที่มือใหม่ต้องระวัง
ตลาดหุ้นเป็นตลาดการลงทุน และการลงทุนย่อมมีความเสี่ยงเสมอ อีกทั้งผลตอบแทนก็ตามความเสี่ยงเช่นกัน
ทำให้ตลาดหุ้นแม้จะดูน่ากลัวแต่ก้มีคนที่พร้อมจะเสี่ยง ด้วยผลตอบแทนที่หอมหวาน ดึงดูด น่าสนใจ
ดังนั้น เพื่อให้นักลงทุนรายย่อย หรือ มือใหม่อย่างเราๆ อยู่รอดได้ คือ การบริหารความเสี่ยง
ซึ่งการบริหารความเสี่ยงมีมากมาย มีทั้งที่เราคาดการณ์ได้และคาดการณ์ไม่ได้
ซึ่งความเสี่ยงอย่างหนึ่ง คือ การที่ซื้อถือหุ้นข้ามวันมา แล้วเปิดตลาดมาอีกวันมันร่วงแรง !!!
กรณีจะเกิดเห็นการร่วงแรงเมื่อข้ามวันมีได้หลากหลายกรณี แต่ในโพสต์นี้ผมจะพูดถึง 2 กรณี คือ
1. การติดแคชบาลานซ์
เมื่อหุ้นมีการซื้อขายรุนแรงผิดปกติ จนเข้าเกณฑ์ของตลาด รายละเอียดเกณฑ์ของตลาดเข้า google หรือเวป set.or.th อ่านได้เลย
ตลาดจะมีการจับติดแคชบาลานซ์ หรือ ที่เราเรียกกันสั้นๆ ว่า " ติดแคช " หรือ " ติดคุก " นั่นเอง
การติดคุก หรือ ติดแคช ทำให้ต้องใช้เงินสด หรือ บัญชีแคชเท่านั้นในการซื้อขาย ไม่สามารถใช้พอร์ทเคาดิตหรือวงเงินในอนาคตเทรดได้
ทำให้วอลุ่มการเทรดของหุ้นตัวนั้นๆ อาจจะลดลงไป เพราะการเดย์เทรดหลายคนใช้วงเงินเครดิต ทำให้ผุ้เล่นส่วนหนึ่งถูกกันออกไป
เมื่อราคาวิ่งแรงผิดปกติจนเข้าเกณฑ์ ตอนเย็นอาจจะมีการประกาศว่า หุ้นตัวนั้นๆ ติดคุก
ส่วนใหญ๋ส่งผลให้เมื่อเปิดตลาดวันถัดไป หุ้นตัวนั้นๆ จะ " ดิ่ง " ร่วงลงแรง !!!
ซึ่งร่วงแล้วจะเด้งกลับมาใหม่ เป็นเรื่องของแนวโน้มราคาต่อไป
แต่ที่แน่ๆ คือ ใครที่หวังเก็งกำไร ห่อข้ามวัน หวังเล่นสั้นมา เจอปัญหาขาดทุนได้ทันที !!!
อาจจะห่อมากำไรดีๆ เจอประกาศติดคุกไป ตื่นเช้ามาใจสลายขาดทุนได้งงๆ
ดังนั้น จงระวังให้ดี อย่ามัวแต่เล่นด้วยการไล่ราคา !!!
2. การเพิ่มทุน
เรื่องการเพิ่มทุน รายละเอียดไปค้นใน google ได้เลย พิมพ์ว่า การเพิ่มทุน มีหลายท่านสรุปไว้มากมาย
ส่วนตัวผมจะอธิบายในมุมมองของผม ในฐานะนักลงทุนคนหนึ่งในตลาดหุ้นที่ไม่ได้อิงทฤษฎีทั่วไป
กรณีนี้อาจจะแตกต่างออกไปจากการเล่นทั่วไป เพราะการจะเพิ่มทุนได้นั้น ต้องเป็นการประกาศจากหุ้นตัวนั้นๆ
ซึ่งอาจจะประกาศจากมติที่ประชุมเลย หรือ เป็นเพียงการเล่นข่าวก่อน แล้วจะ เพิ่มทุน จริงหรือไม่ค่อยตามมา
ที่แน่ๆ หากหุ้นตัวใดมีข่าวเพิ่มทุนขึ้นมา ส่งผลไม่ดีต่อความรู้สึกผู้ถือหุ้นแน่ๆ แม้ว่าในระยะยาวจะดีหรือไม่ก็ตาม
เพราะว่า การเพิ่มทุน นั่นแปลว่า เราต้องเอาเงินไปซื้อหุ้นตัวนั้นเพิ่ม เรียกว่าโดนบังคับทางอ้อมก็ได้
ซึ่งนักลงทุนส่วนมาก โดยเฉพาะรายย่อยหรือมือใหม่ เวลาเทรดหุ้นคงไม่ได้เผื่อเงินไว้โดนบังคับซื้อเพิ่มแน่ๆ
หากเราเพิ่มทุน เราก็ผลประโยชน์ตามที่เค้าให้มา แต่ได้มาแล้วคุ้มค่ากับต้นทุนเก่าที่เรามีหรือไม่ หรืออนาคตจะดีหรือไม่ ไม่แน่นอน
หากเราไม่เพิ่มทุน เราก็จะเสียประโยชน์ และมีต้นทุนที่ยิ่งเสียเปรียบกว่าเดิม เพราะเราจะมีต้นทุนที่สูงกว่าคนเพิ่มทุนได้
โดยส่วนมาก หุ้นที่โดนประกาศเพิ่มทุน มักจะเจอราคาที่ไดรูท หรือ ร่วงลงมา
ดังนั้น หากเราเก็งกำไรหวังเล่นสั้น ห่อหุ้นข้ามมา แล้วเจอว่าหุ้นตัวนั้นเพิ่มทุน มีโอกาสที่ราคาวันถัดไปจะดิ่งลงไปได้ ขาดทุนแบบตกใจ
แต่ก็มีที่จะมีการไล่ราคาขึ้นไปก่อนวันกำหนดการเพิ่มทุน เพื่อดึงดูดให้นักลงทุนสนใจ
ซึ่งหุ้นส่วนใหญ่ที่มีโอกาสเพิ่มทุน มักจะเป็นหุ้นขาดกลางหรือเล็ก หรือ หุ้นที่พื้นฐานไม่ดีเท่าไหร่ หรือ งบไม่ได้มีกำไร
หรือต้องการทำอะไรสักอย่าง จึงระดมเงินจากผู้ถือหุ้นด้วยการเพิ่มทุน ซึ่งอนาคตจะดีหรือไม่ไม่สามารถบอกได้ชัดเจน
ที่แน่ๆ รายย่อยคงไม่อยากโดนบังคับเติมเงิน
ดังนั้น จงพยายามอย่าไล่ราคา
ผมจึงย้ำเสมอว่า เวลาเทรด อย่าหวังแต่กำไรให้เผื่อไว้บ้าง ให้บริหารความเสี่ยงไว้ด้วย และอย่าไล่ราคาเพราะความโลภว่ามันจะไปต่อแน่นอน
ตลาดหุ้นไม่มีอะไรแน่นอน อะไรก็เกิดขึ้นได้ โชคดีที่ช่วงปี 62-63 ที่ผ่านมาจนตอนนี้ปี 64 ตลาดหุ้นไม่ได้ใช้ลูกเล่นมาก
ถ้าใครทันตลาดหุ้นตั้งแต่ปี 57-60 จะรู้ว่าตลาดหุ้นมีลูกเล่นอะไรมากมาย ดับฝันเราเวลาประมาทได้แบบน่าใจหายเลย
จำไว้นะครับ เล่นหุ้นอย่าโลภ แต่จงบริหารความเสี่ยงให้มาก
รักนะสแกนหุ้น
ติดตามข่าวสาร เทคนิคการลงทุนที่น่าสนใจไปกับ Facebook fanpage สแกนหุ้น